จากประชาชาติธุรกิจ
"นิวเคลียร์ ฟิวชั่น" เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์ที่ถูกเรียกขานว่าเป็น "แหล่งพลังงานแห่งอนาคต" มายาวนานกว่า 50 ปีแล้ว แต่จนแล้วจนรอด อนาคตที่ว่าก็ยังมาไม่ถึงสักที
ฟิวชั่น เป็นปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบเดียวกับที่เกิดขึ้นบนดวงอาทิตย์ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งพลังงานแห่งอนาคต เพราะนอกจากจะให้พลังงานมากมายแทบไม่จำกัดแล้ว ยังมีแหล่งที่มาที่ราคาถูกกว่า และที่สำคัญ แม้ว่ามันจะก่อให้เกิดผลพลอยได้ที่เป็นกัมมันตภาพรังสีซึ่งจำเป็นต้องหาทางกำจัดอยู่ แต่ก็ไม่มีกากนิวเคลียร์เกิดขึ้นในกระบวนการและไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกขึ้นอีกด้วย
ปัญหาหลักๆของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่น จนถึงเวลานี้ก็คือ เทคโนโลยีในการก่อสร้างเตาปฏิกรณ์ฟิวชั่นยังมีราคาแพงมาก "เดอะ เนชั่นแนล อิกนิชั่น ฟาซิลิที" (เอ็นไอเอฟ) ของสหรัฐอเมริกา ที่เป็นเตาในระดับทดลองใช้เงินในการก่อสร้างมากกว่า 3,500 ล้านดอลลาร์ ราคาสูงพอๆ กับที่โตโกมัค รีแอคเตอร์ เตาปฏิกรณ์แห่งยุโรป ต้นทุนในการก่อสร้างก็แพงระยับไม่น้อยไปกว่ากัน
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ จนถึงเมื่อไม่นานมานี้ เตาปฏิกรณ์ฟิวชั่น ยังไม่สามารถผลิตพลังงานออกมาได้มากกว่าพลังงานที่ป้อนเข้าไปเพื่อให้ระบบทำงานได้
ดังนั้น ความสำเร็จที่เกิดขึ้นที่เอ็นไอเอฟ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองลิเวอร์มอร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ประกาศว่าสามารถผลิตพลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นได้มากกว่าพลังงานที่ใช้ไป จึงถือเป็นความคืบหน้าที่สำคัญอย่างยิ่งในแวดวงพลังงาน
เอ็นไอเอ ฟเป็นหน่วยงานหนึ่งในสังกัด ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ ที่ห้องทดลองแห่งนี้ใช้เครื่องยิงลำแสงเลเซอร์ 192 ตัว ยิงลำแสงเลเซอร์ที่ทรงอานุภาพที่สุดในโลก เข้าใส่เม็ดเชื้อเพลิงพลังงานไฮโดรเจนเพื่อให้เกิดความร้อนสูงขึ้น (ปฏิกิริยาฟิวชั่นจะเกิดขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงเกินกว่า 100 ล้านองศาเคลวิน) ตามรายงานของบีบีซีในการทดลองเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา เอ็นไอเอฟประสบความสำเร็จในการสร้างปฏิกิริยาฟิวชั่นที่ก่อให้เกิดการปลด ปล่อยพลังงานออกมาเกินกว่าพลังงานที่เม็ดพลังงานดังกล่าวดูดซับเข้าไปซึ่ง ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชั่นสามารถบรรลุถึงเป้าหมาย สำคัญนี้
อย่างไรก็ตามความสำเร็จดังกล่าวก็จัดได้ว่าเป็นการก้าวรุด หน้าก้าวใหญ่ไปอีกก้าวในรอบหลายปีเท่านั้นยังไม่ใช่ขั้นตอนที่จะทำให้ นิวเคลียร์ฟิวชั่นสามารถนำมาใช้งานได้ในความเป็นจริงได้ แต่ก็จะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการค้นคว้าวิจัยต่อเนื่องต่อไปและช่วยให้ การผลักดันให้มีการค้นคว้าวิจัยในอนาคตทำได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง
ที่มา : นสพ.มติชน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
