จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายสุรพล เกียรติไชยากร ประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.ได้หารือกับกระทรวงพาณิชย์โดยนางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นตัวแทน เพราะ กมธ.เป็นห่วงเรื่องโครงการรับจำนำข้าวรัฐ รวมถึงสินค้าเกษตรอื่น ทั้งข้าวโพด มันสำปะหลัง อยากให้ควบคุมการดำเนินการให้เกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้ารับจำนำสินค้าเกษตร โดยนายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน จะประชุมวันที่ 14 พฤศจิกายน
โดยกรมการค้าภายในได้เสนอ 2 มาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิต 2556/57 ก่อนขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 2 มาตรการดังกล่าว ได้แก่ 1.เปิดรับจำนำหัวมันสด เป้าหมาย 10 ล้านตัน จากประมาณการผลผลิต 28.5 ล้านตัน ค่าเฉลี่ยตลอดโครงการเกินกิโลกรัม (กก.) ละ 2.20 บาท 2.จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรทุกรายที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้แล้วประมาณ 5 แสนราย อัตรา กก.ละ 50 สตางค์ ให้สิทธิต่อรายไม่เกิน 120 ตัน หรือคิดเป็น 60,000 บาท ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้มาตรการสอง คือจ่ายเงินตรง คาดต้องใช้วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยอีกว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ประกาศจำหน่ายข้าวสาร ด้วยวิธียื่นซองเสนอราคาซื้อ เป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปีการผลิต 2554/55, นาปรังปี 2555 และนาปีปี 2555/56 (รอบ1) รวมปริมาณ 452,537 ตัน แบ่งเป็นข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 และปลายข้าวขาวเอวันเลิศ รวม 300,275 ตัน (แบบยกคลัง) เพื่อจำหน่ายในประเทศ และ/หรือส่งออกต่างประเทศ และข้าวขาว 5% รวม 152,262 ตัน (แบบยกคลัง) เพื่อส่งออกต่างประเทศ กำหนดยื่นซองเสนอราคาวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งยอมรับว่าราคาเสนออาจไม่สูง รัฐคงขาดทุนมาก
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ราคาข้าวไม่ดีนักเพราะผลผลิตข้าวนาปี 2556/57 เริ่มออกสู่ตลาดมาก และการลดวงเงินจำนำเหลือ 3.5 แสนบาท ทำให้ข้าวเหลือในตลาดมาก อีกทั้งต่างชาติรับรู้ว่ารัฐต้องระบายข้าวในสต็อกทำให้ราคาข้าวไม่ขยับ และยังไม่มีผลต่อการซื้อข้าวไทยเพิ่มมากนัก แม้ราคาข้าวไทยห่างจากเวียดนามลดลงเหลือตันละ 10-15 เหรียญสหรัฐก็ตาม
ที่มา : นสพ.มติชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
