สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เร่งระบายข้าวฉุดราคาร่วงหนัก

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผลการศึกษาชี้สังคมไทยยังเผชิญความเหลื่อมล้ำสูง ครอบครัวส.ส. 500 คนมีทรัพย์สินรวมกัน 4 หมื่นล้าน เท่ากับเกือบ 2 ล้านครอบครัวรวมกัน เมื่อวันที่ 4 เม.ย.สถาบันอนาคตไทยศึกษา ได้เปิดเผยผลการศึกษา เรื่อง "8ข้อเท็จจริงความเหลื่อมล้ำในไทย"....... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/QKWglTนักวิชาการชี้กระทบชาวนา คาดเหลือ6.5พันบาท/ตัน พาณิชย์เร่งระบายอีก8แสนตันสัปดาห์หน้า จ่ายหนี้โครงการจำนำแล้วกว่า6หมื่นล้าน

ข้าวไทยร่วงหนัก หลังจากรัฐบาลเร่งระบายข้าว ส่งผลราคาต่ำกว่าเวียดนาม-อินเดีย "สมพร" ชี้ ชาวนาได้รับผลกระทบระลอกใหม่ ต้องขายขาดทุน เหลือตันละ 6-6.5 พันบาท ด้านกระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลผ่านเอเฟท 8 แสนตันและผ่านพ่อค้า 4.24 แสนตัน ในสัปดาห์หน้า ขณะเอกชนเผยส่งออก 2 เดือนแรกพุ่ง 39.5% หลังราคาต่ำ จูงใจคู่ค้า ชี้แนวโน้มราคายังร่วงต่อเนื่อง

ราคาข้าวไทยในตลาดโลกร่วงหนัก หลังจากรัฐบาลเร่งระบายข้าวในสต็อกออกสู่ตลาดเพื่อนำเงินมาใช้หนี้ชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว โดยราคาต่ำกว่าข้าวเวียดนามและอินเดีย

ทั้งนี้ ราคาข้าวของไทยยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านอุปทานข้าวในตลาดที่มีปริมาณมาก โดยราคาข้าวไทยในขณะนี้ ซึ่งเป็นราคาที่ประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 2 เม.ย. ข้าวขาว 5% ราคาอยู่ที่ 394 ดอลลาร์ต่อตัน (เอฟโอบี) อยู่ในระดับใกล้เคียงกับราคาข้าวของเวียดนามซึ่งข้าวขาว 5%

ข้อมูลจาก ORYZA.COM ณ วันที่ 2 เม.ย. 2557 ราคาอยู่ที่ระดับ 385-395 ดอลลาร์ต่อตัน (เอฟโอบี) ในขณะที่ราคาข้าวอินเดียและปากีสถานกลับอยู่ในระดับที่สูงกว่าราคาข้าวไทย โดยข้าวขาว 5% ของอินเดียราคาอยู่ที่ระดับ 425-435 ดอลลาร์ต่อตัน (เอฟโอบี) และข้าวขาว 5% ของปากีสถานราคาอยู่ที่ระดับ 405-415 ดอลลาร์ต่อตัน (เอฟโอบี)

สำหรับ ข้าว 5% ฤดูกาลใหม่ของไทย กำหนดราคาขายที่ประมาณตันละ 380-380 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าข้าว 5% ของเวียดนามประมาณตันละ 5 ดอลลาร์ โดยข้าว 5% ของเวียดนามขายตันละ 385-395 ดอลลาร์ ส่วนข้าว 5% ของอินเดีย ขายที่ราคาตันละ 425-435 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าข้าว 5% ของปากีสถานตันละ 20 ดอลลาร์ โดยข้าว 5% ของปากีสถานขายตันละ 405-415 ดอลลาร์

ส่วนราคาข้าวเก่า 25% ของไทยกำหนดราคาขายที่ตันละ 345-355 ดอลลาร์ หรือต่ำกว่าข้าว 25% ของเวียดนามตันละ 10 ดอลลาร์ โดยข้าว 25% ของเวียดนามขายตันละ 355-365 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเมื่อวันก่อนตันละ 5 ดอลลาร์ ขณะที่ข้าว 25% ของอินเดียกำหนดราคาขายที่ตันละ 365-375 ดอลลาร์ หรือสูงกว่าข้าว 25% ของปากีสถานตันละ 5 ดอลลาร์ โดยข้าว 25% ของปากีสถานขายตันละ 360-370 ดอลลาร์

นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการสถาบันคลังสมองของชาติ กล่าวว่า ราคาข้าว 5% ของไทยเทียบกับเวียดนามและอินเดีย เนื่องจากรัฐบาลเร่งระบายข้าวเพื่อให้ได้เงินมาจ่ายให้ชาวนาและการที่เก็บข้าวไว้นานทำให้ข้าวไทยมีอำนาจต่อรองในตลาดที่ลดลงและมีราคาในตลาดต่างประเทศต่ำกว่าเวียดนามและอินเดีย

เมื่อนำราคาส่งออกที่ 390 ดอลลาร์ มาทอนเป็นราคาข้าวเปลือกในประเทศจะตกอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ที่ระดับความชื้น 15% ดังนั้น ชาวนาที่เก็บเกี่ยวในขณะนี้จะขายได้ที่ราคา 6,000-6,500 บาท ขึ้นอยู่กับความชื้น

"ราคาข้าวลดลงได้สร้างผลกระทบเป็นคลื่นลูกที่สองกับชาวนาซึ่งจะขายข้าวขาดทุนอีกระลอกหนึ่ง จนกว่ารัฐจะระบายสต็อกให้ลดต่ำลงได้"

พาณิชย์ระบายสต็อก8แสนตันสัปดาห์หน้า

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในสัปดาห์หน้า กระทรวงพาณิชย์ จะเปิดระบายข้าวสารสต็อกรัฐบาลรวมปริมาณเกือบ 8.07 แสนตัน แบ่งเป็น วันที่ 9 เม.ย. เปิดระบายข้าวสารสต็อกรัฐบาลผ่านการประมูลตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟท) 2 แสนตัน และวันเดียวกันกรมการค้าต่างประเทศจะเปิดให้เสนอราคาซื้อข้าวรายภูมิภาคปริมาณ 1.69 แสนตัน ที่จังหวัดสุพรรณบุรี

พร้อมกันนี้ ในวันที่ 10 เม.ย. กรมการค้าต่างประเทศจะเปิดประมูลข้าวสารสต็อกรัฐบาลเป็นการทั่วไป เพื่อใช้ในประเทศและส่งออก 4.24 แสนตัน แบ่งเป็นชนิดข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ข้าวหอมจังหวัด ข้าวปทุมธานี ข้าวขาว 5% ข้าวขาว 10% ข้าวท่อนหอมมะลิ และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ ที่ได้จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2554/55 ปี 2555/56 และปี 2556/57 และยังเปิดระบายข้าวสารเสื่อมสภาพและข้าวเปียกน้ำปริมาณ 1.36 หมื่นตัน ที่ได้จากโครงการรับจำนำนาปี 2549/50 นาปรัง 2555 และปีการผลิต 2555/56 ในวันเดียวกัน

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมได้เสนอผลการประมูลข้าวเอเฟทรอบ 8 ต่อนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ พิจารณาอนุมัติขายให้กับผู้ประกอบการที่เสนอราคาส่วนต่างเข้ามา โดยมีปริมาณขาย 7-8 หมื่นตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งราคาส่วนต่างที่อนุมัติขายอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ -2 บาท

“เร็วๆ นี้ ก็จะมีการเปิดประมูลเอเฟทในรอบ 9 วันที่ 9 เม.ย. ก็จะระบายข้าวผ่านเอเฟทตามกรอบที่กำหนดไว้ ซึ่งราคาที่ได้ก็ถือว่าเป็นราคาเหมาะสม เพราะหากรายไหนเสนอราคามาต่ำ ก็จะไม่อนุมัติขาย อย่างการพิจารณาเอเฟทในรอบ 8 ที่นำข้าวมาประมูลประมาณ 2 แสนตัน แต่ก็อนุมัติขายแค่ 7-8 หมื่นตัน ที่เหลือให้ราคาต่ำก็ไม่ขาย” นายสมชาติกล่าว

เร่งระบายคืนเงินยืมงบกลาง2หมื่นล้าน

แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ได้นำเงินที่ได้จากการระบายข้าวสต็อกรัฐบาลส่งคืนกระทรวงการคลังประมาณเกือบ 6,000 ล้านบาท ซึ่งรวมกับช่วง 2 สัปดาห์ก่อนที่ได้ส่งเงินคืนกระทรวงการคลังอีก 4,000 ล้านบาท รวมเดือนมี.ค.ได้ส่งเงินแล้วเกือบ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อนำไปสมทบการจ่ายคืนงบกลาง 2 หมื่นล้านบาท ที่ยืมมาจ่ายค่าข้าวให้กับชาวนาก่อน

