จาก โพสต์ทูเดย์
นักวิชาการจุฬาฯอยุธยาต้องรับมือน้ำท่วมไปจนถึงปลายเดือนต.ค. เหตุฝนตกใต้เขื่อนต่อเนื่อง ผู้ว่าฯเผยน้ำท่วมจ่อเพิ่มระดับอีก 30 ซม.
เมื่อวันที่ 29 ก.ย. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเดินทางลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยดูการเขื่อนป้องกันน้ำท่วมวัดธรรมาราม และตรวจสภาพน้ำท่วมที่อำเภอบางบาล พร้อมแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์ จากนั้นเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงโบราณสถานและพี่น้องประชาชนในในพื้นที่ถูกน้ำ ท่วม
โดยเฉพาะในประเด็นน้ำดื่มที่สะอาด ในช่วงน้ำท่วมสูง จึงได้นำรถผลิตน้ำดื่มสะอาด ของกระทรวง มาประจำในพื้นที่ เพื่อผลิตน้ำดื่มแจกจ่ายแก่ชาวบ้าน ขณะเดียวกันขอให้เฝ้าติดตาม สถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และแม่น้ำป่าสัก เพราะพายุที่จะเข้า 1-2 วันนี้ จะทำให้ฝนตกหนัก และจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลหลากเพิ่มมากขึ้น
ด้าน นายสุจริต คุณธนกุลวงศ์ หัวหน้าภาควิชา วิศวกรรมแหล่งน้ำ คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า พายุที่จะเข้าเชื่อว่า จะทำให้ฝนตกใต้เขื่อนจำนวนมาก และส่งผลกระทบต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยน้ำท่วมจะมีระดับเพิ่มขึ้นไปอีก จนถึงกลางเดือนตุลาคม และเริ่มแห้งในปลายเดือนตุลาคมนี้
นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ระดับน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ยังทรงตัวในระดับสูง แต่ในระยะ 2-3 วันนี้ เชื่อว่าจะมีมวลน้ำก้อนใหญ่ ที่ท่วมหนักในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดสุโขทัย และจังหวัดพิษณุโลก รวมถึงจากจังหวัดนครสวรรค์ ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในระดับสูง ซึ่งจะทำให้น้ำท่วมในพื้นที่ เพิ่มสูงขึ้นไปอีก ประมาณ 30 เซนติเมตร แต่ยืนยันว่าระดับน้ำท่วมสูงสุดในปีนี้ จะไม่ถึงปี 2554 อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่า พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมทั้ง 5 แห่งของจังหวัด ได้ทำแนวป้องกัน ด้วยการยกระดับถนนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยา จากอำเภอท่าเรือ ไปจนถึง อำเภอบางปะอิน สูงกว่าระดับน้ำท่วมปี 2554 ถึง 1 เมตรครึ่ง และขณะนี้ทำหน้าที่ เป็นแนวป้องกันน้ำท่วมได้อย่างดี
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
