เตือนระวังเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วม
จาก โพสต์ทูเดย์
กฟภ. แนะวิธีตรวจสอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าก่อนนำมาใช้ใหม่สำหรับบ้านที่ถูกน้ำท่วม ป้องกันไฟช็อต
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ PEA แนะนำวิธีการตรวจสอบความปลอดภัยระบบไฟฟ้าในบ้านเรือน ซึ่งถูกน้ำท่วม ลำดับแรก ต้องปลดคัตเอาท์หรืออุปกรณ์ป้องกันภายในบ้าน เพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า ก่อนที่จะใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน
สวิตช์และปลั๊กไฟที่ถูกน้ำท่วมอาจมีน้ำหรือดินโคลนสะสมอยู่ ให้ทำความสะอาด ทิ้งไว้ให้แห้งหรือทำให้แห้งโดยเครื่องเป่าลม เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วม เช่น มอเตอร์ปั๊มน้ำ เครื่องซักผ้า แอร์ ตู้เย็น ตู้แช่ ต้องให้ช่างตรวจสอบก่อนการใช้งาน
ในกรณียกคัตเอาท์เพื่อใช้งานไฟฟ้าแล้ว หากมีจุดหนึ่งจุดใดในระบบชื้นหรือเปียก ฟิวส์จะขาด ให้ปล่อยทิ้งไว้ 1 วัน เพื่อให้ความชื้นระเหยออก หลังจากนั้นให้เปลี่ยนฟิวส์และทำตามขั้นตอนเดิม หากฟิวส์ยังขาดให้รีบแจ้งช่างมาตรวจสอบ
ส่วนการตรวจไฟรั่ว ทำได้โดยยกคัตเอาท์ไว้แล้วดับไฟทุกดวง ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้น แล้วไปตรวจสอบมิเตอร์ไฟฟ้า หากพบว่า จานมิเตอร์หมุนอยู่แสดงว่ามีไฟรั่วตามสายหรือท่อบางจุดภายในบ้าน ให้รีบตามช่าง หรือ ให้เจ้าหน้าที่ PEA มาตรวจสอบอย่างละเอียด
ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำได้ที่ สายด่วน 1129 PEA Call Center
3อำเภออยุธยาระทึก!น้ำเต็มเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
จาก โพสต์ทูเดย์
จนท. แจ้ง น้ำเต็มเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต้องเร่งระบายออกเร็วที่สุด จะทำให้ระดับน้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น 1 เมตรทันที เตือน 3 อำเภอ ในอยุธยาเตรียมรับมือ
วันที่ 5 ตุลาคม 56 นายบุญชอบ หอมเกสร ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาป่าสักใต้ ได้มีหนังสือแจ้งเตือนไปยังอำเภอท่าเรือ อำเภอนครหลวง และอำเภอพระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่พื้นที่ติดแม่น้ำป่าสักตอนล่าง ว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำในอ่างมากถึง 974 ล้าน ลบ.ม. ถือว่าเกินความจุสูงสุด 960 ล้าน ลบ.ม. ไปแล้ว ทำให้ต้องเร่งปล่อยน้ำ 1,249 ลบ.ม./วินาที ออกจากเขื่อนให้เร็วที่สุด
โดยน้ำจะไหลมายังเขื่อนพระรามหก อำเภอท่าเรือ และผันเข้าคลองระพีพัฒน์ 150 ลบ.ม./วินาที และปล่อยระบายท้ายเขื่อนพระรามหก ลงแม่น้ำป่าสักตอนล่าง 800 ลบ.ม/วินาที ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำที่ท่วมเพิ่มขึ้นอีก 1 เมตรในทันที
อย่างไรก็ตามในปี 2554 ซึ่งน้ำท่วมใหญ่ พบว่าเขื่อนพระรามหก มีการปล่อยน้ำในช่วงนั้นถึง 1,249 ลบ.ม./วินาที โดยตัวเลขดังกล่าว เท่ากับการปล่อยน้ำสูงสุด ของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ในปีนี้ และหากในช่วง 1-2 วันนี้ มวลน้ำก้อนใหญ่น้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไหลมาถึง ประชาชนชาวอำเภอท่าเรือ หวาดกลัวว่า จะมีการปล่อยน้ำ ท้ายเขื่อนพระรามหก มากกว่า 800 ลบ.ม/วินาที ขึ้นไปอีก
น้ำล้นเขื่อนพระปรงหลากท่วมกบินทร์อีก
จาก โพสต์ทูเดย์
ฝนกระหน่ำทำให้น้ำเขื่อนเก็บน้ำพระปรงเต็มล้นสปริงเวย์ ท่วมซ้ำพื้นที่กบินทร์บุรีอีกรอบ
นายรังสรรค์ บุตรเนียร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ฝนตกต่อเนื่องรวม 2 วันติดต่อกัน ทำให้เขื่อนเก็บน้ำพระปรงน้ำเต็มที่กักเก็บ ไหลล้นออกจากสปริงเวย์ระบายลงต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี มาบรรจบรวมกับกับแควหนุมาน ที่น้ำไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน รวมกันเป็นต้นน้ำหรือแม่น้ำปราจีนบุรี ที่เทศบาลตำบลกบินทร์
สถานการ์ดังกล่าวส่งผลให้น้ำต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีได้เอ่อขึ้นท่วมชุมชน ต่างๆ ทั้ง 7 แห่งของเทศบาลตำบลกบินทร์อีกครั้ง คือ ตลาดเก่าที่น้ำยังท่วมสูง แต่เดิมเนื่องจากตั้งติดกับต้นแม่น้ำ ระดับน้ำที่ท่วมอยู่ท่วมสูงระหว่าง 1.00-1.50 เมตรเศษ , ชุมชนในตลาดเทศบาลตำบลกบินทร์ อาทิ ตลาดหริตวร , ตลาดบริบูรณ์ และทุกชุมชนที่น้ำเพิ่งลดระดับทางเทศบาลฯเพิ่งจะนำรถดับเพลิงฉีดน้ำ ล้าง-กวาดทำความสะอาดเมื่อเร็วๆ นี้ น้ำกลับท่วมขึ้นมาอีกครั้งระดับน้ำสูงระหว่าง 30 – 40ซม.
