ปูตรวจสถานการณ์น้ำสามโคกปทุมธานี
จาก โพสต์ทูเดย์
นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำที่ สามโคก ปทุมธานี มอบของช่วยเหลือประชาชน
เวลา 08.30น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีภารกิจลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะให้กำลังผู้ประสบภัย ที่วัดโบสถ์ ตำบลบางกระบือ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย(กบอ.) นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ร่วมคณะไปด้วย
โดยนายกรัฐมนตรีและคณะเข้าสักการะหลวงพ่อโต วัดโบสถ์ ก่อน จากนั้น นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ โดยนายปลอดประสพบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำท่วมและแนวทางการบริหารจัดการน้ำและ อุทกภัย
โดยสถานการณ์ล่าสุดมีปริมาณฝนทั่วประเทศมีฝนตก 1245 มิลลิเมตร ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และยังต่ำกว่าปี 2554 ถึงร้อยละ 32 ขณะที่ระดับน้ำในจุดสำคัญของแม่น้ำเจ้าพระยายังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ต่ำกว่าปี 2554 ถึง 3 เท่า แต่เป็นห่วงพายุโซนร้อนหวู่ติ๊บ ที่มีทิศทางเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงภายใน 3-5 วันนี้
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมเป็นประธานในพิธีส่งมอบและปล่อยคาราวานรถและเรือพร้อมอุปกรณ์กู้ ภัยจำนวน 360 ลำ พร้อมรับมอบเรือท้องแบน จำนวน 30 ลำและรถยนต์อำนวยการสื่อสาร จำนวน 1 คัน จากกองทุนฮอนด้า เคียงข้างไทยก่อนส่งต่อให้นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) พร้อมชมการสาธิตการใช้เรือและอุปกรณ์กู้ภัย
ภาพ @weeranan
ดอกคำใต้อ่วมจมน้ำสูง50-70ซม.
จาก โพสต์ทูเดย์
ดอกคำใต้วิกฤตน้ำหนุนต่อเนื่อง เอ่อท่วมศูนย์ราชการ-โรงเรียนสูง 50-70 ซม.
วันนี้( 27 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา ยังคงวิกฤตเนื่องจากระดับน้ำจากลำน้ำร่องช้างที่มีระดับสูงขึ้นและท่วมบ้าน เรือนประชาชนขยายพื้นที่กว้างมากขึ้นทั่วเขตเทศบาลฯ ขณะที่สภาพอากาศยังมืดครึ้มทำให้ระดับน้ำไม่ลดลงแต่อย่างใด
นายศรายุทธ พรหมเสน รองนายก ทม.ดอกคำใต้ กล่าวว่า ระดับน้ำนอกจากไม่ลดลงแล้วยังมีระดับสูงขึ้นสูง 50-70 ซม. ถนนบางเส้นทางเทศบาลฯ ได้ประกาศปิดเส้นทางไม่ให้มีการสัญจร เนื่องจากเกรงจะมีอุบัติเหตุต่อผู้ใช้รถใช้ถนน นอกจากนี้น้ำได้ไหลเข้าท่วมศูนย์ราชการแล้ว ทั้งที่ว่าการอำเภอ โรงเรียนดอกคำใต้วิทยาคม(ดว.) ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ที่ทำการ ทม.ดอกคำใต้ หลังเก่า และข้ามถนนไปถึงโรงเรียนไทยรัฐวิทยาฯ
ขณะที่ พล.ต.ชัยวัฒน์ ธนารุณ ผบ.จทบ.พะเยา ได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยบรรจุทรายลงกระสอบนำไปแจกจ่าย ประชาชนทำแนวป้องกันน้ำท่วมบ้านเรือน
“ทางเทศบาลฯได้ประกาศเตือนให้ประชาชนทราบทุกระยะ โดยเฉพาะสถานการณ์ระดับน้ำและสภาวะอากาศจากการประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้ขนของเก็บขึ้นที่สูงเพื่อหนีน้ำแล้ว” รองนายก ทม.ดอกคำใต้ กล่าว
ด้านนายไพรัตน์ ตันบรรจง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)พะเยา กล่าวว่า ได้เข้าพื้นที่มาเยี่ยมให้กำลังใจและประสานงานกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อ ช่วยเหลือประชาชนอีกแรงหนึ่ง
ชุมชนโบราณอยุธยาเจอน้ำท่วมหนัก
จาก โพสต์ทูเดย์
น้ำท่วมหนักชุมชนโบราณอยุธยาสูงเกือบ 2 เมตร คนเฒ่าคนแก่เสี่ยงพลัดตกน้ำเสียชีวิต
วันนี้( 27 ก.ย.) น้ำท่วมหนักในชุมชนโบราณริมแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ที่ 1 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นชุมชนลูกหลานนายขนมต้ม นักมวยชื่อดังในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยในปัจจุบัน น้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร และท่วมมานานเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว
นางสมพงษ์ บุญฤทธิ์ อยู่บ้านเลขที่ 20 กล่าวว่า อาศัยในบ้านเพียงคนเดียว เพราะลูกหลานไปทำงานที่อื่น ทำให้ช่วงน้ำท่วมต้องลำบาก และอันตราย ด้วยกระแสน้ำไหลแรง ประกอบกับหมู่บ้านแห่งนี้ ด้านหน้าเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา และด้านหลังเป็นบ่อทรายขนาดใหญ่ หากเจ็บป่วยเร่งด่วน ต้องการไปหาหมอ ถือว่าลำบาก แต่หากจะย้ายไปอยู่กับลูกหลานชั่วคราว ก็เป็นห่วงบ้าน
นางสมพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับชุมชนแห่งนี้มี 100 หลังคาเรือน ถูกน้ำท่วมทุกปี และเกือบครึ่งเป็นคนเฒ่าคนแก่ ที่ต้องอาศัยในบ้านน้ำท่วมสูง
ปลอดแจงรับมือน้ำท่วมย้ำกทม.ไร้ปัญหา
จาก โพสต์ทูเดย์
ปลอดประสพ พร้อมวอนประชาชนในทางผ่านของน้ำ ให้เชื่อการตัดสินใจของรัฐบาล ด้าน ผอ.ศูนย์เตือนภัยเผยเฝ้าระวัง 30ก.ย.-1ต.ค.'หวู่ติ๊บ'กระทบอีสานฝนตกหนัก
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และนาวาอากาศเอกสมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวในรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน เกี่ยวกับสถานการณ์และการรับมือน้ำท่วมขณะนี้ ว่า หากเปรียบเทียบปริมาณน้ำฝนเมื่อปีที่แล้วกับปีนี้มีความใกล้เคียงกัน แต่มีความแตกต่างว่า ในปีนี้ฝนตกช้ากว่า 1 เดือน ตกทางภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน เป็นจำนวนมาก และตกเป็นหย่อมๆ ทำให้น้ำท่วมเฉพาะที่
นายปลอดประสพ กล่าวว่า พื้นที่ภาคเหนือมีเขื่อนสำคัญ คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติติ์ ทั้ง 2 เขื่อนรวมกันแล้ว ยังสามารถรอบรับปริมาณน้ำได้ถึงร้อยละ 50 หรือ รองรับน้ำได้ประมาณ 10,000 ล้านลูกบาศ์กเมตร หากพายุฝนเข้าทางภาคเหนือตอนบนขณะนี้ โอกาสที่น้ำเหนือจะหลากมโหฬารเหมือนปี 2554 ไม่มีแน่นอน
“ส่วน กทม. ในภาพรวมไม่มีปัญหา เพราะทุ่งรังสิตไม่มีน้ำ แต่ยอมรับว่า ฝั่งตะวันตกของ กทม. อาจมีปัญหาบ้าง แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปลอดภัย 100% เว้นแต่ถ้ามีพายุฝนตกเหนือ กทม. ติดต่อกัน 1-2 วัน จึงน่าเป็นห่วง” นายปลอดประสพ กล่าว
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ เชื่อว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะเกิดขึ้นไม่นาน วันนี้ (28 ก.ย.) น่าจะคลี่คลาย เพราะใกล้แม่น้ำโขง แต่ที่ จ.อุบลราชธานี วันนี้จะหนัก แต่ถ้าภายใน 2 วันนี้ หากไม่ฝนตกเพิ่ม สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น” นายปลอดประสพ กล่าว
ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.ปราจีนบุรี นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากฝนตกเฉพาะที่ ทำให้น้ำท่วมสูงที่สุดในรอบ 26 ปี และยอมรับว่า การระบายน้ำเป็นไปได้ยาก เพราะแม่น้ำบางปะกง มีน้ำทะเลหนุนสูง ประกอบกับทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.เมือง กบินบุรี และศรีมหาโพธิ เป็นทุ่งมีพื้นที่เกือบ 15 ล้านไร่ เมื่อฝนตก จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าน้ำท่วม
“เมื่อเราเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศไม่ได้ เราจึงสร้างแนวป้องกันด้วยงบประมาณจากโครงการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เมื่อแล้วเสร็จสมบูรณ์ รับประกันได้ว่า 3 ปี จากนี้ 3 เมืองเศรษฐกิจสำคัญไม่ท่วมอย่างแน่นอน” นายปลอดประสพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายปลอดประสพ กล่าวว่า พื้นที่ทุ่งดังกล่าวเหมาะแก่การเพาะปลูก จึงยังต้องหาแนวทางทำคลองผันน้ำ คาดว่ามีความยาว 50 กิโลเมตร เพื่อช่วยในการระบายน้ำ แต่ยังต้องหางบประมาณในการดำเนินการก่อน หากดำเนินการได้จะเป็นเรื่องดี ส่วนประชาชน จ. นครสวรรค์ อุทัยธานี บางอำเภอ ชัยนาท สิงบุรีห์ อ่างทอง ที่ไม่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ในแนวป้องกัน สบายได้ แต่หากอยู่ริมแม่น้ำ คงไม่มีทางหลีกเลี่ยง
“อยากขอร้องประชาชนที่เป็นทางผันน้ำลงสู่แม่น้ำ หนักนิดเบาหน่อย ให้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้เชื่อข้อมูลทางวิชาการ และการตัดสินใจขงีรัฐบาล ไม่ตัดสินใจผิดเด็ดขาด” นายปลอดประสพ กล่าว
นายปลอดประสพ กล่าวว่า การบริหารจัดการน้ำโดยใช้ Single Command เป็นศูนย์กลางการแก้ไขปัญหา ทำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำได้บูรณาการร่วมกัน และตัดสินใจแก้ปัญหาในแนวทางที่ดีที่สุด หากไม่มีระบบนี้ เชื่อว่าภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปีนี้ จะเสียหายมากกว่านี้
ด้าน ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กล่าวว่า สภาพโดยรวมขณะนี้ความกดอากาศสูงดันลงมาทางใต้ทำให้ร่องมรสุม ที่พาดผ่านภาคเหนือและอิสานกำลังแรงขึ้น มีน้ำมาก ผลดีของร่องฝนตกตอนบนทำให้เติมน้ำในเขื่อน 2 เขื่อนได้เพิ่มมากขึ้น (เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิต์) อีกประการคือ วันที่ 28-29 ก.ย. ร่องฝนลงมาพื้นที่ตอนล่าง ทำให้ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ชัยนาท มีฝนมากกว่าเดิม แต่เขาตกแล้วเคลื่อนตัวทำให้ฝนแผ่กระจาย พื้นที่ต่างๆสามารถรองรับน้ำได้ สิ่งที่กังวลใจแต่ได้ติดตามคือ วันที่ 30 ก.ย.-1 ต.ค. พายุ หวู่ติ๊บ ถ้ามาขั้นรุนแรงที่สุด คือ ตอนกลาง เข้าทางอิสาน ระหว่างมุกดาหารกับนครพนม ทำให้พื้นที่ริมน้ำโขงต้องเฝ้าติดตาม หนองคาย บึงกาฬ มุกดาหาร นครพนม อุบลราชธานี พอวันที่ 2 ต.ค. ถ้าพายุยังมีความรุนแรงอยู่ ก็จะมีผลให้กทม.ฝนตกหนัก แต่รองนายกฯได้เรียกเจ้าหน้าที่ระดมสรรพกำลัง เพิ่มในศูนย์ส่วนหน้าเพื่อให้พี่น้องในพื้นที่ได้อุ่นใจ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ต่างจากปี 54 สิ้นเชิง แต่อยากให้เทียบกับปี 55 คล้ายกับปี 55 ให้สบายใจได้ พื้นที่ตลอดแนวริมน้ำเจ้าพระยาที่กระทบบ้าง เป็นที่ราบลุ่มต่ำ แต่ก็เป็นวิถีชีวิตที่ชาวบ้านรับได้ ส่วนพื้นที่อื่นที่อยู่ในแนวคันกั้น และอยู่ในการบริหารจัดการของกบอ.ก็ได้มีการสั่งการในพื้นที่ดูแลตลอด
