ปภ. เผย 28จ.น้ำท่วมสระแก้วฉะเชิงเทราปราจีนบุรีอ่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

กรมป้องกัน เผย น้ำท่วมคลี่คลาย 14 จังหวัด ยังเหลือท่วม 28 จังหวัด สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี ยังหนัก

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชน ว่า สถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่ 17 ก.ย.เป็นต้นมา มีจังหวัดได้รับผลกระทบ 42 จังหวัด 304 อำเภอ มีพี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบโดยตรง 3.5 ล้านคน คลี่คลายแล้ว 14 จังหวัด เหลือสถานการณ์ 28 จังหวัด รุนแรง 3 จังหวัด คือ สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรี สถานการณ์ตอนนี้ฝนเริ่มลดลงแล้ว

ขณะที่วิธีการบริหารจัดการ แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกมีกบอ.ดูแล อีกส่วนที่ดูแลพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย วันนี้มีกำลังพลในพื้นที่ 2 หมื่นกว่าคน ครึ่งหนึ่งเป็นทหาร และหน่วยงานต่างๆ อีกครึ่งเป็นฝ่ายพลเรือน กระทรวงมหาดไทย ทรัพยากรฯ เกษตร คมนาคม ไอซีที ฯลฯ ส่วนการช่วยเหลือ ประการแรกได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง ทั่วถึง ไม่ได้ปิดบังข้อมูล ได้รับการแจ้งเตือนภัย มีการอพยพหากภัยมา ดูแลกรณีได้รับเสียชีวิต บาดเจ็บ ครัวเรือนที่เสียหายก็จะได้ 33,000 บาท ด้านอาชีพก็จะมีการทำฐานสำรวจคนที่ถูกกระทบ ทั้งหมดกระทรวงมหาดไทยจะทำฐานข้อมูลกลางไปดำเนินการหลังน้ำลด ถ้าเหตุการณ์เฉพาะหน้าก็ใช้งบกลางหรืองบจังหวัดดำเนินการ

ชาวนางรองแห่เล่นน้ำแก้เครียดน้ำท่วม

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนางรองนับร้อยพาลูกหลานเล่นน้ำแก้เครียดน้ำท่วมถนนยาว 2 กม.ขณะ 20 ครัวเรือนถูกตัดขาดโลกภายนอก

ประชาชนชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ต่างพาลูกหลานไปดูและเล่นน้ำที่บริเวณถนนประชาสันติในเขตเทศบาลเมืองนางรอง ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อ อ.นางรอง - ละหานทราย หลังมวลน้ำจำนวนมหาศาลที่ล้นออกจากสปิลเวย์เขื่อนลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้ไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ อ.นางรอง รวมถึงถนนสายดังกล่าวเป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร

ชาวบ้านอ.นางรอง รายหนึ่ง กล่าวว่า ถือเป็นปรากฏการณ์น้ำท่วมมากที่สุดในรอบหลายสิบปีจึงได้พาลูกหลานแห่ไปดูและ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานโดยเฉพาะในช่วงเย็นจะมีทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และกลุ่มวัยรุ่นมาเล่นน้ำที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ต่างพากันถ่ายภาพเป็นที่ระลึกจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำในเมืองนางรอง ไปแล้ว ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสต่างพากันนำอาหารเครื่องดื่ม มาวางขายกันอย่างคึกคักด้วย ทำให้ช่วงนี้ขายดีเป็นพิเศษ

ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 5 ชุมชน เขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง ประกอบด้วย ชุมชนจะบวก , ชุมชนถนนหัก ,ชุมชนวัดร่องมันเทศ , ชุมชนวัดหัวสะพาน และชุมชนวัดใหม่เรไรทอง ระดับน้ำท่วมสูงตั้งแต่ 50 เซนติเมตร จนถึง 1 เมตร ได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วกว่า 150 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องเร่งอพยพขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงทั้งยังมีถนนในเขตเทศบาลถูกน้ำ ท่วมอีกหลายสาย บางสายท่วมสูงเกินกว่า 60 เซนติเมตร จนต้องปิดเส้นทางไม่ให้รถสัญจร

