จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอพีได้รายงานเชิงวิเคราะห์ในวันอาทิตย์ (20) แสดงถึงความเชื่อมโยงที่ชัดเจนระหว่างการใช้ผลิตภัณฑ์ปราบศัตรูพืชที่ จำหน่ายโดยบริษัทผลิตภัณฑ์เคมีการเกษตรอเมริกัน “มอนซานโต” และปัญหาสุขภาพของชาวอาร์เจนตินาที่มีเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งเป็นผลจากการขาดกฏหมายควบคุมที่เด็ดขาด ทำให้การใช้ผลิตภัณฑ์มอนซานโตอย่างผิดพลาดนั้นแพร่หลายเป็นวงกว้างใน อาร์เจนตินา ทำให้ประชาชนอาร์เจนตินาที่อยู่ในที่ห่างไกลเจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก และรวมถึงแหล่งน้ำของท้องถิ่นเกิดการปนเปื้อนขึ้น จังหวัดซานตาเฟ เม็กซิโก ถือเป็นแหล่งผลิตข้าวโพดใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ได้ประกาศห้ามไม่ให้ใช้สารปราบศัตรูพืชในรัศมีที่น้อยกว่า 500ม.ห่างจากเขตชุมชน แต่อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัดซานตาเฟพบหลักฐานว่า มีสารเคมีเป็นพิษถูกใช้ห่างจากบ้านเรือนในระยะที่น้อยกว่า 30 ม. ฟาเบียน โทมาซี คนงานในฟาร์ม ที่ไม่เคยถูกสอนให้ใช้สารเคมีปราบศัตรูพืชอย่างถูกต้อง โดยตามหน้าที่ของโทมาซีที่ต้องทำอยู่คือ การขับเครื่องบินพ่นสารเคมีปราบศัตรูพืช ซึ่งหมายความว่าเขาต้องเติมสารเคมีในถังบรรจุอย่างรวดเร็วและปฎิเสธไม่ได้ เลยว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายต้องสัมผัสกับสารพิษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ |
||||
ทางด้าน แอนเดรีย ดรูเอ็ตตา ครูที่อาศัยอยู่ในจังหวัดซานตาเฟเช่นกัน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ห้ามไม่ให้พ่นสารปราบศัตรูพืชในรัศมีที่น้อยกว่า 500 ม.ห่างจากเขตชุมชน แต่ทว่ามีไร่ถั่วเหลืองปลูกห่างจากจากประตูหลังบ้านเธอไปราว 30 ม.และลูกชายของเธอว่ายน้ำในสระว่ายน้ำหลังบ้านที่เต็มไปด้วยสารพิษตกค้าง และหลังจากที่โซเฟีย กาติคาได้สูญเสียทารกแรกคลอดของเธอด้วยโรคไตล้มเหลวแล้ว เธอได้ทำการฟ้องต่อศาลอาร์เจนตินาข้อหาพ่นสารเคมีปราบศัตรูพืชโดยผิดกฏหมาย ในปี 2012 มีคำพิพากษาออกมาในที่สุด แต่กระนั้นมันสายเกินไปต่อชุมชนที่เธออาศัยอยู่ราว 5,300 ครัวเรือน ใน Ituzaingo Annex และทำให้รัฐบาลอาร์เจนตินาต้องศึกษาถึงผลกระทบต่อการใช้สารเคมีทางการเกษตร และพบว่ามีระดับอันตรายของของสารพิษปนเปื้อนอยู่ในดินและแหล่งน้ำภายใน ประเทศ นอกจากนี้ยังพบว่า จำนวนกว่า 80% ของเด็กอาร์เจนตินาที่ได้รับการสำรวจนั้นมีร่องรอยการพบสารพิษทางการเกษตรตก ค้างในกระแสเลือด |
||||
โดยทางเอพีได้ทำการศึกษาพบว่า มีตัวอย่างหลายสิบคดีที่เกิดขึ้นทั่วประเทศอาร์เจนตินาที่สารเคมีทางการ เกษตรของมอนซานโตได้ใช้อย่างผิดวิธี ซึ่งการใช้เครื่องบินพ่นสารเคมีทางการเกษตรผ่านโรงเรียน บ้านเรือน ทำให้สารพิษได้ตกค้างลงสู่แหล่งน้ำที่ใช้บริโภคในชุมชน เกษตรกรอาร์เจนตินาผสมสารปราบศัตรูพืชโดยปราศจากเครื่องป้องกัน รวมไปจนถึงชาวเมืองใช้ภาชนะบรรจุยาฆ่าแมลง หรือยาฆ่าหญ้ามาเป็นภาชนะรองน้ำเพื่อใช้ในครอบครัวทั้งๆที่ภาชนะบรรจุเหล่า นี้ควรจะทิ้งไป |
||||