ขณะที่ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ตามข้อมูลจาก 17 ก.ย. -วันนี้ มีสถานการณ์น้ำท่วม 30 จังหวัด 210 อำเภอ มีผู้ได้รับผลกระทบ 2 ล้านกว่าคน แต่เป็นเพียงบางหมู่บ้าน บางตำบล เราแบ่งผู้ประสบภัยเป็น 2 กลุ่ม โดย 26 จังหวัด ประสบภัยจากน้ำไหลหลาก คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด และอีก 4 จังหวัดประสบปัญหาจากน้ำล้นตลิ่ง เราได้เตรียมการช่วยเหลือประชาชนตั้งแต่ก่อนเกิดภัย ผู้ว่าฯสามารถสั่งใช้ได้ถ้าเล็งเห็นผลหรือคาดว่าจะเกิดภัยขึ้นหรือเกิดภัย แล้วใช้งบในการฟื้นฟูดูแลได้ หลักการช่วยเหลือเน้นในเรื่องชีวิตเป็นสำคัญก่อน และมีการใช้พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนในภาพรวม
เตือนเขื่อนป่าสักใกล้เต็มหลังฝนตกต่อเนื่อง
จาก โพสต์ทูเดย์
อยุธยาเตือนเขื่อนป่าสักใกล้เต็มปริมาณน้ำกักเก็บ 93% หลังฝนตกหนักทำระดับน้ำเพิ่มต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณืน้ำล้นตลิ่งยังทรงตัว
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ออกเตือนว่ายังมีร่องสมมาสุมพัดผ่านภาคกลางและภาคเหนือ จะมีฝนตกต่อไปอีกในระยะนี้ และพบว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำกักเก็บอยู่กว่า 93 % ถ้ามีฝนตกลงมาสมทบจะทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขอให้ประชาชนเฝ้าติดตามการประกาศเตือนของทางราชการเพื่อเตรียมรับมือเป็นการ ไม่ประมาท
ทั้งนี้ที่เขื่อนพระราม 6 อำเภอท่าเรือ นั้นล่าสุดรับน้ำจาก 2 ทางคือ น้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ไหลมาตามแม่น้ำป่าสัก และรับน้ำจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ที่รับน้ำจากเขื่อนพระยา โดยไหลมารวมกันที่หน้าเขื่อนพระรามหก โดยเขื่อนพระรามหก ได้ทำการเปิดประตูระบายน้ำเพิ่มขึ้นส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักท้าย เขื่อนพระราม 6 ที่ไหลผ่าน 4 อำเภอ ท่าเรือ นครหลวง บางปะหันและพระนครศรีอยุธยา จะมีระดับสูงขึ้นขอให้ประชาชนสองฝั่งเฝ้าระวังติดตามอย่างใกล้ชิดที่น้ำใน แม่น้ำป่าสักไหลสูงขึ้นอีกระลอก
สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยาที่ยังล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชน อยู่ในขณะนี้พบว่า ระดับน้ำเฉลี่ยแล้วโดยทั่วไป สูงขึ้นมาเล็กน้อย 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น แต่เขื่อนเจ้าพระยายังคงระบายน้ำลงมาอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วน้ำ 2,195 ลบ.ม./วินาที โดยน้ำส่วนหนึ่งถูกพร่องลงไปเก็บไว้ในพื้นที่รับน้ำหรือแก้มลิงในอำเภอเสนา ผักไห่และบางบาล
น้ำมูลเริ่มเอ่อท่วมริมตลิ่งอ.พิมาย