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่บ้านสูง ชุมชนวัดใหม่เรไรทอง กว่า 20 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดหลังถูกน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน ไร่นาและถนนล้อมรอบหมู่บ้านสูงกว่า 1 เมตรจนต้องติดเกาะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาแล้ว 2 วันจนทางเทศบาลเมืองนางรองต้องนำเรือไปไว้ใช้ในการสัญจรเข้า-ออก หมู่บ้านเพียงอย่างเดียว หากจะเข้าในตัวอำเภอเพราะระดับน้ำท่วมยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ด้านนายทองใบ เพ็งธรรม ปลัดเทศบาลเมืองนางรอง กล่าวว่า ได้ระดมเจ้าหน้าที่พร้อมเรือ จำนวน 2 ลำ เข้าไปให้บริการรับส่งชาวบ้านที่บ้านสูง ชุมชนวัดใหม่เรไรทองเพราะระดับน้ำท่วมสูงกว่าที่อื่นเพื่อเป็นการบรรเทาความ เดือดร้อนให้กับชาวบ้านหากต้องการออกไปจับจ่ายซื้ออาหารและสิ่งของเครื่อง ใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันในตัวอำเภอ

ด้านนายณัฐวัฒน์ อ่อนสุวรรณ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว เพราะขณะนี้มีได้เกิดเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นเด็ก 1 ราย ผู้ใหญ่ 1 ราย ล่าสุดจังหวัดก็ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากอุทกภัย แล้ว 22 อำเภอ จากที่ทั้งจังหวัดมีทั้งหมด 23 อำเภอ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 113 ตำบล 1,010 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 58,825 ครัวเรือน ประชากร 256,847 คน

น้ำมูลทะลักท่วมพิมายขยายวงกว้าง

จาก โพสต์ทูเดย์

น้ำลำมูลทะลักท่วมพิมายเมืองโคราชขยายเป็นวงกว้าง

วันนี้(12ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนกระเบื้องใหญ่ ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา บรรดาเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง และคณะครูโรงเรียนกระเบื้องใหญ่ ต่างต้องช่วยกันเร่งบรรจุกระสอบทราย เพื่อนำไปวางกั้นตามประตูห้องต่างๆที่อยู่บริเวณชั้น 1 ของโรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นห้องเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ห้องพักครู และสหกรณ์ของโรงเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้ปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมจนทรัพย์สินภายในห้องได้รับความเสีย หาย หลังจากที่ปริมาณน้ำจากลำน้ำมูลได้ไหลทะลักเข้าท่วมโรงเรียนกระเบื้องอย่าง รวดเร็วตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ที่ผ่านมา มีระดับน้ำที่สูงกว่า 40 - 50 เซนติเมตร และมีแนวโน้มที่ปริมาณน้ำจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ ยังคงทำการเร่งระบายน้ำจากเหนือเขื่อนระบายน้ำพิมาย อย่างเต็มพิกัด   โดยการเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 6 บาน สูงสุดเพื่อเร่งระบายน้ำ ทำให้ในแต่ละวันมีปริมาณน้ำที่ไหลผ่านเขื่อนระบายน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 20 ล้าน 9 แสนลูกบาศก์เมตร อีกทั้งยังได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำเพื่อผันน้ำลงคลองส่งน้ำ จำนวน 2 บาน สูง 50 เซนติเมตร มีปริมาณน้ำไหลผ่านประตูระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 1 ล้าน 2 แสน และเปิดประตูระบายน้ำที่ระบายลงสู่ลำน้ำเค็ม จำนวน 3 บาน สูง 50 เซนติเมตร มีประมาณน้ำที่ไหลผ่านประตูระบายน้ำเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 2 ล้าน 3 แสนลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งได้เปิดเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 4 เครื่อง ที่ติดตั้งบริเวณประตูระบายน้ำเพื่อทำการเร่งทำการผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่แม่ น้ำมูลเร็วขึ้น

ฝนถล่มนครศรีฯผวาน้ำท่วมฉับพลัน

จาก โพสต์ทูเดย์

ฝนกระหน่ำเมืองคอนชาวบ้านผวาน้ำท่วมฉับพลัน ขณะที่ผู้ว่าฯเตรียมพร้อมรับภัยธรรมชาติในช่วงฤดูฝน

วันนี้ (12 ต.ค.) ได้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดทั้งวันทำให้ชาวบ้านหวั่นว่าจะเกิดสถานการณ์น้ำท่วมขึ้นได้ โดยนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เตรียมความพร้อมรับธรรมชาติในช่วงฤดูฝนของภาคใต้ ร่วมกับสำนักชลประทานที่ 15 และ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สำรวจปริมาณน้ำ สภาพภูมิประเทศ เส้นทางน้ำ เนื่องจากในช่วงฤดูฝนปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำมาก ขอให้ประชาชนเตรียมตัว อย่าได้ไว้วางใจสภาพอากาศ ขอให้ติดตามการพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด

ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า จะสำรวจดูเส้นทางน้ำ เพื่อความไม่ประมาท ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด แจ้งเตือนอาสาสมัครต่างๆ ให้มีความพร้อมแจ้งเตือนภัย ตามระเบียบให้งบประมาณไปเตรียมการป้องกันก่อนได้ แต่ต้องอยู่ในช่วงระหว่างจะเกิดภัยธรรมชาติ และให้จัดเตรียมกำลังพล วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อมช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดภัยธรรมชาติเกิดขึ้นใน จ.นครศรีธรรมราช

โพนพิสัยแล้งจัดนาข้าวเหี่ยวใกล้ตาย

จาก โพสต์ทูเดย์

ขณะที่หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่โพนพิสัยหนองคายแล้งจัด 4 ตำบล ข้าวนาปีเหี่ยวใกล้ตาย

นายอัศวิน หินเธาว์  ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย กล่าวว่า ขณะนี้  อ.โพนพิสัย มีพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว 4 ตำบล ประกอบด้วย ต.วัดหลวง,  ต.ทุ่งหลวง, ต.สร้างนางขาว และ ต.เหล่าต่างคำ โดยเฉพาะ ต.วัดหลวง  เนื่องจากฝนทิ้งช่วงยาวนานนับเดือน ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมากที่สุด โดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวที่กำลังออกรวงใกล้เก็บเกี่ยวที่เสี่ยงต่อการยืนต้น ตายจึงแจ้งไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือโดยด่วน

นายลำพอง ประนมเมือง ชาวบ้านนาตาล หมู่ 2  ต.ทุ่งหลวง กล่าวว่า ปีนี้ปลูกข้าวเหนียวนาปีแต่ฝนไม่ตกลงนาเหมือนพื้นที่อื่นทำให้ต้นข้าวเริ่ม แห้ง ข้าวที่ออกรวงมีเมล็ดลีบ พื้นดินแตกระแหง  เนื่องจากขาดน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว เช่นเดียวกับที่นาของชาวบ้านในละแวกนี้ต้องประสบภัยแล้งทุกปี แต่ก็ต้องทำนากันทุกปี  วัดดวงด้วยการปลูกข้าวเต็มพื้นที่นา แต่จะมีข้าวเติบโตจนถึงเก็บเกี่ยวได้ไม่ถึงครึ่ง เพราะฝนทิ้งช่วง  และเป็นที่นาดอน ไกลแหล่งน้ำ ต้องสูบน้ำจากสระน้ำที่ขุดไว้เอง

อย่างไรก็ตามปีนี้สูบน้ำจนเกือบเกลี้ยงสระแล้วก็ยังไม่เพียงพอ  หากไม่ได้รับความช่วยเหลือประกอบกับไม่มีฝนตกลงมาอีก  คาดว่าข้าวที่ปลูกไว้ทั้งหมดจะไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้  ต้องปล่อยให้เป็นอาหารวัวแทน

นายบันจง โฮมไซส์ นายก  อบต.ทุ่งหลวง กล่าวว่า ต.ทุ่งหลวง มี 11 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรทั้งหมด  17,560 ไร่ เป็นที่นา 15,516 ไร่ เนื่องจาก ต.ทุ่งหลวง  ไม่มีพื้นที่ติดแม่น้ำโขง มีเพียงลำน้ำสาขา และหนองน้ำ 3 แห่ง  ที่พอจะเก็บกักน้ำได้ แม้จะมีการทำคลองส่งน้ำจากหนองน้ำต่าง ๆ  แต่ก็มีหมู่บ้านที่อยู่ใกล้คลองส่งน้ำได้รับประโยชน์เพียง 3 หมู่บ้าน

นอกจากนี้อีก 8 หมู่บ้านนั้นต่างได้รับผลกระทบ  อบต.มีความสามารถจำกัดในการให้ความช่วยเหลือ ทั้งติดขัดด้านงบประมาณและการจัดการพื้นที่ ขั้นต้นได้นำรถน้ำบรรทุกน้ำเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวนา  และอาจจัดสรรงบประมาณบางส่วนเป็นค่าน้ำมันให้ชาวนาสูบน้ำเข้านา  แต่ในระยะยาวอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำคลองส่งน้ำให้เพียงพอ กับพื้นที่ทางการเกษตร  และขุดลอกหนองน้ำที่มีอยู่ให้สามารถเก็บกักน้ำได้มากขึ้น

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต