จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"เกษตร"ปิดปากเงียบไม่ค้านกบอ. เล็งตั้งกระทรวงน้ำ แย้มดึง 20 หน่วยรวมไว้ที่เดียว ด้าน"ปลอดประสพ"บอกถ้าทำจริง3วันก็เสร็จ
แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เปิดเผยว่าจากกรณีที่ครม.มีมติรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนนิติบัญญัติ พ.ศ.2555-2558 ที่มีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการจัดทำแผนนิติบัญญัติ ในเรื่องของการเร่งรัดผลักดันกฎหมายที่มีความสำคัญต่างๆ โดยหนึ่งในนั้นมีวาระที่สำคัญ คือ เรื่องร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวงทบวงกรมฉบับที่… พ.ศ. … คือการจัดตั้งกระทรวงน้ำ ซึ่งวาระนี้ครม.ได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบไปดำเนินการร่างกฎหมายที่จะมีการจัดตั้งกระทรวงทรัพยากรน้ำ ซึ่งจากนี้ภายหลังจากที่รัฐบาลโดยสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี(สปน.)ได้ลงนามเซ็นสัญญากับ 4บริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลทั้ง 9 โมดูล 10 โครงการ ซึ่งคาดว่าการเซ็นสัญญาจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ 2557 และจากนั้นกบอ.ก็จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) มาหารือถึงแนวทางการจัดตั้ง “กระทรวงน้ำ” ซึ่งคาดว่าจะเป็นการบูรณาการ 20 หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกัน
"คาดกันว่าว่าจะมีการดึง กรมชลประทานออกมาจากกระทรวงเกษตรฯ ดึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ออกมาจากกระทรวงมหาดไทย ดึงกรมอุตุนิยมวิทยาและศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ออกมาจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ดึงกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลออกมาจากกระทรวงทรัพยากรฯ และหน่วยงานย่อยอื่นๆอีกรวม 20 หน่วยงานมาไว้ที่กระทรวงน้ำ" แหล่งข่าวกล่าว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในฐานะประธานกบอ. เคยให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเนชั่นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมาถึงการจัดตั้งกระทรวงน้ำว่า "ถึงเวลาแล้วที่จะมีการรวมศูนย์การบริหารจัดการน้ำ ที่สำคัญคือถ้ามีการรวมแล้วมันทำได้ ทั้งนี้มีความชัดเจน คือมีการเข้าที่ ครม. แบบพูดถึงกระทรวงน้ำหลายครั้ง ซึ่งถือว่าครม.ได้มีความเห็นเรื่องกระทรวงน้ำไปแล้วในหลายมิติในหลายขั้นตอน เหลือเพียงอีกครั้งเดียวเท่านั้น คืออนุมัติให้มีการจัดตั้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้ ส่วนหน่วยงานไหนที่จะมาอยู่ภายใต้กระทรวงน้ำนั้น จะเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวกับน้ำทั้งหมดต้องมาอยู่ด้วยกัน อาทิ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ส่วนกรมอุตุนิยมวิทยา ยังเถียงกันอยู่อีกแต่ก็มีโอกาส และโดยตัวกระทรวงก็จะมีกรมใหม่เกิดขึ้นด้วย
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