จาก โพสต์ทูเดย์
น้ำมูลเริ่มล้นตลิ่งท่วมอ.พิมาย โคราช หลังฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. หลังจากในหลายพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบจากความกดอากาศ สูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนเข้าปกคลุมในพื้นที่ ส่งผลให้ในพื้นที่จังหวัดนครราชีมา มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน เป็นวันที่ 2 ทำให้ระดับตามลำคลองต่างๆมีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นคราชสีมา ที่เป็นพื้นที่รับน้ำที่สุดท้ายของจังหวัดนครราชีมา ก่อนที่จะระบายลงสูงแม่น้ำมูล พบว่า ระดับภายในลำน้ำมูลที่ไหลผ่านตัวเมืองพิมาย มีระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดระดับน้ำได้เอ่อท่วมศาลาที่ใช้ในการจัดการแข่งขันแข่งเรือพิมาย มีระดับน้ำสูงกว่า 40 เซนติเมตร จนทำให้เจ้าหน้าที่ของทางเทศบาสลตำบลพิมายต้องนำไม้และโฟม มาทำเป็นสัญญลักษณ์ขอบของศาลา เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนในพื้นที่พลัดตกลงในลำน้ำมูล
เช่นเดียวกันกับที่ชุมชนตะวันตกวัดเดิม ต.ในเมือง อ.พิมาย ที่อยู่ติดกับลำน้ำมูลระดับน้ำก็ได้เอ่อล้มท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ สูงกว่า 30 เซนติเมตร ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าว ต้องพากันเร่งเก็บทรัพย์สิรนที่มีค่าไว้ที่สูง เพื่อป้องกันทรัพย์สินถูกน้ำท่วมจนได้รับความเสียหาย
ด้านนายกิติกุล เสภาศีราภรณ์. ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นคราชสีมา เปิดเผยถึง สถานการณ์ปริมาณน้ำภายในเขื่อนระบายน้ำพิมาย พบว่า ระดับน้ำยังคงมีปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเนื่อง โดยมีปราณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละ 11 เซนติเมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นประมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับทางเขื่อนระบายน้ำพิมาย ต้องมีประสบกับปัญหาผักตบชวาที่รอยตามกระแสน้ำ มาติดอยู่ที่บริเวณเหนือประตูระบายน้ำจึงทำให้ประสิทธิภาพของเขื่อนระบายน้ำ พิมายลดลง จากเดิมที่สามารถระบายได้วันละ 19 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็สามารถทำๆได้เพียงระบายออกวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะยังคงมีปริมาณน้ำสะสมเหนือเขื่อนระบายน้ำอยู่ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็ได้ส่งผลให้ปริมาณได้ไหลท่วมในพื้นที่ลุ่ม และเริ่มที่จะไหลเข้าท่วมในเขตเทศบาลตำบลพิมาย
สุดอั้น!เขื่อนป่าสักจ่อเพิ่มระบายน้ำ
จาก โพสต์ทูเดย์
รมช.คมนาคม รับสภาพ น้ำเหนือหนุน 6 อำเภออยุธยาท่วม เตือนรับสถานการณ์น้ำจากเขื่อนป่าสักฯล้นเขื่อนเตรียมปล่อยท่วมซ้ำ
เมื่อเวลา 16.00 น. นายพ้อง ชีวานันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยนายชาติชาย พิพย์สุนาวี อธิบดีกรมทางหลวงชนบท และคณะลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์อุทกภัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนสายทาง ทล.3555, 3412,3501,3263 และสาย อย.4038, 4016 ทั้งนี้เพื่อติดตามความพร้อมของเส้นทางต่างๆ หากเกิดอุทกภัยขึ้นมาอีก จำเป็นต้องรักษาโครงข่ายเส้นทางคมนาคม ให้สามารถสัญจรลำเลียงและช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ทันสถานการณ์
อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงคมนาคมได้ปรับปรุงยกระดับเส้นทางในพื้นที่ดัง กล่าวให้พ้นระดับน้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่พื้นที่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สระบุรี ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ลงมาจนถึงกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ ภายใต้ “โครงการปรับปรุงเพื่อยกระดับโครงข่ายถนนในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงชนบท” กระทรวงคมนาคม เพราะรัฐบาลได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และให้ความสำคัญของระบบการคมนาคมขนส่ง ควรมีความพร้อมสำหรับการเดินทางและขนส่งหากเกิดปัญหาอุทกภัยขึ้น
นายพ้องกล่าวว่า ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ อ พระนครศรีอยุธยา อ บางบาล อ บางปะอิน อ บางไทร คลองบางหลวง คลองโผงเผง และคลองลางบาล ระดับน้ำเพิ่มขี้น ในแม่น้ำน้อย ตั้งแต่ อ ผักไห่ อ เสนา อ บางบาล และ อ บางไทร ระดับน้ำทรงตัว แม่น้ำลพบุรี ตั้งแต่ อำ บ้านแพรก อ มหาราช อ.บางปะอิน อ พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ส่วนในแม่น้ำป่าสัก ตั้งแต่ อ ท่าเรือ อ นครหลวง และ อ พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขี้น
"ขณะนี้มีพื้นที่ประสบอุทุกภัย 6 อำเภอ ประกอบด้วย อ เสนา อ บางบาล อ ผักไห่ อ พระนครศรีอยุธยา อ บางไทร และ อ บางปะอิน รวม 81 ตำบล ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 25,665 ครัวเรือน มีวัด 34 แห่ง โรงเรียน 27 แห่ง ถนน 3 สาย พาน 7 แห่ง สถานที่ราชการ 4 แห่ง เป็นพื้นที่การเกษตร 3,955 ไร่"นายพ้องกล่าว
นายพ้องกล่าวอีกว่า จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เร่งประสานกับส่วนราชการแจ้งเตือนประชาชน หลังจากมีความชัดเจนว่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีระดับน้ำในเขื่อนมากกว่า 93% และยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เหนือเขื่อน ซึ่งจะต้องมีการเพิ่มการปล่อยระบายน้ำ ลงท้ายเขื่อนมาตามแม่น้ำป่าสัก และไหลมาถึงเขื่อนพระรามหก ที่อำเภอท่าเรือ จนต้องเร่งปล่อยน้ำท้ายเขื่อนพระรามหก เพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำล้นตลิ่งได้
ส่วนในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย พบว่าระดับน้ำยังท่วมสูง โดยกรมชลประทาน จะได้ผันน้ำเข้าทุ่งนา ที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังไปหมดแล้ว ในหลายทุ่งนาที่กำหนดเป็นพื้นที่แก้มลิง เขตอำเภอบางบาล อำเภอเสนา และอำเภอผักไห่ และช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ฝนตกไม่หยุดเมืองพิษณุโลกเริ่มท่วมขัง
จาก โพสต์ทูเดย์
ฝนตกไม่หยุดส่งผลให้น้ำท่วมขังเขตเทศบาลนครพิษณุโลก หลังจากระบายไม่ทัน ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 ซ.ม.