นอกจากนี้ การศึกษาของเอพีได้พบว่า อัตราการเกิดของมะเร็งในจังหวัดซานตาเฟ ได้เพิ่มจาก 2 เป็น 4 เท่า มากกว่าที่เกิดทั่วอาร์เจนตินา ในขณะที่จังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงจังหวัดซานตาเฟ เช่น ชาโก นั้นพบว่ามีปัญหาความพิการแต่กำเนิดเพิ่มเป็น4เท่าตั้งแต่มีการใช้เทคโนโลยี ชีวภาพในภาคเกษตรกรรมอาร์เจนตินาเมื่อ 10 ปีก่อน และรายงานยังได้พบว่า มีอัตราผู้ป่วยสูงในโรคต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติและโรคระบบหายใจเรื้อรังมาก ในจังหวัดนี้ ในปี 1996 บริษัท มอนซานโต ที่มีฐานอยู่ในรัฐเซนต์หลุยส์ได้แนะนำเมล็ดพืชตัดแต่งพันธุกรรมที่จดทะเบียน ภายใต้ชื่อของบริษัทสู่ภาคการผลิตของอาร์เจนตินา โดยทั้งเมล็ดพืชปรับปรุงใหม่นี้ให้ผลผลิตสูงและทนต่อแมลงและโรคพืชและสาร เคมีปราบศัตรูพืชของมอนซานโตทำให้โฉมหน้าทางการเกษตรของอาร์เจนตินาเปลี่ยน ไปอย่างสิ้นเชิง โดยในปัจจุบันนี้ ถั่วเหลืองที่ปลูกในอาร์เจนตินา รวมไปจนถึงจำนวนเกือบจะทั้งหมดของข้าวโพด ข้าวสาลี และฝ้ายที่ปลูกไว้ในประเทศนั้นเป็นผลผลิตที่ได้จากเทคโนโลยีการตัดแต่งทาง พันธุกรรมของบริษัท มอนซานโต จำนวนไร่ถั่วเหลืองในอาร์เจนตินาเพิ่มเป็น 3 เท่า หรือ47 ล้านเอเคอร์ และเหมือนกับที่เกิดในสหรัฐฯ ปศุสัตว์ในอาร์เจนตินานั้นถูกเลี้ยงด้วยข้าวโพดและถั่วเหลืองตัดแต่งพันธุ กรรม แต่ทว่าวัชพืชและแมลงกับมีความทนทานมากขึ้น ทำให้เกษตรกรอาร์เจนตินาต้องเพิ่มการใช้สารปราบศัตรูพืชมากขึ้นถึง 9 เท่า โดยเพิ่มจากจำนวน 34 ล้านลิตรในปี 1990 เป็น 317ล้านลิตรในปัจจุบันนี้ กล่าวโดยสรุป เกษตรกรอาร์เจนตินาใช้สารเคมีทางการเกษตรเข้มข้นราว 1.95 กก. ต่อพื้นที่ 1 เอเคอร์ ซึ่งมากเป็น 2 เท่าที่เกษตรกรอเมริกันใช้ อ้างจากข้อมูลการวิเคราะห์ของเอพีที่ได้จากข้อมูลของหน่วยงานรัฐและตัวเลข จากอุตสาหกรรมการเกษตร |
||||
Glyphosateเป็นสารเคมีหลักใน “ราวนด์อัพ” ยาปราบวัชพืชของมอนซานโตที่โด่งดังไปทั่วโลก และมีจัดจำหน่ายในไทยด้วยนั้น โดยทางหน่วยงานในสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปถือว่าปลอดภัย “หากใช้อย่างเหมาะสม” และในขณะที่หน่วยงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯประกาศในวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมานี้ว่า สารตกค้างของ Glyphosate (ที่อ้างจากการศึกษาของมอนซานโต)ที่พบในอาหารนั้นไม่มีอันตรายต่อผู้ใหญ่ รวมไปจนถึงทารก หรือเด็กถ้าเกิดการสัมผัสทางใดทางหนึ่งในปริมาณมาก แต่อย่างไรก็ตาม เอพีกลับพบว่าสาร Glyphosate นี้ ที่ใช้กันในหลายรูปแบบที่ “ไม่ได้รับรองจากหน่วยงานวิทยาศาสตร์ในอาร์เจนตินาว่าสามารถกระทำได้ หรือมีการถูกห้ามใช้จากกฏหมายอาร์เจนตินาที่เดิมมีอยู่ก่อนแล้ว” |
||||
นอกจากนี้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลอาร์เจนตินาระบุว่าให้ผู้ใช้สาร เคมีการเกษตรเลิกใช้หากพบว่าจะมีผลเสียต่อสาธารณสุขโดยรวมถึงแม้ว่าการใช้ นั้นจะยังไม่มีผลอธิบายทางวิทยาศาสตร์ยืนยันในอันตรายที่เกิดขึ้นอย่างเป็น รูปธรรมก็ตาม แต่ทว่ากฏหมายนี้ไม่เคยบังคับใช้กับการทำการเกษตร ซึ่งหน่วยงานตรวจเงินแผ่นดินอาร์เจนตินาเป็นผู้พบความผิดพลาดนี้ในปี 2012 |
||||
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีการเกษตรอาร์เจนตินากล่าวหลังจากมีรายงานการวิเคราะห์ของเอพีชิ้น นี้ปรากฏออกมาว่า “มันไม่ใช่เรื่องการขาดการวิจัย แต่เป็นเรื่องที่การให้ข้อมูลที่ผิดพลาดกับประชาชนในเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ ประชาชนอาร์เจนตินาที่ได้รู้ข่าวเรื่องนี้ต่างรู้สึกสับสนและมึนงง อาร์เจนตินาถือว่าเป็นแหล่งผลิตอาหารของโลก เราต้องมีคำอธิบายในเรื่องนี้” |
||||
|
||||
|
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต