สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พักงาน รองผอ.อคส. ส่อพันทุจริตโครงการข้าวถุง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ผู้อำนวยการ อคส. สั่งพักงานรองผอ. ระบุอาจมีเอี่ยวทุจริตข้าวถุง พร้อมโยกย้ายหน.คลังสินค้า12จังหวัด ห่วงฝังรากลึกสร้างอิทธิพลเอื้อทุจริต

นายชนุตร์ปกรณ์ วงศ์สีนิล ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ลงนามหนังสือให้ผู้บริหารของอคส.ในระดับรองผู้อำนวยการจำนวน 1 ราย พักงานเป็นการชั่วคราว เนื่องจากได้รับข้อมูลว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะการนำข้าวสต็อกรัฐบาลไปจัดทำข้าวถุงเพื่อช่วยเหลือประชาชน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากคณะกรรมการ 3 ชุด ได้แก่ คณะกรรมการในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ มีนายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธาน คณะกรรมการที่บอร์ดอคส.ตั้งขึ้นมา และคณะกรรมการที่ตนได้สั่งตั้งขึ้นมา

โดยผู้ที่ถูกพักงาน ยังไม่ได้ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริต แต่เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างราบรื่น จึงต้องพักงานไว้ก่อน เนื่องจากเกรงว่าหากยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ อาจมีผลกระทบต่อการตรวจสอบและเมื่อผลสอบได้ข้อสรุปแล้ว จึงจะมีคำสั่งอื่นต่อไป

อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ก็จะดำเนินคดีทั้งอาญาและทางวินัยทันที

โยกย้าย 12 หัวหน้าคลังสินค้า

พร้อมกันนี้ ยังได้มีคำสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่ของ อคส. ในระดับหัวหน้าคลังสินค้าใน 12 จังหวัด ซึ่งหัวหน้าคลังที่ถูกโยกย้ายครั้งนี้ เนื่องจากมีการปฏิบัติงานในพื้นที่มาอย่างยาวนาน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการใช้อิทธิพลในพื้นที่ เปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้ง่าย จึงต้องมีการโยกย้าย เพื่อสลับตำแหน่งให้เกิดความเหมาะสมกับการทำงาน

“ข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับการทุจริตรับจำนำข้าวในแต่ละพื้นที่ พบว่าหัวหน้าคลังสินค้าก็มีส่วนที่จะเกิดพฤติกรรม ส่อไปในทางทุจริตได้ง่าย และการที่ผมสั่งหมุนเวียนตำแหน่ง ก็ทำให้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวลดน้อยลง ดูได้จากสถิติการร้องเรียนในปีนี้ลดน้อยกว่าปีที่ผ่านมา” นายชนุตร์ปกรณ์ กล่าว

คาดสอบทุจริตข้าวถุงเสร็จเดือนนี้

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดทำข้าวสารบรรจุถุงขององค์การคลังสินค้า กล่าวว่า คณะกรรมการฯได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้เรียกเจ้าหน้าที่ ฝ่ายบริหารของ อคส.และภาคเอกชนมาสอบสวนแล้ว และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนมี.ค. นี้ หลังจากนั้นจะรายงานผลการดำเนินการต่อรมว.พาณิชย์ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป

สำหรับคณะกรรมการชุดดังกล่าวนั้น ประกอบด้วย นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานกรรมการตรวจสอบฯ กรรมการตรวจสอบฯประกอบด้วย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ สำนักงานอัยการสูงสุด ตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นต้น ตั้งขึ้นเพื่อติดตามประเด็นที่ได้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อ 27-28 พ.ย.ปี 2556 ที่ผ่านมา และได้มีการกล่าวอ้างถึงการทุจริตเกี่ยวกับการจัดทำข้าวสารถุงของอคส.ด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบห้องทำงานของนายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการ อคส. ซึ่งมีการปลดป้ายชื่อหน้าห้องออกและเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้รับคำตอบว่า อยู่ระหว่างถูกพักงานตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เผยปี2556ดำเนินคดีข้าว127คดี

ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ได้สรุปผลการดำเนินคดีอาญาโครงการรับจำนำข้าว ตั้งแต่ปี 2554-2557 โดยปี 2554 มีจำนวน 2 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 2 ราย ปริมาณข้าว 6.2 ตัน ปี 2555 จำนวน 113 คดี ผู้ต้องหา 207 ราย ปริมาณ 3.2 หมื่นตัน มูลค่า 420 ล้านบาท

ปี 2556 จำนวน 127 คดี จำนวน 179 ราย ปริมาณ 3.4 หมื่นตัน มูลค่า 429 ล้านบาท ปี 2557 จำนวน 8 คดี จำนวน 13 ราย ปริมาณ 45 ตัน มูลค่า 6.2 แสนบาท รวม 250 คดี จำนวน 401 ราย ปริมาณข้าว 6.6 หมื่นตัน มูลค่า 850 ล้านบาท

สถานะของคดี อยู่ระหว่างสอบสวน 44 คดี อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ 95 คดี พนักงานอัยการสั่งไม่ฟ้อง 5 คดี ศาลตัดสินแล้ว 58 คดี ส่ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 7 คดี ส่ง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) 6 คดี ส่งศุลกากร 33 คดี และถอนคำร้องทุกข์ 2 คดี

