สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

แผนกู้จ่ายหนี้ข้าววุ่น รอกฤษฎีกาเคาะ

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

รัฐบาลอ้างเพิ่งได้หนังสือความเห็นกู้เงินจ่ายหนี้จำนำข้าวจาก กกต. เร่งส่งกฤษฎีกา "วราเทพ" เชื่อได้ข้อสรุปแหล่งเงินจ่ายชาวนาเร็วๆนี้

การจัดหาแหล่งเงินเพื่อจ่ายหนี้ค่าข้าวให้กับชาวนาวงเงินกว่า 1 แสนล้านบาท ยังเป็นประเด็นสำคัญของรัฐบาลในช่วงเวลานี้ หลังจากส่งเรื่องขอความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีการกู้เงิน 1.3 แสนล้าน จากการโยกหนี้สาธารณะในหมวดลงทุนพื้นฐานมาใช้เป็นเงินหมุนเวียนเพื่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งรัฐบาลยังไม่มีความมั่นใจว่าการกู้เงินดังกล่าวเป็นผลผูกพันครม.ชุดต่อไปซึ่งเป็นข้อห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 181(3)หรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการหนี้สาธารณะ ซึ่งรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง นัดชี้แจงกับสื่อมวลชนช่วงเย็นวานนี้ (23 ม.ค.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งใช้เป็นที่ทำงานชั่วคราวของรัฐบาล โดยผู้สื่อข่าวหลายสำนักต่างรอความเห็นจากนายกิตติรัตนย์ แต่นายกิติรัตน์ได้มอบหมายให้ทีมเลขาและเจ้าหน้าที่แจ้งสื่อมวลชนว่าไม่ต้องรอ โดยรองนายกฯเดินทางออกจากสำนักปลัดกลาโหมไปแล้ว ก่อนเลขาจะขึ้นรถที่นายกิตติรัตน์ใช้ประจำออกไป หลังสื่อมวลชนบางส่วนเดินทางกลับไป นายกิตติรัตน์ได้เดินลงมาจากตึกอย่างเร่งรับก่อนขึ้นรถผู้ติดตามออกไปไล่หลังในทันที

นายกิตติรัตน์เลี่ยงผู้สื่อข่าวในประเด็นแหล่งเงินที่จะจ่ายให้ชาวนา หลังจากข้าราชการในกระทรวงการคลัง เกรงว่าการรับคำสั่งรัฐบาลในการกู้เงินเสี่ยงฝ่าฝืนกฎหมายและอาจถูกฟ้องร้องดำเนินคดีภายหลังได้ ขณะที่มีชาวนาผู้ได้รับความเดือดร้อนเคลื่อนไหวปิดถนนในหลายจังหวัดเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจ่ายเงินที่ยังติดค้างอยู่

วราเทพชี้ต้องรอกก.กฤษฎีกา

นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลมีการส่งหนังสือไปไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อสอบถามความเห็นเรื่องการขอกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาท เพื่อมาจ่ายให้กับชาวนา รัฐบาลเพิ่งจะได้รับหนังสือตอบรับจาก กกต. อย่างเป็นทางการเมื่อเช้าวันนี้ (23 ม.ค.) จึงได้ส่งหนังสือกกต. ไปให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อประกอบการพิจารณาการกู้เงินในโครงการนี้แล้ว

"แม้กกต.บอกว่าเป็นดุลพินิจของรัฐบาล แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะต้องใช้เอกสารอย่างเป็นทางการของ กกต.ในการพิจารณาประกอบด้วย คาดว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด หลังจากนั้นจะเป็นการพิจารณาวิธีการและแหล่งกู้เงินซึ่งรมว.คลังจะเดินหน้าเรื่องนี้ให้ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว" นายวราเทพ กล่าว

