สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พบ ไข้หวัดนก สายพันธุ์ใหม่H10N8เบาะแสชี้มีโอกาสแพร่เชื้อ คนสู่คน

พบ‘ไข้หวัดนก’สายพันธุ์ใหม่H10N8เบาะแสชี้มีโอกาสแพร่เชื้อ‘คนสู่คน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

       เอเจนซีส์ - คณะนักวิจัยจีนกำลังวิตกกังวล หลังพบไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H10N8 ที่ทำให้หญิงชราผู้หนึ่งเสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และพบหญิงอีกคนติดเชื้อเมื่อเดือนที่แล้ว โดยประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือการที่ไวรัสสายพันธุ์นี้กลายพันธุ์จนสามารถแพร่ เชื้อในเนื้อเยื่อระดับลึก เช่น ในปอด รวมทั้งความเป็นไปได้ในการแพร่เชื้อจากคนสู่คน
       
       ตามรายงานที่นำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (5 ก.พ.) ใน “ลานซิต” วารสารวงการแพทย์ที่ได้รับความเชื่อถือที่สุดของอังกฤษ ระบุว่า ควรต้องติดตามให้ใกล้ชิดไวรัสชนิดนี้ ซึ่งถือเป็นสายพันธุ์ที่ 5 ที่มีการค้นพบในรอบ 17 ปี เนื่องจากมีการกลายพันธุ์จนอาจสามารถติดเชื้อในเนื้อเยื่อภายในปอด และอาจมีคุณสมบัติที่ถ่ายทอดระหว่างคนกับคนได้
       
       ทีมนักวิจัยที่นำโดยเย่ว์หลง ซู จากศูนย์เพื่อการควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของจีนในปักกิ่ง เตือนในรายงานว่า ไม่ควรประเมินต่ำเกินไปเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการระบาดของไวรัสชนิดใหม่ นี้
       
       คำเตือนนี้มีขึ้นหลังการวิเคราะห์ตัวอย่างเนื้อเยื่อจากหญิงชราวัย 73 ปีที่เสียชีวิตในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรงและระบบหายใจล้มเหลว
       
       ต่อมาในวันที่ 18 ธันวาคม ทางการจีนประกาศว่า หญิงผู้นี้เสียชีวิตจากไวรัสไข้หวัดนก H10N8
       
       ผลการศึกษาที่รายงานไว้ในลานซิต เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อ H10N8 รายที่ 2 ในหนานชาง เช่นกัน เมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา ทว่า ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ
       
       ผู้ป่วยทั้งสองรายนี้เป็นกรณีการติดเชื้อ H10N8 ในคนครั้งแรกๆ โดยก่อนหน้านี้พบไวรัสสายพันธุ์นี้ 2 ครั้งในจีน ครั้งแรกในตัวอย่างน้ำในทะเลสาบที่มณฑลหูหนานเมื่อปี 2007 ครั้งที่ 2 พบในสัตว์ปีกมีชีวิตในมณฑลกวางตุ้งปี 2012
       
       อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า ไวรัสที่พบครั้งนี้มีความแตกต่างจากไวรัสเมื่อสองครั้งก่อน โดยส่วนสำคัญที่ผิดแผกไปคือการเรียงตำแหน่งทางพันธุกรรมกำลังเกิดการปรับ เปลี่ยน สืบเนื่องจากไวรัสสายพันธุ์ H9N2 ซึ่งเป็นไวรัสไข้หวัดนกที่ระบาดในฮ่องกงปี 1999 และเป็นต้นกำเนิดของสายพันธุ์อันตราย H5N1 และ H7N9
       
       ไวรัสไข้หวัดนกนั้นสามารถถ่ายทอดจากนกที่ติดเชื้อมาสู่คน ด้วยการติดต่อหรือสัมผัสระยะใกล้ แต่โดยปกติแล้วจะไม่ถ่ายทอดระหว่างคนกับคน
       
       แต่ประเด็นที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขกังวลในขณะนี้คือ แนวโน้มที่ H10N8 จะสามารถแพร่เชื้อระหว่างคนกับคนได้
       
       ทั้งนี้ H7N9 ที่ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 159 คนในจีน ในจำนวนนี้เสียชีวิต 71 ราย
       
       ส่วน H5N1 ที่พบการติดเชื้อในคนครั้งแรกที่ฮ่องกงในปี 1997 นั้น มีผู้ติดเชื้อ 648 คน โดยมีผู้เสียชีวิต 384 คน นับตั้งแต่ปี 2003
       
       สำหรับ H10N8 นั้น แผนที่พันธุกรรมบ่งชี้ว่ามีการกลายพันธุ์ในส่วนที่เรียกกันว่า “โปรตีน PB2” ของมัน ซึ่งงานวิจัยก่อนหน้านี้ค้นพบว่า โปรตีน PB2 นี้บ่งบอกความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้สามารถแพร่เชื้อสู่สัตว์ประเภท เลี้ยงลูกด้วยนม
       
       ไวรัสสายพันธุ์นี้ยังมีการกลายพันธุ์ในโปรตีนฮีแมกกลูตินิน ซึ่งอยู่บนผิวหน้าไวรัสและทำให้ไวรัสสามารถเกาะติดกับเซลล์อื่นๆ บ่งชี้ความสามารถในการติดเชื้อในเนื้อเยื่อระดับลึกอย่างเช่นในปอด แทนที่จะเป็นทางเดินหายใจส่วนบน เช่น หลอดลม
       
       การทดสอบตัวอย่างในห้องปฏิบัติการพบว่า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถรักษาด้วยยาต้านไวรัส “ทามิฟลู”
       
       อย่างไรก็ดี ยังมีคำถามคั่งค้างอีกหลายข้อ เช่น ผู้หญิงที่เสียชีวิตติดเชื้อได้อย่างไร
       
       รายงานระบุว่า หญิงชราผู้นี้ซื้อไก่เป็นจากตลาดสัตว์ปีกหลายวันก่อนที่จะล้มป่วย ทว่า นักวิจัยระบุว่า การติดเชื้ออาจเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น เนื่องจากเธอไม่ได้จับไก่เป็นๆ อีกทั้งไม่พบร่องรอยไวรัสสายพันธุ์นี้ในสัตว์ปีกในตลาดดังกล่าวแต่อย่างใด
       
       ผู้หญิงคนนี้ยังอาจเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายสำหรับไวรัส เนื่องจากมีสุขภาพอ่อนแอ เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงชนิดร้ายแรง
       
       นอกจากนั้น การตรวจผู้ที่ใกล้ชิดกับหญิงชราก็ไม่พบผู้ติดเชื้อแม้แต่คนเดียว
       
       หมิงปิน หลิว ผู้ร่วมจัดทำรายงานจากซีดีซีสาขาหนานชาง เสริมว่า การพบผู้ติดเชื้อ H10N8 รายที่ 2 ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก เนื่องจากบ่งชี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้ยังคงแพร่กระจายและอาจทำให้มีการติดเชื้อในคนเพิ่มขึ้นใน อนาคต
       
       อย่างไรก็ดี ดร.ลินดา คลาวินสกิส ผู้บรรยายอาวุโสวิชาภูมิคุ้มกันวิทยาจากคิงส์ คอลเลจในลอนดอน ระบุว่า H10N8 ไม่ใช่ภัยคุกคามเฉพาะหน้าแต่อย่างใด
       
       ขณะที่ดร.จอห์น แมคคอลีย์ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโรคไข้หวัดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (ฮู) กล่าวว่า แนวโน้มการระบาดรุนแรงของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้ยังไม่มีความชัดเจน กระนั้น การค้นพบผู้ติดเชื้อถือเป็นสัญญาณเตือนให้ระมัดระวังการติดเชื้อไวรัสไข้ หวัดใหญ่จากสัตว์สู่คน เช่น H7N9 ในจีนซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีใครคิดว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อันตราย ดังนั้น จึงสมควรมีการติดตามตรวจสอบ H10N8 อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน


นักวิทย์จีนเตือนระวังหวัดนกพันธุ์ใหม่ 'เอช10เอ็น8' หลังพบเหยื่อตาย 1 สาหัส 1

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

      เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ทีมนักวิทยาศาสตร์การแพทย์จีนออกโรงเตือน การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ เอช10เอ็น8 (H10N8) หลังพบหญิงชราติดเชื้อและเสียชีวิตเมื่อปลายปี 2556 ที่ผ่านมา และพบการติดเชื้อเพิ่มอีกหนึ่งรายในเดือน ม.ค. 2557
       
