สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

น้ำท่วมยังไม่ถึงขั้นภัยพิบัติเคลมไม่ได้

จาก โพสต์ทูเดย์

กองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติเผยยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมภัยพิบัติน้ำท่วม แต่ยันฐานะพร้อมชดเชย

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการประกันภัยพิบัติ เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในขณะนี้ยังไม่ถือว่าเข้าข่าย ลักษณะความรุนแรงถึงขั้นเป็นภัยพิบัติ และขณะนี้ยังไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากผู้ซื้อประกัน แต่กองทุนฯ ยืนยันว่ามีฐานะที่แข็งแกร่งและสามารถชดเชยค่าสินไหมทดแทนได้ทั้งหมดใน กรณีการเกิดภัยพิบัติ  แต่ประชาชนและภาคธุรกิจควรตระหนักถึงการป้องกันความเสี่ยงล่วงหน้าเพื่อ ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ซึ่งกองทุนฯ คิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัยที่เป็นธรรมในอัตรา 0.5%-1.25% ต่อปี

ทั้งนี้ เงื่อนไขบ้านอยู่อาศัยและภาคธุรกิจ จะสามารถเรียกร้องค่าสินไหมทดทแนจากภัยพิบัติในรูปของน้ำท่วม แผ่นดินไหว และ ลมพายุ จะต้องเข้าข่าย ดังนี้

คณะรัฐมนตรีประกาศตามคำแนะนำของกระทรวงมหาดไทย หรือค่าสินไหมทดแทนรวมของผู้เอาประกัน ภายใต้กรมธรรม์ประกันภัยมากกว่า 5,000 ล้านบาท ต่อหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน 60 วัน โดยมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่ 2 รายขึ้นไป หรือกรณีแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงตั้งแต่ 7 ริกเตอร์ขึ้นไป หรือกรณีลมพายุที่มีความเร็วลมพายุตั้งแต่ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป

กรณีภัยพิบัติจากน้ำท่วม กองทุนฯ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามความสูงของระดับน้ำท่วมจากพื้นอาคาร ดังนี้ คือ (1) น้ำท่วมพื้นอาคารจะได้รับความคุ้มครองที่ 30% ของวงเงินการจำกัดความรับผิด (2) ระดับน้ำสูง 50 ซม.จากพื้นอาคารจะได้รับความคุ้มครอง 50% ของวงเงินการจำกัดความรับผิด

(3) ระดับน้ำสูง 75 ซม. จากพื้นอาคารจะได้รับความคุ้มครอง 75% ของวงเงินการจำกัดความรับผิด (4) ระดับน้ำสูง 100 ซม. จากพื้นอาคารจะได้รับความคุ้มครองเต็มวงเงินของการจำกัดความรับผิดไม่เกิน 1 แสนบาท 

กรณีประชาชนที่มีห้องพักในคอนโดมีเนียมสูงอาจไม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำ ท่วม แต่ยังมีความเสี่ยงจากภัยลมพายุ แผ่นดินไหว และสึนามิ ซึ่งหากประชาชนซื้อกรมธรรม์ประกันภัยพิบัติก็จะได้รับความคุ้มครองใน ทรัพย์สินที่เกิดความเสียหายจากภัยดังกล่าวด้วย

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตรับน้ำหรือกักเก็บน้ำไม่สามารถซื้อกรมธรรม์ ประกันภัยพิบัติได้ เนื่องจากรัฐบาลมีมาตรการให้ความช่วยเหลือและชดเชยโดยตรงแก่ประชาชนผู้อยู่ ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่แล้ว

นายพยุงศักดิ์ฯ กล่าวว่า กรณีการซื้อประกันภัยพิบัติประเภทบ้านอยู่อาศัย ประชาชนสามารถซื้อความคุ้มครองประกันภัยพิบัติเพื่อรับความคุ้มครองมากกว่า 1 แสนบาทหรือน้อยกว่า 1 แสนบาท ได้ทั้ง 2 กรณี

ในกรณีซื้อความคุ้มครองน้อยกว่า 1 แสนบาท ผู้เอาประกันจะจ่ายค่าเบี้ยประกันอัตราเดียวทั่วประเทศที่ 0.5% ของทุนเอาประกัน เช่น 8 หมื่นบาท ผู้เอาประกันภัยจะจ่ายเบี้ยประกันภัยจำนวน 400 บาท ส่วนกรณีที่ซื้อความคุ้มครองเกิน 1 แสนบาท ในส่วนความคุ้มครองที่เกินประชาชนสามารถติดต่อบริษัทประกันภัยโดยตรง ซึ่งบริษัทประกันภัยจะคิดอัตราเบี้ยประกันภัยตามอัตราตลาด

กรณี ที่เป็นบ้านเช่า หรืออพาร์ทเม้นท์ ผู้เช่าสามารถซื้อกรมธรรม์เพิ่มเติมเพื่อให้ความคุ้มครองทรัพย์สินของตัวเอง ได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยไม่ถือว่าเป็นการทำประกันภัยพิบัติซ้ำซ้อนกับเจ้าของกิจการที่ซื้อความ คุ้มครองอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างไว้แล้ว 


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view