สบน.เล็งกู้สัปดาห์ละหมื่นล้าน

รายงานข่าวจากสำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุว่า หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มติให้กู้เงินเพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าววงเงิน 1.3 แสนล้านบาทแล้ว ทาง สบน.ได้มีหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาอีกครั้ง เพื่อดูให้รอบคอบก่อนจะทำการกู้เงิน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 30 วันนี้ หลังจากนั้น สบน.จึงจะดำเนินการกู้เงินให้โดยทยอยกู้สัปดาห์ละหมื่นล้านบาท ทั้งในรูปแบบของการกู้จากสถาบันการเงินและการออกพันธบัตร

"ต้องถามกฤษฎีกาก็เพื่อความรอบคอบเพราะเป็นเงินจำนวนมากและคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งรวมทั้งการทยอยกู้ด้วย"แหล่งข่าวสบน.กล่าว

ธ.ก.ส.ให้กู้ 80%ของใบประทวน

ด้านนายส่งเสริม ศักดิ์สิทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า คณะกรรมการธนาคาร มีมติเห็นชอบ มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าที่ถือใบประทวน แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวกว่า 1.4 ล้านราย ในระหว่างที่รอเงินกู้จำนวน 1.3 แสนล้านบาท โดยให้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์ การให้สินเชื่อรอการขายผลผลิตใหม่ ให้เกษตรกรสามารถมาขอใช้วงเงินกู้ได้มากขึ้น โดยเบื้องต้นตั้งวงเงินไว้ 4-5 หมื่นล้านบาทและขยายวงเงินต่อราย จากให้วงเงินไม่เกิน 20% ของมูลค่าผลผลิตตามใบประทวนเป็นให้กู้ได้ถึง 80% แต่จะพิจารณาตามราคาตลาดไม่ใช่ราคารับจำนำ รวมทั้งยังลดหย่อนการใช้หลักประกันให้ด้วย ที่สำคัญ ยังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ด้วย จากเดิมที่อยู่ในระดับ 7% จะลดลงมาเหลือ 3-5% เท่านั้น

นอกจากนั้น ส่วนของลูกค้าที่มีกำหนดครบชำระหนี้ในเดือนมี.ค.นี้ จำนวนหลายแสนราย ธ.ก.ส.ก็จะขยายเวลาการชำระหนี้ออกไป 6-12 เดือนโดยไม่คิดเบี้ยปรับในอัตรา 3% อีกด้วย

เขาเชื่อว่า ภายในเดือนมี.ค.นี้ รัฐบาลน่าจะจ่ายเงินได้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้มั่นใจว่า ลูกค้าจะชำระหนี้คืนได้ตามปกติ จากปีก่อนจ่ายเข้ามา 90% ปีนี้อาจลดลงบ้าง แต่เกินครึ่งอย่างแน่นอน โดยมองว่าหนี้เสียจะเพิ่มจากปีก่อน 4% มาอยู่ที่ 4.3% เท่านั้น

คาด 3 วันเริ่มมาตรการช่วยลูกค้า

ด้านนายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า การช่วยเหลือชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการจำนำข้าว แบ่งออกเป็น 2 ส่วนโดยส่วนแรก การขยายระยะเวลาการชำระหนี้ออกไปไม่เกิน 1 ปี โดยยกเว้นเบี้ยในอัตรา 3% ส่วนที่สอง คือ การเพิ่มวงเงินสินเชื่อให้มากกว่า 20% ของผลผลิตที่รอการขาย โดยเตรียมใช้ได้ภายใน 2-3 วันนี้

กรุงไทยปัดปล่อยกู้จำนำข้าว

นายวรภัค ธันยาวงษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า ธนาคารได้อนุมัติเงินกู้ 1.6 แสนล้านบาท ให้รัฐบาลในโครงการรับจำนำข้าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ธนาคารไม่ได้ปล่อยกู้ให้กับรัฐบาลในโครงการดังกล่าว และการประชุมคณะกรรมการธนาคารวานนี้ (23 ม.ค.) ไม่มีวาระการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. นำเงินไปจ่ายในโครงการรับจำนำข้าว