       รายงานข่าว (5 ก.พ.) อ้างอิงผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ลงในแลนซิต (Lancet) วารสารวิทยาศาสตร์การแพทย์ต่างประเทศ ใจความระบุ “เชื้อไวรัสเอช10เอ็น8 อันเป็นสายพันธุ์ไวรัสลำดับที่ 5 ในระยะเวลา 17 ปี สมควรได้รับการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เนื่องจากอาจเกิดการกลายพันธุ์และติดต่อระหว่างมนุษย์ด้วยกันผ่านเนื้อเยื่อ ส่วนลึกภายในปอดได้”
       
       “เราไม่ควรประมาทเลินเล่อกับเชื้อไวรัสตัวนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงของการแพร่กระจายสูงขึ้นกว่าอดีต” ซู เย่ว์หลง หัวหน้าทีมวิจัยจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อในกรุงปักกิ่ง กล่าว
       
       “แม้ว่าเราอาจพบกรณีการติดเชื้อของ เอช10เอ็น8 ได้น้อย แต่ข้อเท็จจริงที่ว่ามันได้ก้าวข้ามจากสัตว์ปีกมายังมนุษย์ ถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล”
       
       ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ตัดสินใจประกาศเตือนหลังจากเจ้าหน้าที่ดำเนินการวิเคราะห์ ตัวอย่างเชื้อไวรัสจากร่างของหญิงชรา วัย 73 ปี ชาวเมืองหนันชัง มณฑลเจียงซี ที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ซึ่งได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นว่าเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรงจนทำให้ระบบทาง เดินหายใจล้มเหลว และพบรายงานผู้ติดเชื้อรายที่ 2 ในเมืองหนันชัง เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ทว่าไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ ออกมา
       
       เจเรมี่ ฟาร์ราร์ (Jeremy Farrar) ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเวลคัม ทรัส (Wellcome Trust) ในอังกฤษ และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไข้หวัดใหญ่ กล่าวว่า เราควรเพ่งเล็งเชื้อไวรัสที่แสดงลักษณะพิเศษของการกลายพันธุ์ การส่งต่อเชื้อ และภาวะดื้อยา ซึ่งเชื้อไวรัสเอช10เอ็น8 ล้วนเข้าข่ายเหล่านี้ทุกประการ
       
       อนึ่ง กรณีผู้ติดเชื้อทั้งสองรายนับเป็นการตรวจพบเชื้อเอช10เอ็น8 ในมนุษย์เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้เคยพบเชื้อดังกล่าวในตัวอย่างน้ำจากทะเลสาบมณฑลหูหนัน ปี 2550 และพบในสัตว์ปีกมีชีวิตของมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) ปี 2555 ซึ่งผลการศึกษาระบุว่า “เชื้อไวรัส เอช10เอ็น8 ที่ตรวจพบครั้งล่าสุด กลับมีลักษณะแตกต่างจากสองครั้งก่อนหน้าอย่างชัดเจน”

นักวิทย์จีนเตือนระวังหวัดนกพันธุ์ใหม่ 'เอช10เอ็น8' หลังพบเหยื่อตาย 1 สาหัส 1
(แฟ้มภาพ - รอยเตอร์ส)

       ลายแทงรหัสพันธุกรรม เผยความลับเชื้อไวรัสมรณะ
       
       ทีมนักวิจัยเผยว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดไวรัสลูกผสมสายพันธุ์ใหม่ คือ กระบวนการสับเปลี่ยนพันธุกรรมของเซลล์สิ่งมีชีวิต โดย เอช10เอ็น8 มีเชื้อไวรัส เอช9เอ็น2 (H9N2) เป็นตัวตั้งต้นของการสับเปลี่ยนฯ
       
       “ค่อนข้างน่าวิตกว่า เอช10เอ็น8 อาจค่อยๆ พัฒนาตัวเองจนสามารถส่งต่อเชื้อระหว่างมนุษย์ได้ง่ายขึ้น” หัวหน้าซูกล่าว โดยจากการศึกษาพบว่า เอช10เอ็น8 มีการกลายพันธุ์ในส่วนโปรตีนพีบี2 (PB2 protein) ซึ่งงานวิจัยในอดีตระบุว่าโปรตีนตัวดังกล่าวสามารถปรับตัวเพื่อแพร่เชื้อใน กลุ่มสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมได้
       
       นอกจากนั้นพบการกลายพันธุ์ในส่วนโปรตีนฮีเมกกลูตินิน (Haemagglutinin protein) ที่อยู่บนผิวหน้าเชื้อไวรัส ซึ่งช่วยให้ไวรัสสามารถเกาะติดกับเซลล์อื่นๆ อย่างแน่นหนา อันเป็นสาเหตุให้เกิดติดเชื้อในเนื้อเยื่อส่วนลึกของปอดได้ง่ายกว่าอวัยวะ ทางเดินหายใจส่วนบนของร่างกายมนุษย์
       
       อย่างไรก็ดี ผลการทดลองจากห้องแล็ปชี้ว่า สามารถจัดการไวรัสตัวใหม่นี้ได้ด้วยยาต้านไวรัส “ทามิฟลู” (Tamiflu)
       
       ทั้งนี้ เชื้อไวรัส เอช9เอ็น2 ต้นกำเนิดของ เอช10เอ็น8 ปรากฏตัวบนเกาะฮ่องกงในปี 2542 โดยเชื่อว่ามันเป็นต้นกำเนิดของเชื้อไวรัส เอช5เอ็น1 (H5N1) ปี 2540 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อ 648 คน เสียชีวิต 384 ราย และ เอช7เอ็น9 (H7N9) ปี 2556 ซึ่งระบาดตั้งแต่ต้นปี 2556 ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อกว่า 159 คนในจีนแผ่นดินใหญ่ และเสียชีวิต 71 รายแล้ว
       
       ทว่า “หญิงชราติดเชื้อได้อย่างไร” ยังคงเป็นคำถามค้างคาใจ โดยประวัติระบุว่าเธอซื้อไก่เป็นๆ จากตลาดค้าสัตว์ปีกหลายวันก่อนล้มป่วยด้วยอาการไข้สูงและปอดบวมรุนแรงในวัน ที่ 30 พ.ย. 2556 แพทย์ได้จ่ายยาปฏิชีวนะและยาต้านไวรัส แต่อาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ระบบอวัยวะภายในล้มเหลวหลายจุด และเสียชีวิตหลังแสดงอาการได้ 9 วัน โดยนักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่า เธออาจได้รับเชื้อก่อนหน้านั้น เนื่องจากเธอไม่ได้สัมผัสไก่เป็นๆ และไม่ตรวจพบร่องรอยไวรัสในสัตว์ปีกของตลาดแห่งดังกล่าว
       
       หลิว หมิงปิน เจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อเมืองหนันชัง ซึ่งร่วมทำการศึกษาครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า กรณีการติดเชื้อรายที่สองของหญิงวัย 55 ปี กลายเป็นความกังวล เพราะมันสื่อว่า เอช10เอ็น8 ยังคงแพร่กระจายและมีแนวโน้มการติดเชื้อมากขึ้นในอนาคต
       
       ด้านจอห์น แม็คคอลลีย์ หัวหน้าศูนย์ประสานงานและวิจัยโรคไข้หวัดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่า กรณีเชื้อไวรัสเอช10เอ็น8 และเอช7เอ็น9 ย้ำเตือนให้เราตระหนักและระมัดระวังการแพร่เชื้อจากสัตว์สู่มนุษย์ให้มาก ขึ้น แม้ความเสี่ยงของการส่งต่อระหว่างคนสู่คนจะอยู่ในระดับต่ำ
       
       บรรดาผู้เชี่ยวชาญโรคไข้หวัดใหญ่คนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัยต่างเห็นด้วยว่า ควรเฝ้าระวังการแพร่กระจายและกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส เอช10เอ็น8 ซึ่งปัจจุบันจะยังไม่พบการระบาดที่ชัดเจนก็ตาม


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view