สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เมินคำเตือนกรมชลฯชาวนาลุยทำนาปรัง

จาก โพสต์ทูเดย์

พระนครศรีอยุธยา-ชาวนายังเดินหน้าทำนาปรัง ไม่สนใจคำเตือนของชลประทานที่ระบุว่าน้ำในเขื่อนมีน้อย

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพื้นที่ต่างๆ สังกัดกรมชลประทาน ที่รับผิดชอบในเขตจ.พระนครศรีอยุธยา ออกเดินสายไปในที่ประชุมกำนันผู้ใหญ่บ้านทั้ง 16 อำเภอของจังหวัด ที่จัดให้ประชุมทุกต้นเดือน เพื่อขอร้องให้กำนันผู้ใหญ่บ้านชี้แจงชาวนาว่า ในหน้าร้อนที่จะถึงนี้ จะไม่สามารถจัดน้ำให้ทำนาปรังได้ เพราะปริมาณน้ำในเขื่อนทุกแห่งที่อยู่ด้านเหนือมีไม่ถึง 50%   อย่างไรก็ตาม พบว่า ชาวนาในพื้นที่ยังไม่สนใจและต่างเร่งลงมือทำนาปรังในช่วงนี้

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ช่วงนี้ยังพอจะมีน้ำค้างทุ่งจากน้ำนาปีจำนวนหนึ่ง ทำให้เกษตรกรที่ทำนาปรังเริ่มปรับพื้นที่เพื่อทำนาปรังกันเป็นจำนวนมาก และด้วยสายพันธ์ุข้าวที่เพราะปลูกอายุ 120 วัน ทำให้ในอีกไม่ถึง 3 เดือนข้างหน้าช่วงจะออกรวง จะต้องใช้น้ำจำนวนมาก และจะตรงกับหน้าร้อนพอดี อาจทำให้เกิดปัญหาขาดน้ำในช่วงนั้นได้เช่นกัน จึงอยากให้ชาวนาวางแผนเพาะปลูกให้ดี

ด้านนายประทีป  บุญแจ้ง อดีตนายก อบต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา แกนนำกลุ่มชาวนาในอ.ภาชีและอ.นครหลวง กล่าวว่า นาข้าวในพื้นที่เกือบ 30,000 ไร่ อายุประมาณ 2 เดือน ที่กำลังแตกกอเตรียมตั้งท้องกำลังจะยืนต้นตายเพราะขาดน้ำ โดยล่าสุดเมื่อวาน ได้ไปยื่นหนังสือต่อ  นายศรมิษฐ์ สิงห์คะนอง หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำและปรับปรุงระบบชลประทาน สำนักชลประทานที่ 10 ที่ดูแลเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ว่าขอให้เพิ่มการปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนมาตามแม่น้ำป่าสัก

ทั้งนี้เพื่อจะได้ดึงน้ำเข้าคลองชลประทานสาขาและนำน้ำเข้าแปลงนาซึ่งมีการรับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จะเพิ่มประมาณการปล่อยน้ำให้อีก 20 ลบ.ม./วินาที รวมเป็น 80 ลบ.ม./วินาที ซึ่งน้ำจะไหลมาที่หน้าเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ และมีการดึงน้ำเข้าคลองระพีพัฒน์ต่อไป


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view