จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเอฟพี – ชาติแอฟริกา และเอเชียได้เห็นชอบร่วมกันวานนี้ (3 ธ.ค.) ที่จะประกาศใช้มาตรการเร่งด่วน เพื่อรับมือกับการค้างาช้างผิดกฎหมาย ตั้งแต่การฆ่าช้าง ไปจนถึงการลักลอบส่งงาช้างที่มีมูลค่าสูงไปยังดินแดนตะวันออกไกล
การตกลงกันครั้งนี้มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ระดับสูง และผู้เชี่ยวชาญจาก 30 ประเทศ เดินทางไปประชุมกันที่ บอตสวานา ในสัปดาห์นี้ เพื่อรับมือกับปัญหาการล่าช้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความต้องการงาช้างเพิ่มสูงขึ้นมากในบางประเทศ เป็นต้นว่า ไทย และจีน
องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) และรัฐบาลบอตสวานาระบุในคำแถลงว่า บรรดาประเทศที่เป็นถิ่นที่อยู่ของช้าง และประเทศที่เป็นปลายทางงาช้าง ได้เห็นพ้องต้องกันที่จะประกาศใช้ “มาตรการเร่งด่วนเพื่อยุติการค้าผิดกฎหมาย และคุ้มครองประชากรช้างทั่วทวีปแอฟริกา”
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวรวมไปถึง “นโยบายความอดทนเป็นศูนย์” (Zero tolerance approach) อันมีดังเช่น การกำหนดโทษสูงสุดกับผู้ที่ก่ออาชญากรรมต่อสัตว์ป่า และการพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยงานระดับชาติ เพื่อจัดการกับพวกองค์กรล่าสัตว์ที่มีเครือข่ายกว้างขวาง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ตกลงกันว่า ควรจัดให้การลักลอบค้างาช้างเป็น “อาชญากรรมร้ายแรง” เพื่อปูทางให้แก่ความร่วมมือระดับนานาชาติ เช่น ความช่วยเหลือทางกฎหมายร่วมกัน การยึดทรัพย์ และการริบทรัพย์ ตลอดจนการส่งผู้ร้ายข้ามแดน
คำแถลงระบุว่า ซัมมิตครั้งนี้ นับเป็นการประชุมครั้งแรกซึ่งมุ่งประเด็นไปที่กิจกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง กับการค้างาช้าง ที่เริ่มตั้งแต่การออกล่าช้าง ไปจนถึงการนำงาช้างที่ผ่านการแปรรูปเป็นสินค้าสำเร็จส่งไปยังผู้บริโภค
ทางด้านองค์กรอนุรักษ์ต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม “ซัมมิตช้างแอฟริกา” ในสัปดาห์นี้กล่าวเตือนว่า แอฟริกาอาจสูญเสียประชากรช้างไปถึง 20 เปอร์เซ็นต์ ภายในเวลาเพียง 1 ทศวรรษ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
