สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จีแคป รับเอ็นพีแอลชาวนาพุ่ง

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

จีแคปรับจ่ายเงินโครงการจำนำข้าวล่าช้า ส่งผลกระทบให้เอ็นพีแอลลูกค้าประเภทผู้รับจ้างเกี่ยวนวดข้าวเพิ่มจาก 5%เป็น 6% ตั้งทีมให้คำปรึกษาลูกหนี้

นายสันติ หอกิตติกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีแคปปิตอล หรือ GCAP บริษัทดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ อุปกรณ์สินค้าเกษตร เปิดเผยว่า จากปัญหาเกษตรกรได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวล่าช้า ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อบริษัทเช่นกัน เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ให้สินเชื่อกับอุปกรณ์การเกษตรขนาดใหญ่ ได้แก่ สินเชื่อรถเกี่ยวนวดข้าว ซึ่งผู้เช่าซื้อใช้เป็นอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพทำนา

"ปัญหาการรับจำนำข้าวจริงๆแล้วมีการจ่ายเงินล่าช้ามาตั้งแต่กลางปีก่อน เมื่อชาวนาได้เงินล่าช้า ก็ทำให้ผู้ที่ประกอบอาชีพรับจ้างเกี่ยวนวดข้าวได้เงินล่าช้าไปด้วย ส่งผลเป็นลูกโซ่มายังบริษัท เห็นได้จาก(หนี้ที่คาดว่าจะศูนย์)เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น โดยสิ้นปี 2556 จนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 6 % เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ที่ 5 % และการจ่ายเงินล่าช้าที่เพิ่มขึ้น"

เขากล่าวว่า ปัญหาดังกล่าว ทำให้บริษัทได้ปรับวิธีการ ดูแลลูกค้าใกล้ชิดมากขึ้น โดยหากผู้เช่าซื้อรายใด ผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือน บริษัทจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งควรพิจารณาว่าเกิดจากสาเหตุใด และจะมีศักยภาพในการผ่อนชำระหนี้ต่อหรือไม่ หากประเมินแล้วพบว่ามีโอกาสที่จะชำระหนี้ได้ ก็จะให้โอกาส แต่หากประเมินแล้ว ลูกค้าไม่มีศักยภาพในการชำระหนี้ได้จริง อาจเสนอให้ลูกค้าขายกรรมสิทธิ์ให้กับผู้อื่น ซึ่งบริษัทจะหาผู้ที่ต้องการรถเกี่ยวนวดข้าวมือ 2 เข้ามารับช่วงผ่อนชำระต่อ และตัวลูกค้าที่มีปัญหาจะได้รับเงินจากการขายกรรมสิทธิ์ด้วย วิธีการนี้จะดีกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ บริษัทได้มีการตั้งสำรองหนี้อยู่ที่ 8 % ของหนี้ทั้งหมด เพื่อจะเป็นการป้องกันความเสี่ยง และทำให้บริษัทมีความเข้มแข็งมากพอ

นอกจากนี้ บริษัทเห็นโอกาสที่โครงการรับจำนำข้าวมีปัญหา และส่งผลให้ชาวนาขาดสภาพคล่องทางการเงิน บริษัทมีแผนจะเปิดให้บริการ ธุรกิจสินเชื่อน้ำมันขึ้น โดยจะเปิดบริการแก่ลูกหนี้ของบริษัทที่มีการชำระเงินตรงตามกำหนดต่อเนื่อง และเป็นลูกค้าที่มีอายุเกิน 1 ปี สามารถมาติดต่อขอสินเชื่อน้ำมันได้ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีสภาพคล่องในการประกอบอาชีพมากขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทอาจคิดอัตราดอกเบี้ย 15 % ต่อปี ซึ่งความคืบหน้าในปัจจุบัน อยู่ระหว่างการเสนอให้คณะกรรมการบริหารของบริษัทพิจารณา

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทจีแคปฯ ปี 2556 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 936 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 27 % ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 163 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15 % ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31 % ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมีมติเสนอขออนุมัติประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 22 เม.ย.2557 ให้จ่ายปันผลครึ่งปีหลัง หุ้นละ 0.07375 บาท เมื่อรวมปันผลระหว่างกาลแล้ว ส่งผลให้ทั้งปี มีการจ่ายปันผลรวม 0.13 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับเป้าหมายในการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 20 % โดยมีจะขยายพอร์ตสินเชื่อให้อยู่ที่ระดับ1 พันล้านบาท จากสิ้นปี 2556 ที่ 900 ล้านบาท และจะรักษาระดับเอ็นพีแอลไม่เกิน 6 % รวมทั้ง บริษัทมีแนวคิดที่จะปรับเปลี่ยน สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อให้กระจายตัวมากขึ้น จากปัจจุบันมีพอร์ตสินเชื่อรถเกี่ยวนวดข้าวคิดเป็น 90 % ของพอร์ตรวม

"เหตุผลหลักที่เดิมเราเน้นธุรกิจรถเกี่ยวนวดข้าวเป็นหลัก เพราะมองว่า การที่บริษัทจะเริ่มเติบโต ต้องเสริมสร้างความมั่นคงให้กับบริษัทในขาใดขาหนึ่งก่อน แล้วค่อยขยายธุรกิจอื่น ซึ่งปัจจุบันขาธุรกิจเกี่ยวกับรถเกี่ยวนวดข้าวเริ่มแข็งแรง ทำให้เราอยากจะเสริม 2 ขาให้ดีขึ้น"

นายสันติกล่าวว่า ในอนาคตบริษัทจะแบ่งธุรกิจเป็น 3ประเภท คือ ธุรกิจปล่อยกู้รถเกี่ยวนวดข้าว ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อเกี่ยวกับสินค้าเกษตรประเภทอ้อย และสินค้าเกษตรประเภทปาล์มน้ำมัน โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแนวทางการทำธุรกิจ


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view