“เงินที่ได้จากการระบายข้าวจะมาจ่ายให้กับงบ 2 หมื่นล้านบาทก่อน โดยคาดว่าเดือนเม.ย.จะทยอยคืนเงินได้เพิ่ม และจะคืนจนครบตามจำนวนได้ทันวันที่ 31 พ.ค.นี้ อย่างแน่นอน” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับการจ่ายเงินให้เกษตรกรที่จำนำข้าวเปลือกไปแล้ว โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ณ วันที่ 31 มี.ค. จำนวน 744,381 ราย จำนวน 832,894 สัญญา จำนวนเงิน 90,800 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก การจ่ายเงิน ณ วันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่จ่ายเงินให้เกษตรกรไปแล้ว 549,312 ราย จำนวน 621,747 สัญญา เป็นเงิน 67,294 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาแล้ว เกือบ 30,000 ล้านบาท

ราคาร่วงดันส่งออก2เดือนแรกเพิ่ม39.5%

ด้านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย รายงานว่าการส่งออกข้าวในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2557 มีปริมาณทั้งสิ้น 1.4 ล้านตัน มูลค่า 24,606 ล้านบาท โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้น 39.5% และมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2556 ที่มีการส่งออกปริมาณ 1.0 ล้านตัน มูลค่า 21,919 ล้านบาท

การส่งออกข้าวในเดือนก.พ.ที่ผ่านมา มีปริมาณเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนม.ค. เนื่องจากการส่งออกทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นมากจากเดือนก่อน ในขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิลดลงจากเดือนก่อน

ทั้งนี้ ข้าวขาวมีการส่งออกปริมาณรวม 349,248 ตัน เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปริมาณส่งออกในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยที่ข้าวขาวส่วนใหญ่จะส่งไปยังประเทศมาเลเซีย แคเมอรูน โมซัมบิก ไอเวอรี โคสต์ และ ญี่ปุ่น

ส่วนข้าวนึ่งมีปริมาณส่งออกรวม 178,057 ตัน เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยข้าวนึ่งส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังประเทศไนจีเรีย แอฟริกาใต้ เบนิน และเยเมนสำหรับข้าวหอมมะลินั้นมีปริมาณส่งออกรวม 157,529 ตัน ลดลง 17% เมื่อเทียบกับปริมาณส่งออกในเดือนม.ค. ที่ผ่านมา โดยข้าวหอมมะลิส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์

คาดราคาข้าวไทยร่วงลงต่อเนื่อง

สมาคมฯคาดว่าในเดือนมีนาคมนี้ จะมีการส่งออกข้าวประมาณ 700,000 ตัน เนื่องจากในช่วงนี้ราคาข้าวของไทยมีแนวโน้มอ่อนตัวลงอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ โดยเฉพาะข้าวขาวและข้าวนึ่งซึ่งในช่วงนี้ตลาดต่างประเทศให้ความสนใจสั่งซื้อมากขึ้น ในขณะที่ตลาดประจำที่นำเข้าข้าวหอมมะลิ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน และฮ่องกง จะยังคงมีการนำเข้าอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้ผู้ส่งออกจะยังคงเผชิญกับการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญ เช่น เวียดนาม ซึ่งผลผลิตในฤดูกาลใหม่มีปริมาณมากกว่าปีที่แล้วและกำลังออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีการปรับลดราคาข้าวของเวียดนามลงเพื่อแข่งกับข้าวไทย

นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากการที่รัฐบาลยังคงมีสต็อกข้าวปริมาณมาก และมีการระบายออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ซื้อบางส่วนขาดความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพข้าวและราคาข้าวที่อาจจะปรับลดลงอีกในอนาคต ประกอบกับในช่วงนี้ตลาดเป็นของผู้ซื้อ เพราะว่าอุปทานข้าวในตลาดมีปริมาณมาก ทำให้ผู้ซื้อมีทางเลือกมากขึ้น และมักจะเลือกซื้อจากแหล่งที่มีราคาถูกกว่า


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view