จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ส่งออกข้าวไทยในช่วง 8 เดือนแรก ลดลง 4.4% มูลค่าลดลง 5.2% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน อิรักเลือกซื้อข้าวจากประเทศในแถบอเมริกาใต้แทนข้าวไทย
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานว่าการส่งออกข้าวในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2556 (ม.ค.-ส.ค.) มีปริมาณทั้งสิ้น 4.14 ล้านตัน มูลค่า 86,474 ล้านบาท โดยที่ปริมาณส่งออกลดลง 4.4% และมูลค่าส่งออกลดลง 5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2555 ที่มีการส่งออกปริมาณ 4.33 ล้านตัน มูลค่า 91,183 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในเดือนมกราคม-สิงหาคม 2556 ประเทศผู้นำเข้าข้าวไทย 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1. อิรัก ปริมาณ 581,075 ตัน 2. เบนิน ปริมาณ 560,647 ตัน 3. สหรัฐอเมริกา ปริมาณ 247,882 ตัน 4. ญี่ปุ่น ปริมาณ 219,667 ตัน 5. ไอวอรี่โคสต์ ปริมาณ 219,362 ตัน
ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา การส่งออกข้าวมีปริมาณลดลงจากเดือนก่อนค่อนข้างมาก เนื่องจากการประมูลในช่วงหลังประเทศอิรักจะเลือกซื้อข้าวจากประเทศในแถบอเมริกาใต้แทนข้าวไทย โดยในเดือนสิงหาคมอิรักนำเข้าข้าวจากไทยเพียง 4,451 ตัน ส่วนข้าวนึ่งนั้นยังคงมีการส่งออกอย่างต่อเนื่องจากเดือนก่อน ซึ่งส่วนใหญ่จะส่งไปยังประเทศเบนิน แอฟริกาใต้ แคเมอรูน และเยเมน โดยในเดือนที่ผ่านมามีการส่งออกข้าวนึ่งประมาณ 166,000 ตัน และข้าวหอมมะลินั้นยังคงมีการส่งออกอย่างต่อเนื่องไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง กาน่า และไอวอรี่โคสต์ โดยในเดือนที่ผ่านมามีการส่งออกข้าวหอมมะลิประมาณ 165,000 ตัน
สำหรับภาวะการค้าข้าวในตลาดการค้าปกตินั้น ผลจากการที่ราคาข้าวภายในประเทศมีแนวโน้มอ่อนตัวลงทำให้ราคาข้าวส่งออกปรับตัวลดลงด้วย แต่ขณะเดียวกันประเทศคู่แข่งก็ได้ปรับราคาส่งออกข้าวลดลงด้วยเพื่อดึงความสนใจของผู้ซื้อ โดยในขณะนี้ราคาข้าวของไทยยังคงห่างจากประเทศคู่แข่งประมาณ 80 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน โดยราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม (ข้อมูลจาก ORYZA.COM) อยู่ที่ระดับ 355-365 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เป็นราคาที่ต่ำที่สุดในตลาด) ขณะที่อินเดียเสนอขายข้าวขาว 5% ที่ 415-425 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) และปากีสถานเสนอขายที่ 385-395 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) ในขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของไทยอยู่ที่ 444 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน (เอฟโอบี) (ราคาประกาศโดยสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ณ วันที่ 25 ก.ย. 2556)
จากการที่ในช่วงนี้ประเทศคู่แข่งได้ปรับราคาส่งออกข้าวลดลง ประกอบกับทั้งประเทศอินเดียและเวียดนามต่างก็มีสต็อกข้าวค่อนข้างมากและมีการส่งออกอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ตลาดยังคงเป็นของผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อมักจะสอบถามราคาข้าว แต่จะยังไม่ตัดสินใจซื้อในทันทีเพื่อรอดูราคาจากแหล่งอื่นๆด้วย และบางส่วนได้ชะลอการซื้อข้าวเพื่อรอดูทิศทางราคาข้าวในตลาดโลก ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนนี้ คาดว่าปริมาณส่งออกจะอยู่ที่ประมาณ 500,000 ตัน เนื่องจากในช่วงนี้ราคาข้าวไทยได้ปรับตัวลดลง และ ในขณะเดียวกันผู้ซื้อบางส่วนจะยังคงซื้อข้าวคุณภาพดีจากไทยเพื่อชดเชยสต็อกข้าวที่ลดลง แต่จะซื้อในปริมาณที่เพียงพอสำหรับในช่วงระยะสั้นๆ เพื่อที่จะรอซื้อผลผลิตข้าวในฤดูใหม่ที่ใกล้จะออกสู่ตลาดในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
