สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ปรีดิยาธร คาดระบายข้าวอีก3เดือนได้เงิน2หมื่นล.

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

"ปรีดียาธร"คาดปัญหาจำนำข้าวยืดเยื้อ พาณิชย์ ใช้เวลาระบายข้าวอีก 3 เดือน ได้เงินแค่ 2 หมื่นล้าน แนะให้ใช้เงินอุดหนุนปัจจัยการผลิตแทนรับจำนำ

เครือข่าวผู้รับใช้การปฏิรูปประเทศโดยสันติของประชาชนไทย ได้จัดเสวนาเรื่อง"จากทุกข์ของชาวนาไทย … สู่การปฏิรูปประเทศ" โดยมีวิทยากร ได้แก่ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวิชัย ศรีประเสริฐ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และนายอภิชัย พันธเสน ผู้อำนวยการสถาบันการจัดการเพื่อชนบทและสังคม ร่วมเสวนา

ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ปัญหาจากโครงการรับจำนำที่รัฐบาลยังไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้กับชาวนาได้อีกประมาณ 1.3 แสนล้านบาท แต่คาดว่ารัฐบาลจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้โดยเร็วนัก ถึงแม้ว่าจะแก้ปัญหาด้วยการระบายข้าวเป็นหลักโดยเห็นจากที่กระทรวงพาณิชย์เปิดประมูลขายข้าวประมาณ 4.5 แสนตันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะได้เงินเพียง 5 - 6 พันล้านบาทเท่านั้น ซึ่งความเป็นไปได้ก็คือรัฐบาลจะระบายข้าวจากสต็อกได้เงินเพียงประมาณ 2 หมื่นล้านบาทในระยะเวลา 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งเงินจำนวน 2 หมื่นล้านบาทนี้จะไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับชาวนาได้ทั้งหมด รัฐบาลควรจะนำเงินจำนวนดังกล่าวมาช่วยเหลือชาวนาที่จะนำข้าวเข้าโครงการรับจำนำอีกประมาณ 8 ล้านตันในปีการผลิตนาปรังในปีการผลิต 2557 ซึ่งจะทยอยเข้าโครงการตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. - พ.ค.นี้ โดยสนับสนุนเป็นปัจจัยการผลิต 2,000 - 3,000 บาทต่อตัน ขณะที่ข้าวที่จะเข้าโครงการควรให้ชาวนานำไปขายกับโรงสีในราคาตลาดที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 10,000 - 12,000 บาทต่อตัน

ทั้งนี้การขายข้าวให้กับโรงสีในกลไกปกติที่ไม่ใช่การรับจำนำข้าวจะช่วยให้เกิดประโยชน์ทั้งในเรื่องของการใช้เงินที่ลดลง และจะช่วยให้การส่งออกข้าวของประเทศไทยเริ่มเข้าสู่กลไกปกติ พ่อค้าข้าวของไทยจะสามารถกลับไปทำตลาด และมีโอกาสที่ประเทศไทยจะกลับมาส่งออกข้าวเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากขณะนี้ตลาดการค้าข้าวของโลกมีการส่งออกเพิ่มขึ้นจากเดิม 32 ล้านตันเป็น 39 ล้านตัน หากมีการบริหารจัดการที่ดีโดยรัฐบาลไม่เข้ามาแทรกแซงประเทศไทยจะมีโอกาสส่งออกข้าวได้อีกมาก

ม.ร.ว.ปรีดียาธร กล่าวด้วยข้อกล่าวหาที่รัฐบาลมีต่อผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส.ว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้ไม่สามารถกู้เงินมาจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับชาวนาได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่บิดเบือน เพราะเดิมรัฐบาลมีแผนที่จะให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ออกพันธบัตรวงเงิน 1.4 แสนล้านบาท แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการจนกระทั่งมีการยุบสภาฯทำให้รัฐบาลจ่ายเงินให้กับชาวนาได้เพียง 6 หมื่นล้านบาทเท่านั้นจากจำนวนเงินที่รัฐบาลต้องใช้ทั้งหมด 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งแนวโน้มที่โครงการรับจำนำข้าวจะขาดสภาพคล่องรัฐบาลรู้ปัญหานี้มานานแล้วแต่ไม่ได้วางแผนดีพอ

"รัฐบาลต้องเลิกคิดว่าตัวเองเก่งคนเดียวไม่ฟังใคร เพราะที่ผ่านมาคิดแบบนี้ประเทศจึงพังได้ขนาดนี้ ผมก็ใช้ความพายามในการเขียน และชี้แจงในโอกาสต่างๆแต่รัฐบาลก็ยังไม่ลาออก เพราะถ้าลาออกปัญหาแก้ได้ทันที เหมือนกับขาดหิริโอตัปปะ ขาดความละอายต่อบาปและความชั่วร้ายที่ทำมา ส่วนที่กล่าวโทษว่าการชุมนุมทำให้ไม่สามารถกู้เงินได้ก็เป็นการโกหกของรัฐมนตรีคลังที่ชื่อกิตติรัตน์ ซึ่งมักจะโกหกมาโดยตลอดจากโกหกสีขาวก็กลายเป็นโกหกสีดำไปแล้วในขณะนี้"ม.ร.ว.ปรีดียาธรกล่าว

นอกจากนั้นในการปฏิรูปการเกษตรของไทยเพื่อให้ชาวนามีชีวิตจความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น นอกจากการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตควรมีการวางแผนในเรื่องของการส่งเสริมให้ชาวนาไทยมีความรู้ในการปลูกพืชที่มีราคาสูงกว่าข้าว เช่น พืชพลังงานซึ่งต้องทำควบคู่ไปกับการผลักดันนโยบายการใช้พลังงานทดแทนเพื่อให้เกษตรกรไทยมีรายได้มากขึ้น


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view