เมื่อวันที่ 28 ก.ย.หลังจากได้เกิดฝนตกต่อเนื่องในคืนวันที่ 27 ก.ย.จนถึงวันที่ 28 ก.ย. และน้ำฝนที่สะสมเป็นเวลานานหลายชั่วโมง ส่งผลให้ระบบการระบายน้ำในเขตเทศบาลเมืองพิษณุโลกเป็นไปอย่างล่าช้า ประกอบกับท่อระบายรับไม่สามารถรับน้ำฝนได้ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังทั่วบริเวณพื้นที่เขตเทศบาลนครพิษณุโลก โดยเฉพาะถนนสายมิตรภาพ ช่วงเชิงสะพานสูงฝั่งตะวันออกไป จนถึงโชว์รถยนต์ฮอนด้า มุ่งหน้าไปทางสถานีขนส่งรถโดยสาร ระดับน้ำที่ท่วมขังสูงมากที่สุด ระดับน้ำสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร ทำให้รถที่สัญจรไปมาต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะรถเล็ก
นอกจากนี้ยังมีถนนที่ถูกน้ำท่วมขังสูง คือถนนพญาเสือ ถนนสายวัดศรีวิสุทธารามหรือ วัดโคกมะตูม บริเวณทางแยกติดฝั่งถนนมิตรภาพ และถนนสายหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามมีน้ำท่วมขังสูง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวไม่มีท่อระบายน้ำ คาดว่าถ้าฝนไม่ตกต่อเนื่อง ระดับน้ำตามผิวถนนในพื้นที่เขตเทศบาลนครพิษณุโลกจะลดลงตามปกติ
อุทัยธานีคันกั้นน้ำพังน้ำทะลักท่วม2หมื่นไร่
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
น้ำท่วมหนัก อุทัยธานีคันกั้นน้ำพัง น้ำทะลักเข้าท่วมที่นาของชาวบ้าน 2 หมื่นไร่
นายสุรศักดิ์ วงษ์นาค นายก อบต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมามาได้นำชาวบ้านทำการเสริมแนวถนนคันกั้นน้ำ ริมตลิ่งแม่น้ำตากแดด หมู่ที่ 1 ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี เพื่อรักษาพื้นที่นาขาวเอาไว้ แต่ปรากฏว่า 22.00 น. ของวันที่ 27 ก.ย. คันดินที่เสริมไว้ตลอดแนวตลิ่งได้พังทลาย เป้นทางยาว3 เมตร และขยายวงกว้างเป็น 50 เมตร ส่งผลให้น้ำจากแม่น้ำตากแดด ที่ระบายจากเขื่อนวังร่มเกล้าไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาของชาวบ้าน ในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ต.หนองไผ่แบน และ ต.โนนเหล็ก อ.เมือง คิดเป็นเนื้อที่กว่า 20,000 ไร่ ความแรงของกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ทำให้ไม่สามารถจะปิดกั้นได้และระดับน้ำที่ทะลักเข้าท่วมยังมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง คาดว่าจะส่งผลต่อบ้านเรือนและถนนหลายสายในหมู่บ้าน
ศรีสะเกษพบศพจมน้ำศพที่ 9 แล้ว
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ศรีสะเกษ ยังท่วมสูง 5 อำเภอ ได้แก่ อุทุมพรพิสัย,กันทรารมย์,ราษีไศล,ห้วยทับทัน และ อ.เมือง พบศพจมน้ำศพที่ 9
วันที่ 28 ก.ย. พ.ต.ต. ศิลปะสิทธิ์ ศรีเกียรติ สารวัตรเวร สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ รับแจ้ง มีผู้พบศพชายลอยน้ำบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำมูล 2 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ทราบชื่อภายหลัง นายสำ ดีภักดิ์ อายุ 49 ปี ซึ่งได้นำเรือหว่านแหหาปลา ขณะที่เกิดน้ำท่วม และเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 9 ในช่วงที่เกิดน้ำท่วม
