จาก โพสต์ทูเดย์
โครงการบริหารน้ำทำพิลึกไปไกลถึงจอมบึงแถมเงียบฉี่-เกณฑ์ขรก.ร่วมชาวบ้าน“ค้านแม่น้ำสายใหม่”27พ.ย.
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน น.ส.อัญชุลี ลักษณ์อำนวยพร สมาชิกกลุ่มอาสาคนรักแม่กลอง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมาชาวราชบุรีกว่า 1,300 คนได้มาร่วมเวที “หยุดแม่น้ำสายใหม่ หยุด..หายนะ” ซึ่งจัดขึ้นที่โรงยิมเนเซี่ยม อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี โดยมีนายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตสมาชิกวุฒิสภาและอดีตอธิบดีกรมชลประทาน นายสุรจิต ชิรเวทย์ สมาชิกวุฒิสภา จังหวัดสมุทรสงคราม นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน มาร่วมให้ความรู้ถึงที่มาที่ไปของโครงการฟลัดเวย์ตะวันตก และการขุดรอกแม่น้ำแม่กลอง ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทของรัฐบาล
น.ส.อัญชุลีกล่าวว่า ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) จะมาเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นชาวราชบุรี ขึ้นที่สถานบันราชภัฎจอมบึง อำเภอจอมบึง ดังนั้นการจัดเวทีเมื่อวันที่ 25 จึงถือว่าเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะที่ผ่านมากบอ.และภาคส่วนราชการไม่เคยเผยแพร่ความรู้และสร้างความเข้าใจให้กับชาวบ้านเลย แม้กระทั่งพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ชาวบ้านก็ยังไม่รู้เนื้อรู้ตัวเลย เพราะนับตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัดไปประชุมเรื่องนี้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน รอจนกระทั่งถึงวันที่ 18 ก็ยังไม่มีการลงไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านเลย ในที่สุดกลุ่มอาสาสมัครฯจึงต้องลงไปอธิบายกับชาวบ้าน
“เอาแค่ชาวบ้านหน้าเมือง ที่อยู่ติดแม่น้ำแม่กลองในเมือง เขายังไม่รู้เลยว่าจะมีโครงการขนาดใหญ่นี้มาลงที่แม่กลอง จนกระทั่งกลุ่มอาสาสมัครรักษ์แม่กลองไปตั้งเต้นท์เผยแพร่ความรู้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ชาวบ้านถึงได้รับรู้ ที่น่าประหลาดใจคือราชบุรีเป็นจังหวัดใหญ่ มีประชากรถึง 8 แสนคน มีผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงไม่น้อยกว่า 26 ตำบลหรือราว 4 หมื่นคน แต่การเปิดเวทีของกบอ.กลับให้โควต้าประชาชนทั้งหมดไปร่วมงานเพียง 800 คน ทั้งๆที่หลายจังหวัดที่เล็กกว่า กลับจัดเวทีใหญ่นับพันคน แถมครั้งนี้ยังจะไปจัดเวทีกันที่สถาบันราชภัฎจอมบึงซึ่งไม่เกี่ยวกับแม่น้ำแม่กลองไหลสักเท่าไหร่ และอยู่ห่างจากเมืองถึง 30 กิโลเมตร แทนที่จะจัดในเมืองซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตรง ดังนั้นจึงสงสัยในจุดประสงค์ที่แท้จริงของกบอ.” อาสาสมัครแม่กลอง กล่าว
น.ส.อัญชุลีกล่าวว่า ชาวราชบุรีที่มาร่วมเวทีเมื่อวันที่ 25 มีมติเอกฉันท์ที่ไม่เอาฟลัดเวย์หรือแม่น้ำสายใหม่ เพราะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างกว้างขวาง เช่นเดียวกับความเห็นก่อนหน้านี้ซึ่งกลุ่มอาสาสมัครฯได้เดินทางไปจัดเวทีย่อยในพื้นที่ 30 แห่ง ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เอาฟลัดเวย์ เพราะแค่เปิดประตูเขื่อนกั้นลำน้ำแม่กลอง ปล่อยน้ำเพิ่ม 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก็ทำให้น้ำท่วมบ้านท่าแจ่ ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง ครึ่งหน้าแข้งแล้ว หากสร้างแม่น้ำสายใหม่แล้วปล่อยน้ำเพิ่ม 2,100 ลูกบาศก์เมตร ตามแผนของกบอ. อาจทำให้น้ำท่วมถึงหลังคาบ้านก็ได้
“ในวันพรุ่งนี้ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจะไปถามกบอ.ว่าเราไม่มีสิทธิรับฟังหรืออย่างไร ชาวบ้านไม่เอาฟลัดเวย์แน่ แต่จนถึงวันนี้ยังแทบไม่มีหน่วยงานราชการมาบอกให้ชาวบ้านเข้าไปร่วมเวทีเลย แม้แต่หอกระจายข่าวต่างๆในชุมชนก็ไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้ แต่เราทราบเป็นการภายในว่าได้มีการสั่งการให้เตรียมข้าราชการหน่วยละ 2 คนไปร่วมเวที ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าเขาทำอย่างนั้นกันทำไม” น.ส.อัญชุลี กล่าว
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
