จาก โพสต์ทูเดย์
ทีมสืบสวนเตรียมแถลงผลตรวจสอบดินและน้ำป่ากุยบุรี พบสารหนูเกินมาตรฐานในจุดที่กระทิงตาย
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เปิดเผยว่า จากการเก็บตัวอย่างดินโป่ง หญ้า และน้ำ ของกรมควบคุมมลพิษ เพื่อหาสาเหตุการตายของกระทิง ในพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (โครงการกุญชร) ในเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า จากตัวอย่างดินที่เก็บมาจำนวน 6 ตัวอย่าง ตะกอนดิน 15 ตัวอย่าง ตัวอย่างน้ำ 10 ตัวอย่าง ในพื้นที่โครงการกุญชร ที่พบกระทิงตาย โดยพบว่า กลุ่มสารโลหะหนักมีค่าสารที่เกินเพียงอย่างเดียว คือ สารอาร์ซินิก (Arsenic) หรือสารหนู พบในตัวอย่างดินใกล้จุดที่เจอซากกระทิงตัวที่ 1 ตรวจพบปริมาณสาร 29 มิลลิกรัม/กิโลกรัม (ค่ามาตรฐาน 27 มิลลิกรัม/กิโลกรัม) และอีก 2 ตัวอย่าง พบสารหนูในน้ำ และแปลงหญ้าจุดกระทิงตายตัวที่ 17 ซึ่งเกินค่ามาตรฐานเล็กน้อย
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบทั้งหมดจะแถลงร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) อย่างไรก็ตาม การพบสารหนูในบริเวณที่กระทิงตาย ขณะนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ชัดเจนว่าเป็นสาเหตุการตายของกระทิงหรือไม่ เพราะตามธรรมชาติในดินก็สามารถตรวจพบสารหนูปนเปื้อนอยู่ในปริมาณที่ไม่ส่งผลเป็นอันตรายอยู่แล้ว
ด้าน น.สพ.ทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวว่า ได้รับรายงานผลตรวจเบื้องต้นว่า พบสารพิษในซากกระทิง แต่เพื่อความแน่ชัดจะสรุปผลการวิเคราะห์ โดยจะมีการแถลงข่าวร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติฯ กรมควบคุมมลพิษ คณะสัตวแพทยศาสตร์ ม.มหิดล และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ในวันพรุ่งนี้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต