จากประชาชาติธุรกิจ
บริษัทนำเข้าผลไม้จากอินโดนีเซียเซ็ง ยอดนำเข้าผลไม้ไทยหดถึง 30% เหตุรัฐบาลอินโดนีเซียตั้งแง่ออกมาตรการเรื่องสุขอนามัย ประกาศปรับท่าเรือ ด้าน สคร.จาการ์ตา ส่งไม้ต่อกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งทำบันทึกความเข้าใจระหว่างประเทศ CRA ปลดล็อกมาตรการจำกัดท่าเรือนำเข้าสินค้าเกษตร
นาย จูนาร์ดิ ดับบลิว เอ็มบีเอ ประธานบริหาร บริษัท PT. Sinar Harapan Bersatu จำกัด จาการ์ตา อินโดนีเซีย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ในโอกาสที่เข้าร่วมงาน "อนาคตเศรษฐกิจไทยภายใต้ประชาคมอาเซียน" ซึ่งจัดโดยกระทรวงพาณิชย์ว่า จากกรณีที่รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศระเบียบการนำเข้าผลไม้และสินค้าเกษตร จากท่าเรือจาการ์ตาไปเป็นท่าเรือสุราบายาเมื่อปีที่ผ่านมา ทำให้มีกระบวนการตรวจสอบเข้มงวด การดำเนินการเรื่องเอกสารยุ่งยาก และยังมีการประกาศโควตานำเข้าเพื่อควบคุมปริมาณการนำเข้าสินค้าเกษตร 30-40 ชนิด ต้องขออนุญาตนำเข้าทุก ๆ 6 เดือน ส่งผลให้ปริมาณนำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยของบริษัทลดลง ประมาณ 30% จากปกติที่นำเข้าจากไทย 600 ตู้ (ขนาดตู้ละ 25 ตัน) หรือคิดเป็นปริมาณรวม 15,000 ตันต่อปี คิดเป็นมูลค่ารวม 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี
"สาเหตุ ที่กฎระเบียบเข้มข้นขึ้นเพราะจะมีการเลือกตั้งในอินโดนีเซีย ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มมาตรการดูแลประชาชน ทางบริษัทเองปวดหัวจากการออกมาตรการเหล่านี้ หากจะปรับตัวไปนำเข้าสินค้าผล ไม้ประเภทแปรรูปก็ทำไม่ได้ เพราะสินค้าชนิดอื่น เช่น ผลไม้แปรรูป น้ำผลไม้ ต่างมีระเบียบออกมาควบคุมการนำเข้าเช่นกัน ดังนั้น บริษัทจึงต้องปรับราคาสินค้าขึ้นอีก 50% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่าขนส่งและต้นทุนโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น"
นาย เอ็มบีเอกล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไทยพยายามผลักดันโดยการเจรจากับรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อหา ทางออกปัญหานี้หลายครั้ง โดยล่าสุดนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนบาหลีในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจเอเปกที่ผ่านมาได้มีการหยิบ ประเด็นนี้ขึ้นมาหารือกันอีกครั้ง แต่ไม่เห็นผลเป็นรูปธรรม
"สินค้า ที่ถูกอินโดนีเซียใช้มาตรการเป็นสินค้าจากทุก ๆ ประเทศ รัฐบาลของออสเตรเลีย สหรัฐ และนิวซีแลนด์ ได้พยายามแก้ไขจัดทำ (Country Recognition Arrangement : CRA) บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลเพื่อขอตรวจสอบสินค้าก่อน เพื่อรับรองมาตรฐานและให้สามารถขนส่งไปท่าเรือจาการ์ตาได้เช่นเดิม ฝ่ายไทยน่าจะใช้มาตรการนี้เช่นกัน"
ทั้ง นี้ บริษัทได้นำเข้าสินค้าผลไม้จากไทยเพื่อไปจำหน่ายในอินโดนีเซียมานานกว่า 13 ปีแล้ว โดยมีสัดส่วนการนำเข้าจากไทยมากที่สุดประมาณ 40% ของแหล่งนำเข้าทั้งหมด โดยถือเป็นอันดับ 2 รองจากจีน นอกจากการนำเข้าจากสหรัฐ มาเลเซีย เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอีกหลายประเทศ สำหรับสินค้าผลไม้ไทยที่ได้รับความนิยมในอินโดนีเซียมีหลายชนิด อาทิ ลำไย ทุเรียน มังคุด มะพร้าว และมะม่วง เพราะผลไม้จากไทยมีคุณภาพดีกว่า ขนาดผลใหญ่กว่า จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
ด้าน นางสาววิลาสินี โนนศรีชัย อัครราชทูตฝ่ายการพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ประจำกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเตรียมจัดทำบันทึกความเข้าใจร่วมกับอินโดนีเซียแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์พยายามเจรจาและทำหนังสือถึงรัฐบาลอินโดนีเซีย ขอให้ผ่อนปรนการใช้มาตรการนี้มาโดยตลอด เพื่อให้ผู้บริโภคอินโดนีเซียได้มีโอกาสซื้อสินค้าที่มีคุณภาพดี ไม่ต้องเสียเวลาการขนส่งนาน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