จำแนกตามประเภทความผิด ได้แก่ คดีฉ้อโกง (สวมสิทธิเกษตรกร) 59 คดี ,คดียักยอกข้าว (โรงสี) 14 คดี, คดีเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำความผิด 13 คดี, ขนย้ายข้าวโดยไม่ได้รับอนุญาต 103 คดี, นำข้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านด่านศุลกากร 45 คดี และ คดีอื่นๆ 16 คดี

ทนายนายกฯค้านวิชาอนุไต่สวนจำนำข้าว

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เข้ายื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ขอคัดค้านการแต่งตั้งนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตจำนำข้าว เนื่องจากนายวิชาได้ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง โดยนายกฯ มองว่า บทสัมภาษณ์มีอคติ เหน็บแนม กระแนะกระแหน ถากถาง ดูหมิ่นเย้ยหยันผู้ถูกกล่าวหา จึงขอใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญและประมวลจริยธรรมของ ป.ป.ช.

นอกจากนี้ยังได้ยื่นหนังสือทวงตามประเด็นที่เคยขอตรวจเอกสารเพิ่มเติมนอกเหนือจากเอกสารชี้แจงโต้ข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. จำนวน 49 แผ่น เพราะเข้าใจว่าต้องมีเอกสารจำนวนมากกว่านี้ เพราะว่า ป.ป.ช. ไต่สวนอยู่นานกว่า 1 ปี ซึ่ง ป.ป.ช มีมติให้ตรวจสอบเพิ่มเติมได้แล้ว อย่างไรก็ตาม นายนรวิชญ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามว่า นายกฯ จะมาชี้แจงในคดีทุจริตจำนำข้าวด้วยตนเองหรือไม่

ป.ป.ช. พร้อมให้ยิ่งลักษณ์ตรวจเอกสารเพิ่ม

นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะรองโฆษกกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีกล่าวหาและขอให้ถอดถอน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย กรณีโครงการรับจำนำข้าว โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

วานนี้ (20 มี.ค.) คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณากรณีที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 มี.ค. ถึงประธานกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอตรวจพยานหลักฐานในสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวม 19 รายการ ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาเนื้อหาของรายการเอกสารทั้ง 19 รายการแล้ว เห็นว่า เป็นเนื้อหาเอกสารที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เคยให้ตรวจและมอบสำเนาเอกสารไปแล้ว และเอกสารบางรายการ เป็นที่ทราบโดยทั่วไป นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลย่อมมีเอกสารอยู่แล้ว เช่น เอกสารเกี่ยวกับการวิจัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช. โครงการศึกษามาตรการแทรกแซงตลาดข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต เอกสารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่มีไปถึงนางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นต้น อย่างไรก็ดี หากจะขอตรวจพยานหลักฐานในสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม คณะกรรมการ ป.ป.ช. พร้อมและยินดีจะให้ตรวจโดยจะได้นัดหมายอีกครั้ง

ชาวนาภาคตะวันตกบุกกรุง

ด้านความเคลื่อนไหวชาวนา วานนี้ (20 มี.ค.) กลุ่มชาวนาในภาคตะวันตก ได้แก่ จังหวัดราชบุรี เพชรบุรี นำโดย นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทยภาคตะวันตก และนายสุนทร จำปาหอม ชาวนาใน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ร่วมกันนำรถอีแต๋น รถอีต๊อก กว่า 50 คัน มารวมกันที่บริเวณถนนพระราม 2 หน้าหน่วยบริการประชาชนตู้ยามตำรวจทางหลวงวังมะนาว หมู่ที่ 5 ต.วังมะนาว กิโลเมตรที่ 83 อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เดินทางไปที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ

โดยรถอีแต๋น รถอีแต๊ก ส่วนหนึ่งจะนำขึ้นรถเทลเลอร์ เพื่อสะดวกต่อการเดินทาง ใช้เส้นทางถนนพระราม 2 มุ่งหน้าเข้าไปรวมตัวที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีเกษตรกรชาวนาจากหลายพื้นที่ไปรวมตัวกัน เพื่อกดดันเรียกร้องเงินจำนำข้าวจากรัฐบาล

นายสุนทร จำปาหอม กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มชาวนาภาคตะวันตกแทบไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ได้เงินในจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ จึงร่วมกับชาวนาหลายพื้นที่นำรถไถใหญ่ รถอีแต๋น รถอีแต๊ก กว่า 50 คัน และบางส่วนใช้รถไถนำขบวนเพื่อไปเรียกร้องเงินค่าข้าวและจะไม่ยอมกลับจนกว่าจะได้เงินค่าข้าว หรืออาจต้องแตกหักก็ยอม

การชุมนุมเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกรชาวนาในภาคตะวันตก ที่ถนนพระราม 2 และ ถนนเพชรเกษม มีมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องทวงเงินจำนำข้าว ซึ่งรัฐบาลได้รับปากกับชาวนา จะเร่งหาเงินมาจ่ายให้ แต่จนถึงวันนี้ผ่านไปเกือบ 3 เดือน กับการเรียกร้องทวงเงินจำนำข้าว แต่รัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view