ทั้งนี้ ขาเชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะไม่ใช้ธนาคารกรุงไทย เป็นเครื่องมือในโครงการดังกล่าว เพราะกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์ ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ มีผู้ถือหุ้นรายย่อยและสถาบันมากกว่า 45% รวมทั้งต้องแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น และในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน ธนาคารใช้มาตรฐานเดียวกัน โดยคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ

สหภาพแถลงการณ์ด่วนปัดปล่อยกู้

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารกรุงไทย ออกแถลงการณ์ด่วนถึงกรณีที่มีกระแสข่าวในโซเชียล มีเดีย ต่างๆ เกี่ยวกับการที่ธนาคารกรุงไทยให้สินเชื่อโครงการรับจำนำข้าว 1.6 แสนล้านบาทว่า สหภาพฯ ได้ติดตามและเจาะลึกหาข้อมูลเชิงลึกพบว่า ธนาคารกรุงไทยมิได้ปล่อยสินเชื่อให้กับธนาคารของรัฐดังกล่าวในโครงการดังกล่าว

ส่วนการปล่อยกู้ให้แก่ลูกค้าทั่วไปทั้งบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลต่างๆ นั้นเป็นเรื่องปกติของธุรกิจธนาคาร ทั้งนี้ธนาคารใช้หลักเกณฑ์การปล่อยกู้ โดยคำนึงถึงปัจจัยความเสี่ยงต่างๆ และความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้หรือผู้ค้ำประกันเป็นสำคัญ โดยพิจารณาผ่านฝ่ายกลั่นกรองสินเชื่อและคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องตามความเหมาะสมกับสภาพธุรกิจ ฐานะทางการเงินและคำนึงถึงการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด

"ป.ป.ช."กังขาพาณิชย์พานักข่าวบินไปจีน

นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการไต่สวนการทุจริตโครงการจำนำข้าว กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์มีกำหนดการนำผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจีน เพื่อตรวจสอบกรณีการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ภายหลัง ป.ป.ช.ได้แถลงผลการไต่สวนการขายข้าวแบบจีทูจีว่าส่อไปในทางทุจริต ไม่มีอยู่จริง ว่า การดำเนินการของกระทรวงพาณิชย์ในกรณีนี้เป็นเรื่องที่แปลก เพราะเป็นการสู้คดี โดยเอานักข่าวไปดูงาน ที่จริงแล้วหากกระทรวงพาณิชย์มีหลักฐานใดๆเพิ่มเติม ก็นำมาแสดงกับ ปปช.ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องพานักข่าวไปดูบริษัท GSSG ถึงประเทศจีน ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

นายวิชา กล่าวด้วยว่า ประเด็นที่ ป.ป.ช.ไต่สวนไม่ใช่ประเด็นที่บริษัท GSSG ไม่ใช่รัฐวิสาหกิจของจีน เพียงแต่ ป.ป.ช.ไม่เชื่อว่าบริษัทนี้กับบริษัทในจังหวัด HAiNAN จะมาซื้อข้าวแบบจีทูจีจากไทยเพราะไม่ผ่านองค์กรคอฟโก้ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลกลางที่มีหน้าที่จัดซื้อข้าวของจีน

"สิ่งที่กระทรวงพาณิชย์ทำถือว่าแปลกพิกล เป็นแบบที่คนสู้คดีเขาไม่ทำกัน จริงๆถ้ามีหลักฐานว่ารัฐบาลจีนอนุมัติให้ซื้อข้าวแล้ว ก็เอามาแสดงสิครับ การซื้อแบบรัฐต่อรัฐไม่ได้หมายความว่าบริษัทรัฐวิสาหกิจมาซื้อก็เป็นจีทูจียกตัวอย่างการบินไทยไปซื้อของจากต่างประเทศ ไม่ถือว่าเป็นการซื้อรัฐต่อรัฐ จนกว่าจะเป็นการซื้อโดยรัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการโดยตรงถึงจะเป็นการซื้อแบบรัฐต่อรัฐ"นายวิชา กล่าว


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view