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ศรีสะเกษ พบว่าน้ำยังท่วมสูงอยู่ใน 5 อำเภอ อันได้แก่ อุทุมพรพิสัย, กันทรารมย์,ราษีไศล,ห้วยทับทัน และ อ.เมือง และสถานการณ์น้ำท่วมในเขต อ.เมือง ทำให้ชาวบ้านที่ต้องอพยพมาอยู่ที่ศูนย์อพยพ 12 แห่งในเขตเทศบาลเมืองศรีสะเกษ จำนวน 1,850 คน
เพชรบูรณ์อ่วม!น้ำป่าเทือกเขาห้วยใหญ่ทะลัก
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เพชรบูรณ์อ่วมอีก หลังฝนตกหนักน้ำป่าเทือกเขาห้วยใหญ่ทะลัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 05.00 น. วันที่ 28 กันยายน หลังมีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ทำให้มีน้ำป่าจากเทือกเขาห้วยใหญ่ไหลทะลักเข้าท่วม ต.บ้านโคก อ.เมืองจ.เพชรบูรณ์ ทำให้ 12 หมู่บ้านตกอยู่สภาพจมน้ำโดยทันที โดยระดับน้ำท่วมสูงตั้ง 80-150 เซนติเมตร ทั้งนี้ นายศราวุธ ธนาเจริญสกุล ปลัดอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมนายวิฑูรย์ ลำเจริญ กำนันตำบลบ้านโคก นำกำลังอาสาสมัคร เข้าสำรวจพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม โดยพบว่าน้ำท่วมที่ต.บ้านโคกในครั้งนี้หนักที่สุดในรอบ หลายปี มีชาวบ้านกว่า 2,000 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เกษตรโดยเฉพาะนาข้าวได้รับความเสียหายหลายพันไร่เช่นเดียวกัน
ชลประทานโคราช วางแผนจัดสรรน้ำรับมือพายุ
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ชลประทานโคราช วางแผนจัดสรรน้ำรับมือพายุ ระบุปัญหาน้ำท่วมขังในขณะนี้ไม่ได้เกิดจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำชลประทาน
หม่อมหลวงอนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำดิบอยู่ในอ่างเก็บน้ำทั้งขนาดใหญ่ และขนาดกลาง จำนวน 27 แห่ง รวม 726 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 62 ของความจุเก็บกัก 1,174 ล้านลูกบาศก์เมตร ในการบริหาร จัดการ อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 แห่ง ไม่ได้เปิดประตูระบายน้ำแต่อย่างใด ยังต้องเก็บน้ำไว้ในช่วงหน้าแล้ง พร้อมจัดระบบการพร่องน้ำให้สัมพันธ์กัน ในลักษณะสับหลีก มิให้ก้อนน้ำจากลำตะคอง,ลำพระเพลิง,ลำแชะ และลำเชียงไกร ซึ่งมีปลายทางไหลผ่านเขื่อนระบายน้ำพิมาย อ.พิมาย มาบรรจบกันพอดี ส่วนเขื่อนระบายน้ำท้ายอ่าง ฯ ได้เร่งผันน้ำให้ได้มากที่สุด เพื่อเตรียมรับพายุที่จะเคลื่อนตัวผ่านพื้นที่นครราชสีมา
"ปัญหาน้ำท่วมขัง มิใช่เกิดจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำชลประทาน ก้อนน้ำที่ท่วมเป็นน้ำฝนสะสมที่ตกในพื้นที่ท้ายอ่าง ฯ แล้วเกิดน้ำไหลหลากท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ รวมทั้งการระบายน้ำของหลายส่วนที่ไม่มีประสิทธิภาพ และสาเหตุสำคัญพบสิ่งปลูกสร้างปิดกั้นเส้นทางน้ำไหล และมีการบุกรุกริมคลองสาธารณะมากขึ้น " หม่อมหลวงอนุมาศ กล่าว
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
