สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เศร้า!ชาวนาดับอีก เครียดไม่ได้เงินจำนำข้าว

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ชาวนาพิจิตรที่เสียชีวิต ระหว่างชุมนุมทวงเงินจำนำข้าวกับทางรัฐบาล ถึงบ้านเกิดแล้ว ภรรยาและบุตรยังไม่รู้อนาคตหลังเสียเสาหลัก วอนรัฐจ่ายเงิน

ศพชาวนาพิจิตร ที่เสียชีวิตจากเส้น โลหิตในสมองแตก ระหว่างชุมนุมทวงเงินจำนำข้าว กับทางรัฐบาล ที่บริเวณกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงบ้านเกิด ภรรยาและบุตรยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับอนาคตหลังสูญเสียเสาหลักหารายได้ในบ้าน วอนขอให้รัฐ จ่ายเงินให้กับชาวนา และ ขอเป็นชาวนาคนสุดท้าย ที่เกิดการสูญเสีย ขณะที่ผู้ว่าฯ พิจิตร นำพวงหรีด อาลัยศพ พร้อมเตรียมหาสถานที่เรียน ต่อให้กับบุตรสาว ทั้ง 2 คน

เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 3 มีนาคม 2557 ที่บ้านเลขที่ 20 บ้านแหลมทอง หมู่ที่ 12 ตำบลแหลมรัง อำเภอบึงนาราง จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นบ้านของนายชินกร ชัยนาม อายุ 42 ปี ชาวนาหมู่ที่ 12 บ้านแหลมทอง ต.แหลมรัง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร ที่เสียชีวิตหลังเดินทางไปร่วมชุมนุมทวงเงินจำนำข้าว ครั้งที่ 3 ที่บริเวณกระทรวงมหาดไทย สาเหตุจากเส้นโลหิตในสมองแตก เนื่องจากความดันโลหิตขึ้นสูงและนอนแน่นิ่งอยู่หน้าเวทีชุมนุม แม้จะพยายามนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่นายชินกร ชัยนาม ได้เสียชีวิตในที่สุด โดยวันนี้เวลา 16.00 น. ได้มีพิธีลดน้ำศพ หลังจากที่ได้นำศพกลับมาจากกรุงเทพมหานคร โดยมี ภรรยา บุตรสาว และญาติมาร่วมพิธีกว่า 100 คน โดยบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

นางสมพร เลี่ยมบุญ อายุ 40 ปี ภรรยาของนายชินกร กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของสามี เนื่องจากสามีเป็นเสาหลักของครอบครัว สาเหตุก็เกิดจากความเครียดที่ไม่ได้รับเงินจำนำข้าวจำนวนเงิน 3.5 แสนบาท ซึ่งจำนำมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 ยังไม่ได้รับเงินจากรัฐบาล ขณะเป็นหนี้ค่ารถเกี่ยวค่าปุ๋ยค่ายา เงินใช้จ่ายในครอบครัวไม่มีต้องยืมเงินจากเพื่อนบ้านหลายครั้ง เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายการทำนา ค่าผ่อนรถไถ่ จำนวน 2 คัน กว่า 6 เหมื่นบาท ซึ่ง รวมแล้วกว่า 2 แสน อีกทั้งค่าเล่าเรียน ของลูก ซึ่ง รวมแล้วเป็นหนี้หลายแสนบาท

นางสมพร กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลเห็นความสำคัญของชาวนา และแก้ปัญหาให้กับชาวนาเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียขึ้นอีกเพราะขณะนี้ชาวนาอีกจำนวนมากเครียดจากการไม่ได้เงินค่าข้าว จึงวอนให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ปัญหาด้วยความจริงใจ และขอให้การเสียชีวิตของสามีตนเป็นรายสุดท้าย และไม่อยากเห็นการสูญเสีย ของชาวนาประเทศไทยอีกต่อไป

ด้าน นางสาวดวงสมร ชัยนาม บุตรสาว อายุ 17 ปี กล่าวว่า พ่อเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรง เจ็บป่วยน้อยมาก และเป็นพ่อที่อบอุ่น พูดคุยกับลูกด้วยความห่วงใยและไม่ค่อยจะพูดถึงปัญหาให้ลูกฟัง แต่ระยะหลังก็รู้สึกว่าพ่อเริ่มมีความเครียดขึ้นเรื่อยๆ ตอนทราบว่าพ่อตายรู้สึกช็อคเหมือนโลกหยุดหมุนทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่อยากฝากกลับรัฐบาลและผู้เกี่ยวข้องคืออยากให้แก้ปัญหาให้กับชาวนาให้เร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียเช่นครอบครัวของตน และอยากให้รับทราบถึงความรู้สึกของผู้ที่สูญเสียพ่อ ว่าเป็นอย่างไร เพราะเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนล้วนรักพ่อและอยากอยู่กับพ่อให้นานที่สุด

ต่อมาในช่วงเย็นที่ผ่านมา นายสุชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้เดินทางเพื่อนำพวงหรีดเคารพศพ และให้กำลังใจกับครอบครัว พร้อมกับมอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น พร้อมทั้ง เตรียมช่วยเหลือ หาสถานที่เรียนหนังสือให้กับลูกสาวของนายชินกร มีบุตรสาวด้วยกัน 2 คน คือคนแรก นางสาวดวงสมร ชัยนาม อายุ 17 ปี จบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 6 จากโรงเรียนโพธิสารพิทยาคม กรุงเทพมหานคร กำลังจะศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย และคนที่สองคือ เด็กหญิงพฤกษา ชัยนาม อายุ 12 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนแหลมรังราษฏร์บำรุง กำลังจะศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นที่หนักใจของภรรยากับอนาคตในการเรียนของบุตรสาวทั้งสองคนว่าจะเรียนต่ออย่างไรเพราะค่าใช้จ่ายจะต้องสูงขึ้นจากเดิมเป็นจำนวนมาก

สำหรับ นายชินกร ชัยนาม ชาวนาที่เสียชีวิตลงจากอาการเครียดของการจำนำข้าว ถือว่าเป็นชาวนารายที่ 2 ต่อจากชาวนา ในตำบลป่ามะคาบ อำเภอเมืองพิจิตร เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่ต้องเสียชีวิตลง จากการเครียดเรื่องเงินโครงการรับจำนำข้าว ของทางรัฐบาลที่ออกล่าช้า จนทำให้เกิดหนี้สินโดยศพของนายชินกร จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพทุกคืนที่บ้านของนายชินกร และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม 57 ณ วัดแหลมรัง ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้าน


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view