จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ว่าที่ปลัดคลังคนใหม่"รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์"จ่อรื้อผลปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว อ้างประสบการณ์บัญชีไม่เชื่อเจ๊ง2แสนล้าน ประเมินแค่หลักหมื่นล้าน
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ว่าที่ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะเข้าไปดูแลตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวใหม่ โดยเห็นว่าผลขาดทุนไม่น่าจะมีจำนวนมาก ซึ่งยังไม่ทราบตัวเลขผลการปิดบัญชีโครงการที่ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการปิดบัญชีได้สรุปผลมา จะต้องขอดูในรายละเอียดก่อน
"ผมยังไม่เห็นตัวเลขการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าวที่ท่านสุภาได้เสนอให้ นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) อดีตปลัดกระทรวงการคลังเห็นชอบ ซึ่งจะต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่อีกครั้งว่าตัวเลขขาดทุนที่ออกมา 2 แสนล้านบาทต่อปีนั้น เป็นความจริงหรือไม่ เนื่องจากในฐานะที่มีประสบการณ์ทางบัญชี และเป็นกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มานาน 8 ปี เห็นว่าไม่น่าจะมีผลขาดทุนมากเช่นนั้น" นายรังสรรค์ระบุ
นายรังสัรรค์ กล่าวว่า หากคิดง่ายๆ ว่า รับจำนำข้าวมาตันละ 15,000 บาท แต่ราคาตลาดอยู่ที่ 12,000 บาทต่อตัน เท่ากับรัฐบาลจะขาดทุนแค่ตันละ 3,000 บาท และหากรัฐบาลรับจำนำข้าว 12 ล้านตัน ก็จะมีผลขาดทุนแค่ 36,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีก แต่เมื่อรวมแล้วก็ไม่น่าจะขาดทุนถึง 2 แสนล้านบาทต่อปี
เล็งจ้างคนกลางตีราคาสต็อก
นายรังสรรค์ กล่าวว่า ข้าวที่อยู่ในสต็อกเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ผลการขาดทุนน้อยลง หากมีการตีราคาให้ถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลอาจจะจ้างคนกลางมาตีราคา หากเห็นว่ามีหลายฝ่ายไม่เชื่อมั่นการตีราคาข้าวในสต็อกของรัฐบาลว่าตีราคาไม่สอดคล้องกับราคาตลาดที่แท้จริง
"ที่ผ่านมามีคนวิจารณ์ว่าโครงการรับจำนำข้าวมีความเสียหายขาดทุนมาก ส่วนใหญ่เป็นคนเมือง"
เขายืนยันด้วยว่า ไม่ได้ปลด นางสาวสุภา ออกจากตำแหน่งประธานอนุกรรมการปิดบัญชี ยังทำงานร่วมกัน เพียงแต่ว่าในฐานะปลัดกระทรวงการคลัง จะเข้าไปเป็นประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวเอง
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
