สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ที่ประชุม UN จัดพิธีลงนาม อนุสัญญามินามาตะ ควบคุมการใช้ สารปรอท

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

     เอเอฟพี – ที่ประชุมองค์การสหประชาชาติจัดพิธีลงนามอนุสัญญาควบคุมการใช้สารปรอท อย่างเป็นทางการในวันนี้ (10) ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศมอบเงินทุน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนการกำจัดสารปรอทในประเทศยากจน
       
       คณะผู้แทนจาก 140 ประเทศ และดินแดนจะร่วมลงนามอย่างเป็นทางการในอนุสัญญามินามาตะ (Minamata Convention) ข้อตกลงควบคุมสารปรอทฉบับแรกที่จะมีผลบังคับตามกฎหมาย โดยคำว่า “มินามาตะ” นั้นเป็นชื่อเมืองในญี่ปุ่น ซึ่งหลายสิบปีก่อนมีประชาชนนับหมื่นคนได้รับพิษจากสารปรอทที่ปล่อยออกมาจาก โรงงานอุตสาหกรรม และเสียชีวิตไปราว 2,000 คน
       
       สำหรับชาวญี่ปุ่น คำว่า “มินามาตะ” ยังสะท้อนถึงการตอบสนองปัญหาที่ล่าช้าของทางการ และผลพวงของอุตสาหกรรมที่ถูกพัฒนาโดยไร้ขอบเขตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
       
       พิษจากสารปรอทเริ่มเป็นที่กล่าวถึงในญี่ปุ่นเมื่อช่วงกลางทศวรรษ 1950 เมื่อนายแพทย์ผู้หนึ่งตรวจพบคนไข้ที่มีอาการภูมิคุ้มกันผิดปกติ ระบบประสาทส่วนกลางและสมองเสียหาย ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า ความเจ็บป่วยของชาวบ้านอาจเกิดจากสารพิษที่ปล่อยออกจากโรงงานอุตสาหกรรม
       
       อย่างไรก็ดี น้ำเสียที่เจือปนสารปรอทยังคงถูกทิ้งลงสู่อ่าวมินามาตะ จนกระทั่งถึงปี 1968
       
       นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น มีถ้อยแถลงผ่านคลิปวิดีโอในพิธีเปิดการประชุมวานนี้ (9) ว่า ญี่ปุ่นยินดีมอบเงินสนับสนุนจำนวน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยประเทศกำลังพัฒนาแก้ไขปัญหามลพิษทางสิ่งแวดล้อม ระหว่างปี 2014-2016
       
       “ด้วยเหตุว่า ประเทศของเราเคยผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายเกี่ยวกับพิษภัยของสารปรอท และเอาชนะมันมาได้ ญี่ปุ่นจึงขอรับหน้าที่เป็นผู้นำในการขจัดสารพิษชนิดนี้ให้หมดไปจากโลก” อาเบะ กล่าว
       
       อย่างไรก็ดี ถ้อยแถลงของผู้นำญี่ปุ่นกลับสร้างความไม่พอใจต่อชาวเมืองมินามาตะ ซึ่งหลายคนยังทนทุกข์ทรมานจากผลกระทบของสารพิษที่ถูกทิ้งลงสู่อ่าวเมื่อหลาย สิบปีก่อน
       
       มาซามิ โอกาตะ วัย 55 ปี ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุนว่า “รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ไม่ควรประกาศวา “ชนะ” ปัญหาแล้ว เพราะความจริงเรายังไม่ได้เอาชนะโรคมินามาตะเลย”
       
       อนุสัญญามินามาตะกำหนดกรอบเวลาให้ประเทศภาคีเลิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี สารปรอทภายในปี 2020 ไม่เว้นแม้กระทั่งปรอทวัดไข้ และให้รัฐบาลต่างๆ สั่งปิดเหมืองปรอทให้หมดสิ้นภายใน 15 ปี
       
       อย่างไรก็ตาม นักอนุรักษ์ยังวิจารณ์ว่า อนุสัญญาฉบับนี้ไม่เอ่ยถึงการใช้สารปรอทในงานช่างฝีมือหรือเหมืองแร่ทองคำ ขนาดเล็ก ซึ่งเป็นอันตรายโดยตรงต่อสุขภาพของคนงานเหมือง รวมถึงแรงงานเด็กจำนวนมากในประเทศกำลังพัฒนา
       
       นักอนุรักษ์เหล่านี้ยังเตือนถึงอันตรายของการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ปน เปื้อนสารปรอท เช่น เนื้อวาฬ และโลมา ซึ่งเป็นอาหารประจำถิ่นของชุมชนชายทะเลในญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากวาฬและโลมาจัดเป็นผู้ล่าลำดับสูงสุด จึงได้รับสารปรอทปริมาณมากที่สะสมอยู่ในตัวเหยื่อของมัน
       
       อนุสัญญามินามาตะจะเริ่มมีผลบังคับต่อเมื่อประเทศภาคีได้ให้สัตยาบัน อย่างน้อย 50 ประเทศ ซึ่งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ที่เป็นผู้ผลักดันอนุสัญญา หวังว่าจะทำได้สำเร็จภายใน 3-4 ปี


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view