นายรังสรรค์ กล่าวว่า จากที่น้ำท่วมรอบใหม่นี้วัดระดับน้ำที่ท่วมจากในต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีจาก สูงสุดระดับ 11.83 เมตร วันนี้วัดระดับน้ำที่แม่น้ำปราจีนบุรีได้ 10.83 เมตร คาดว่าระดับน้ำจะระบายลงไปรวดเร็ว เนื่องจากคันดินชลประทานกั้นน้ำพังทลาย ที่ ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี ก่อนหน้าที่ผ่านมาจะทำให้น้ำกระจายไปพื้นที่น้ำทุ่งและพื้นที่รอยต่อกัน อาทิ อ.ประจันตคาม และอ.ศรีมหาโพธิต่อไป
แปดริ้วจ่อท่วมซ้ำหลังอ่างแควระบมน้ำล้น
จาก โพสต์ทูเดย์
อ่างเก็บน้ำแควระบมปริมาณล้นทะลักออก 1.23 ล้านลบ.ม./วัน เตือนพนมสารคาม ราชสาส์น บางคล้า ระวังน้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางขึ้นไปทำการตรวจสอบอ่างเก็บน้ำในเขตพื้นที่ทางตอน บน เหนือพื้นที่ลุ่มจังหวัดจะเชิงเทรา หลังชาวบ้านในเขตพื้นที่ อ.สนามชัยเขต ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภาวะน้ำป่าไหลหลากลงมาซัดเข้าท่วมหมู่บ้านบ่อย ครั้ง โดยต่างพากันออกมาระบุว่า อ่างเก็บน้ำแควระบม และสียัด ที่อยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดฉะเชิงเทรา นั้นปล่อยน้ำทิ้งลงมาใส่ชาวบ้าน
หลังการเดินทางขึ้นไปสำรวจแหล่งต้นน้ำด้านบนอ่างเก็บน้ำดังกล่าว ปรากฏว่า อ่างเก็บน้ำคลองระบม ที่เดิมมีความจุขนาด 39 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบม.) และได้มีการเสริมขอบยางสปริงเวย์ให้มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 55 ล้าน ลบม. แล้วนั้น ได้มีน้ำเต็มความจุ จนเกินจากขอบสปริงเวย์และสูงขึ้นไปอย่างมาก จนทำให้มีน้ำไหลล้นออกมายังด้านนอก บ่าตกลงสู่ช่องทางระบายอย่างเชี่ยวกราก อีกทั้งยังมีความเร็วสูงและไหลกระแทกแรงจนกระเซ็นปลิวลอยขึ้นมาเป็นละอองน้ำ คละคลุ้งไปทั่วบริเวณเหนือแนวปากประตูระบาย
เจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบวัดน้ำ ประจำอ่างเก็บน้ำคลองระบม ระบุว่า ในปีนี้อ่างเก็บน้ำคลองระบมมีปริมาณน้ำมากสูงสุดกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทั้งที่ได้มีการเสริมฝายยางไว้รองรับน้ำเพิ่มมากขึ้นจากเดิมแล้วก็ตาม หลังจากที่มีฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างหนักต่อเนื่อง เพียง 2 วัน ได้ส่งผลทำให้น้ำไหลล้นเหนือขอบสปริงเวย์ โดยเฉพาะวันนี้น้ำไหลแรงและรวดเร็วมากกว่าทุกวันอย่างที่เห็น
โดยในขณะนี้อ่างเก็บน้ำคลองระบมมีอัตราการไหลของน้ำทิ้ง เหนือขอบสปริงเวย์ มากถึงวันละ 1,231,200 ลบม.ต่อวัน ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนขณะนี้มีอยู่ที่ 56.66 ล้าน ลบม. ซึ่งเกินกว่าความจุที่ 55 ล้าน ลบม. ส่วนอัตราน้ำฝนไหลเข้ายังไม่สามารถตรวจสอบได้ แต่เชื่อว่ายังคงมีอัตราการไหลเข้าสูง เนื่องจากในพื้นที่ยังคงมีฝนตกอยู่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ คาดว่า น้ำที่เกินกว่าปริมาณความจุของอ่างเก็บน้ำและไหลล้นออกไปยังภายนอกเขื่อน นั้น จะไหลลงไปถึงยังเขตพื้นที่น้ำท่วม อ.พนมสารคาม (เกาะขนุน) ในอีก 1-2 วันข้างหน้า และจะไปถึงยัง อ.ราชสาส์น และบางคล้าในอีกประมาณ 3 วัน ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตอนล่างนั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักมากยิ่งขึ้น
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
