สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ชาวนาพิษณุโลกยัวะ! วิ่งทวงเงินจำนำข้าวทั่วเมืองยังแห้ว-ด่า รบ.ขี้โกง

ชาวนาพิษณุโลกยัวะ! วิ่งทวงเงินจำนำข้าวทั่วเมืองยังแห้ว-ด่า“รบ.ขี้โกง

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

พิษณุโลก - ชาวนาสองแควแห้วอีก! วิ่งทวงเงินจำนำข้าววุ่น ขอพบผู้ว่าฯก็หลบหน้า หายจากศาลากลางฝากบอกเพียงว่า “ไม่ฟ้องกลุ่มที่บุกประชิดถึงห้องทำงาน” ไปธ.ก.ส.ก็ทำได้แค่ยื่นขอเร่งรัดจ่ายกลุ่มเดือดร้อนก่อน เสนอขับอีแต๋นเข้ากรุงก็ท้อ จนยั้วะตะโกน “รับบาลขี้โกง”ทั่วเมือง
       
       วันนี้ ( 31 ม.ค.) ร.อ.อุบล พุทธรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดพิษณุโลก ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน เชิญกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านหารือกันที่หลังที่ว่าการอำเภอเมือง จ.พิษณุโลก เพื่อหาข้อสรุปทวงถามการดำเนินการเร่งรัดจ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าว หลังนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัด รับปากจะอยู่เคียงข้างเกษตรกร แต่ล่าสุดรัฐบาลยังไม่สามารถกู้เงินมาได้ทันตามกำหนดวันที่ 31 ม.ค.
       
       โดยแกนนำในหลายอำเภอได้เสนอแนวทาง เช่น 1.การ NO VOTE เลือกตั้ง แต่ไม่มีผู้สนับสนุน 2.นำมวลชนเรียกร้องเข้ากทม. แต่ก็ไม่มีผู้สนับสนุน 3.นำมวลชนประท้วงปิดถนน มีผู้สนับสนุน 2 คน 4.นำมวลชนประท้วงปิดศาลากลาง ไม่มีผู้สนับสนุน 5.ยื่นหนังสือฟ้องรัฐบาลผ่านสภาทนายความ มีผู้สนับสนุน 10 คน 6.ให้ผู้ว่าฯทำหนังสือถึงนายอำเภอทุกอำเภอ หางบช่วยเหลือชาวนา ที่ได้รับความเดือดร้อน พร้อมกับรอคำตอบจากรัฐบาลในการทวงเงินจำนำข้าว
       
       อย่างไรก็ตามกลุ่มชาวนาจากหลายอำเภอรวมกว่า 100 คน ไม่เห็นด้วยกับแกนนำ ต่างมารวมตัวกันที่บริเวณทางขึ้นหน้าศาลากลางจังหวัดฯ เพื่อขอพบนายระพี ทวงถามสัญญาที่ว่า จะอยู่เคียงข้างชาวนา นัดให้มาหาศาลากลางในวันที่ 31 ม.ค. หากรัฐบาลไม่จ่ายเงินโครงการรับจำนำข้าวให้ชาวนา
       ปรากฏว่าไม่ได้อยู่ที่ศาลากลางจังหวัด และไม่มีตัวแทนมาพบกับชาวนา เพียงแต่ฝากบอกว่า ไม่ฟ้องกลุ่มชาวนาที่บุกขึ้นไปเข้าห้องทำงาน วางป้ายนำป้าย " เอาข้าวกูไป จ่ายเงินกูมา" พร้อมเป่านกหวีดดังสนั่น เมื่อวานนี้(30 ม.ค.)
       
       แต่กลุ่มชาวนาที่รวมตัวกันศาลกลางวันนี้ ถือว่าไม่มีแกนนำจัดตั้งชัดเจน ไม่มีผู้นำท้องถิ่น เพียงแต่เคยมาเรียกร้องกลางสี่แยกอินโดจีนมาแล้ว ยืนยันว่ามาตามนัด ที่บอกให้มาสอบถามความคืบหน้าของการจ่ายเงินรับจำนำข้าว
       
       ต่อมา นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาพบกับกลุ่มชาวนา พร้อมบอกว่ารัฐบาลไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนาแล้ว เพราะเป็นรัฐบาลรักษาการ กู้เงินจากธนาคารก็ไม่ได้ ทำได้อย่างเดียว คือต้อ เอาข้าวที่รับจำนำไปขาย แต่ก็ไม่ทำ กลับทำแต่เรื่องกู้เงิน
       
       นพ.วรงค์ ประกาศหน้าศาลากลางพิษณุโลกว่าให้ชาวนานำรถอีแต๋น เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปหานายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปสส. และร้องกับสภาทนายความ แต่พอประชุมกับตัวแทนชาวนาอำเภอต่างๆ กลับได้ข้อสรุปว่า จะไม่เข้ากรุงเทพฯ เนื่องจากมวลชนมีจำนวนน้อย
       
       ต่อมาชาวนากลุ่มดังกล่าวได้เดินร้องตะโกนด่ารัฐบาลว่า"โกงข้าวชาว นา"ไปตามท้องถนน มุ่งหน้าไปธ.ก.ส.พิษณุโลก เพื่อยื่นรายชื่อให้เร่งรัดจ่ายเงินให้กับชาวนากลุ่มที่เดือดร้อนก่อน หากมีเงินโอนเข้ามาลักษณะขอลัดคิว
       
       นางศศิประภา กุคง อายุ 52 ปี หรือ เจ๊วรรณ ชาวนาจากต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม เปิดเผยว่า มาศาลากลางเพราะผู้ว่าฯประกาศเองเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่าวันที่ 25-31 ม.ค. ผู้ใดยังไม่ได้เงิน ให้มาที่ศาลากลาง แล้วผู้ว่าฯจะเป็นคนนำทีมทำอะไรก็ได้ ตามใจเกษตรกร แต่วันนี้เรามากลับไม่อยู่
       และไม่มีคนมาดูแล ไหนบอกผู้ว่าฯจะยืนเคียงข้างประชาชน สงสัยวันนี้ชาวนาต้องขอทานจากคนเมืองแล้ว


ลูก “ยายไฮ ขันจันทา” พร้อมชาวนาตบเท้าร้องสภาทนายความไม่ได้เงินจำนำข้าว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

อุบลราชธานี - นางเพชร ขันจันทา ลูกคนสุดท้องยายไฮ ขันจันทา ผู้เฒ่าทุบฝายห้วยละห้าเมื่อสิบปีก่อน พาชาวนาใน 2 อำเภอร้องสภาทนายความช่วยดำเนินคดีรัฐบาลไม่จ่ายเงินค่าจำนำข้าวโครงการปี 2556/2557 เป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท
       
       วันนี้ (31 ม.ค.) ที่สำนักงานสภาทนายความประจำจังหวัดอุบลราชธานี นางเพชร ขันจันทา อายุ 40 ปี ลูกสาวยายไฮ ขันจันทา นำเกษตรกรชาวนาจากอำเภอนาตาล และอำเภอเขมราฐ จำนวน 31 รายเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือต่อสภาทนายความ
       
       เนื่องจากได้นำข้าวประจำฤดูการผลิตปี 2556/2557 ไปจำนำกับรัฐบาลมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ยังไม่ได้รับเงินค่าข้าวเปลือก
       
       ต่อมานายวิสิทธิ์ ศักดิ์สิงห์ ประธานสภาทนายความประจำจังหวัดอุบลราชธานี ให้กลุ่มชาวนาทั้งหมดทำเรื่องร้องขอรับความช่วยเหลือทางกฎหมายไว้กับสภาทนาย ความประจำจังหวัด และจัดส่งรายชื่อชาวนาที่มาขอความช่วยเหลือทั้งหมดให้สภาทนายความแห่งประเทศ ไทย เพื่อสงวนสิทธิใช้ในการยื่นฟ้องร้องรัฐบาลต่อศาลในครั้งต่อไป
       
       สำหรับนางเพชร ขันจันทา เป็นลูกคนสุดท้องจากจำนวน 11 คนของยายไฮ ขันจันทา ชาวนาจากอำเภอนาตาลที่ลุกขึ้นทุบทำลายฝายห้วยละห้าหลังได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่ดินทำกิน และได้รับที่ดินกลับคืนไปเมื่อปี 2547
       
       ต่อมาในปีนี้นางเพชร และพี่สาว ได้นำข้าวเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเป็นครั้งแรก เพราะคิดจะได้รับเงินค่าส่วนต่างมากกว่านำไปขายให้โรงสี แต่ก็ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการจนถึงบัดนี้เป็นเงินหลายแสนบาท


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view