จากประชาชาติธุรกิจ
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมเอทานอลกำลังเผชิญปัญหาในส่วนของผู้ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง เนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา กรอ.ได้ลงพื้นที่ตรวจบริษัท ไทยเอทานอล พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) จ.ขอนแก่น พบว่า บริษัทมีกำลังผลิตเอทานอล 2.5-3 ล้านลิตร/เดือน แต่ช่วงตลอดไตรมาส 4 ของปี (ตุลาคม-ธันวาคม 2556) ได้รับคำสั่งซื้อเอทานอลจากบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) รวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านลิตรเท่านั้น ขณะที่บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ไม่มีคำสั่งซื้อเลย จากปกติจะซื้อเดือนละ 1 ล้านลิตร ทำให้โรงงานไทยเอทานอล พาวเวอร์มีกำลังผลิตเอทานอลส่วนเกิน แต่จำเป็นต้องผลิตต่อไปตามสัญญาการรับซื้อมันสำปะหลัง และใช้วิธีเก็บเอทานอลไว้ในถังเพื่อรอขายในปี 2557 โดยถังมีความจุรวม 4 ล้านลิตร
"แทบทุกบริษัทที่ผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังแล้วประสบปัญหา บริษัทน้ำมันรับซื้อเอทานอลน้อยลง หรือบางรายไม่ซื้อ จนประกาศว่าอาจต้องปิดกิจการ หากจะเปลี่ยนไปส่งออกแทนก็พบอุปสรรคด้านขั้นตอนและมีต้นทุนสูง โดยสาเหตุหลักมาจากราคาจำหน่ายสูงกว่าเอทานอลที่มาจากโมลาส หรือกากน้ำตาล ราว 5 บาท/ลิตร เพราะเอทานอลจากมันสำปะหลังราคาอยู่ที่ 27-28 บาท/ลิตร ขณะที่เอทานอลจากโมลาสอยู่ที่ 22-23 บาท/ลิตร เนื่องจากต้นทุนมันสำปะหลังเทียบเป็นกิโลกรัมแพงกว่าน้ำตาล" นายณัฐพลกล่าว
นายณัฐพลกล่าวว่า ดังนั้น อยากสะท้อนปัญหาดังกล่าวไปยังนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะผู้ดูแลมันสำปะหลังหรือมิสเตอร์สำปะหลัง ให้เข้ามาดูแลแก้ปัญหาดังกล่าว โดยปัจจุบันบริษัทน้ำมันที่ผลิตน้ำมันกลุ่มโซฮอล์ เลือกซื้อเอทานอลจากต้นทุนที่ถูกกว่า ทั้งที่ปริมาณความต้องการใช้เอทานอลเพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านลิตรต่อวันแล้ว ที่ผ่านมาเฉลี่ย 1-2 ล้านลิตรต่อวัน เนื่องจากนโยบายสนับสนุนการใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอล และผลจากการยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 แต่พบว่าทั้ง ปตท.และบางจากไม่สามารถแบกภาระต้นทุนการซื้อเอทานอลจากมันสำปะหลังได้ เพราะบริษัทน้ำมันแห่งอื่นซื้อเอทานอลจากโมลาสเท่านั้น
ที่มา : มติชนออนไลน์
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
