จากประชาชาติธุรกิจ
ราคาน้ำตาลทรายไทยดิ่งต่ำสุดในอาเซียน 22.60 บาท/กก. เอกชนแนะรัฐตั้งรับ หวั่นส่งออกมากขึ้นส่งผลน้ำตาลในประเทศขาด
นาย สิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ บริษัท ไทยชูการ์ มิลเลอร์ จำกัด เปิดเผยถึงผลสำรวจข้อมูลราคาน้ำตาลทรายในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก โดยเน้นกลุ่มประเทศอาเซียน จากข้อมูลจากสำนักงานการค้าในประเทศต่าง ๆ และเทรดเดอร์น้ำตาลทรายรายใหญ่ของโลก พบว่าน้ำตาลทรายของไทยมีราคาขายปลีก "ต่ำที่สุด" ในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยน้ำตาลทรายขาวมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 22.60 บาท/กิโลกรัม น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 23.60 บาท/กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา ที่มีราคาขายปลีกน้ำตาลทรายขาว 30-33 บาท/กิโลกรัม พม่าขายปลีกที่ 30.01 บาท/กิโลกรัม เวียดนาม 25.50-28.50 บาท/กิโลกรัม มาเลเซีย 25.87 บาท/กิโลกรัม อินโดนีเซียขายปลีกน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ 33.95 บาท/กิโลกรัม สิงคโปร์ 40.35 บาท/กิโลกรัม ฟิลิปปินส์ 41.20 บาท/กิโลกรัม
นอกจาก นี้ ประเทศที่ต้องบริโภคน้ำตาลทรายในราคาสูงกว่าไทย ได้แก่ ประเทศจีน ราคาขายปลีกน้ำตาลทรายในเกรดต่าง ๆ มีตั้งแต่ 57.09 บาท/กิโลกรัม ไปจนถึง 77.85 บาท/กิโลกรัม ญี่ปุ่น 66.90 บาท/กิโลกรัม เกาหลีใต้ 49.50 บาท/กิโลกรัม ออสเตรเลีย 59.75 บาท จากราคาขายปลีกน้ำตาลทรายดังกล่าวทำให้มีความกังวลว่า ต่อไปหากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งมีความเสรีในการติดต่อค้าขายกันมากขึ้น หากไทยยังไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายอาจจะมีปัญหาการลักลอบนำน้ำตาลทรายในประเทศไป ขายต่างประเทศจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น อันจะส่งผลต่อปริมาณน้ำตาลทรายที่กันโควตา ก.สำหรับบริโภคภายในประเทศไม่เพียงพอต่อความต้องการ
"ถึงแม้ว่า น้ำตาลทรายที่เราผลิตได้จริงจะมีมากเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ เพราะเราเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำตาลทรายรายใหญ่ของโลก แต่เราแบ่งโควตาไว้ชัดเจนระหว่างการบริโภคในประเทศกับส่งออกไปขายต่างประเทศ ซึ่งโควตาส่งออกนั้นเกือบทั้งหมดเป็นการขายล่วงหน้า ดังนั้นหากยังคงกำหนดโควตา ก.เพื่อกันไว้สำหรับบริโภคในประเทศ แต่กลับถูกนำส่วนนี้ออกไปขายต่างประเทศด้วย ก็จะส่งผลต่อผู้บริโภคในประเทศ"
นายสิริวุทธิ์กล่าวว่า การนำเสนอข้อมูลระดับราคาน้ำตาลนี้ เพื่อให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบ ได้เร่งหาทางป้องกันปัญหาว่าจะทำอย่างไรจะไม่ให้เกิดการขาดแคลนของน้ำตาล ทรายที่ใช้บริโภคภายในประเทศ และผลตอบแทนที่ชาวไร่อ้อยจะได้รับในสัดส่วนร้อยละ 70 ของรายได้จากการขายน้ำตาลทรายจะต้องคุ้มค่ากับต้นทุนด้านการเพาะปลูก และมีกำไรส่วนต่างที่เพียงพอ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
