จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
| เอ เจนซีส์ – สื่อนอกเป็นต้นว่ารอยเตอร์ เอเอฟพี ประโคมข่าวร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่งในย่านมงต์มาร์ต ของกรุงปารีส ซึ่ง เอลลี ดาวีรง เชฟของร้าน ภูมิใจนำเสนอเมนูใหม่ของเขา ที่ใช้แมลงนำเข้าจากไทยเป็นวัตถุดิบ ทั้งนี้เขายอมรับว่า ลูกค้าบางคนยังรู้สึกขยะแขยงไม่กล้าสั่ง ขณะที่คนอื่นๆ ต้องดื่มย้อมใจสัก 2-3 แก้วถึงจะกล้ากิน นอกจาก กัวคาโมเล (อาหารว่างยอดนิยมของเม็กซิโก) แกงไก่ทิกกะ และฮอตดอกรสชาติเผ็ดร้อนแล้ว เชฟหนุ่มผู้นี้ยังได้ทำ “การทดลองกับอาหาร” ในสิ่งที่เขาตั้งชื่อว่า “ทาปาสแมลง” ซึ่งตามที่จริง ทาปาสเป็นของว่างแบบพอดีคำของสเปนที่ประกอบด้วยขนมปัง มะกอก ชีส และแฮม แต่คราวนี้ส่วนผสมล่าสุดสำหรับอาหารของเขา คือ ตั๊กแตน ด้วง มวนแมงป่องน้ำ และหนอนอีก 2 ชนิด ได้แก่ หนอนด้วงสาคู และหนอนไหม “ของโปรดของผมคือหนอนด้วงสาคู” ดาวีรงให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีขณะง่วนอยู่หลังบาร์ของร้าน “เฟสแตงนู” (Festin Nu) ที่มีความหมายว่าอาหารกลางวันอันบริสุทธิ์ไร้สิ่งเจือปน ซึ่งตั้งอยู่บนบนเนินมงต์มาร์ตอันสวยงาม ทางเหนือของกรุงปารีส เขาอธิบายว่าหนอนชนิดนี้ “มีสองเท็กซ์เจอร์ โดยส่วนหัวและลำตัวมีรสชาติต่างกันโดยสิ้นเชิง” ลำตัวของมันมีพื้นผิว “ร่วนๆ เหมือนทราย” ขณะที่หัว “กรุบกรอบ” และมีรสชาติคล้ายบีทรูทกับเห็ดผสมกัน เล็กน้อย |
||||
นอกจากนี้ ภายหลังที่เมื่อต้นปี องค์การสหประชาชาติได้เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับแมลงกินได้ เขาก็ตระหนักว่าคนฝรั่งเศสกำลังรอให้มีใครสักคนนำแมลงมาทำเป็นอาหาร ดาวีรงจึงสั่งแมลงบางชนิดมาจากบริษัทแห่งหนึ่ง ที่มีใบอนุญาตในการนำเข้าแมลงอบแห้ง แล้วเริ่มคิดค้นสูตรอาหารตำรับแมลง ผลที่ได้ก็คือ อาหาร 5 อย่าง อาทิ มวนแมงป่องน้ำผัดน้ำมันมะกอกพริกไทยดำ, ด้วงรับประทานคู่กับแตงกวา, ขิงดอง หรือถั่วเขียว และตั๊กแตนกับไข่ ทั้งนี้ แมลงที่อุดมไปด้วยโปรตีนเหล่านี้นำเข้ามาจากไทย ประเทศที่ประชาชนบางส่วนกินแมลงเป็นของคบเคี้ยวอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากฝรั่งเศสยังมีความต้องการแมลงไม่มาก ทำให้บริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่มีใบอนุญาต เลือกที่จะนำเข้าแค่แมลงอบแห้งเท่านั้น ขณะที่ไม่ได้สั่งซื้อแมลงแช่แข็ง หรือแมลงสด |
||||
|
||||
|
||||
|
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
