จาก โพสต์ทูเดย์
ปลอด ประสพ"ยอมรับค้านเขื่อนเเม่วงก์ปี 42 ปัดกลับคำพูดอ้างออกแบบสร้างต่างกัน ยันปัจจุบันต้องสร้างช่วยป้องกันน้ำท่วม "ปราโมทย์"ซัดอย่างเล่นแง่
เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 24 ก.ย. ที่รัฐสภา คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างการประชุมสภารับทราบรายงานการแถลงผลงานของรัฐบาล ว่า กรณีการสร้างเขื่อนแม่วงก์นั้นเหตุใดนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) จึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะเมื่อปี 2542 นายปลอดประสพ เคยระบุว่า ในฐานะอธิบดีกรมป่าไม้ ได้ตัดสินใจไม่อนุญาตให้เข้าไปสร้างเขื่อนในป่าแม่วงก์ เพราะได้พิจารณาข้อมูลโดยรอบคอบแล้ว ทั้งนี้เพื่อต้องการรักษาผืนป่าไว้ หากปล่อยให้ใช้ฟุ่มเฟือยไปเรื่อยๆ ต่อไปคงไม่มีป่าเหลืออย่างแน่นอน แต่ 13 ปีผ่านไป ในปี 2556 นายปลอดประสพกลับยืนยันให้สร้างเขื่อน โดยอ้างว่าป้องกันน้ำท่วม ไม่รู้ว่าได้รับเงินหรือรับกล่องมาหรือไม่
ด้าน นายปลอดประสพ ชี้แจงว่า เป็นความจริงที่ในสมัยที่ตนเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ ตนไม่ให้สร้างเขื่อนแม่วงก์ เพราะแบบการสร้างเขื่อนที่กรมชลประทานเขียนถึงตนในขณะนั้นเป็นการสร้าง เขื่อนเพื่อชลประทาน โดยอธิบายว่าประสงค์จะขยายพื้นที่ชลประทานใน จ.อุทัยธานีอีก 3 แสนไร่ แต่ตนเห็นว่า จ.อุทัยธานีไม่น่าจะมีพื้นที่ทำการเกษตรที่จะเพิ่มขึ้นอีก 3 แสนไร่ และไม่เชื่อว่าการลงทุนสร้างเขื่อนในขณะนั้น ซึ่งต้องใช้พื้นที่ป่าประมาณหมื่นกว่าไร่ จะคุ้มค่า
"วันนี้ไม่ใช่ผมสับปลับ เปลี่ยนตำแหน่งแล้วคิดอีกอย่าง อยากเรียนว่า มีการประท้วงขณะนี้ในเรื่องอีไอเอที่กรมชลประทานเป็นคนทำ เป็นคนจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อวิเคราะห์แบบเขื่อนของกรมชลระทาน ซึ่งออกแบบต่อเนื่องมา 20 ปี ไม่มีส่วนใดเกี่ยวข้องกับ กบอ.และโครงการ 3.5 แสนล้านบาท ในเงิน 3.5 แสนล้าน เขื่อนแม่วงก์ยังคงใช้พื้นที่เดิม แต่การออกแบบเขื่อนเป็นการออกแบบเพื่อป้องกันน้ำท่วม ไม่ใช่เพื่อการชลประทาน หากมีน้ำเหลือต้องไปใช้เรื่องชลประทานบ้าง เป็นเรื่องของผลพลอยได้ แต่หลักๆ คือ ต้องป้องกันน้ำท่วม” นายปลอดประสพกล่าว
นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า เหตุที่ต้องป้องกันน้ำท่วม เพราะแม่น้ำสะแกกรังที่ออกมาจากแม่วงก์ ไม่มีส่วนควบคุม ในรอบปีจะมีน้ำหลากอยู่เต็มที่ประมาณ 3 เดือน จุดพีคอยู่ที่ 800 คิวเสก โดยช่วงที่ 800 คิวเสกจะเป็นช่วงที่น้ำหลากมาที่ จ.นครสวรรค์ ปี 2554 ที่ผ่านมามีน้ำประมาณ 4 พันคิวเสก เมื่อบวกกับ 800 คิวเสก ทำให้เขื่อนชัยนาทไม่สามารถบริหารจัดการได้ จึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องมือต้นน้ำ เพื่อระงับน้ำ 800 คิวเสกดังกล่าว เพื่อป้องกันการสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจทางชีวิตและทรัพย์สิน
"วันนี้ผมมองเครื่องมือที่จะป้องกันความเสียหาย จึงเห็นว่าเขื่อนนี้ควรจะสร้างได้ แต่ต้องเป็นการออกแบบเพื่อป้องกันน้ำท่วม เมื่อโครงการ 3.5 แสนล้านเริ่ม ก็มีการทำอีไอเอ และอีเอชไอเอใหม่อีกครั้งตามแบบของโครงการนี้ แต่ประชาชนไม่รู้เข้าใจผิด เอาเรื่องเส้นเล็ก เส้นใหญ่มาผสมกัน ทั้งที่เป็นคนละเรื่อง ผมก็อุตส่าห์อดทน ไม่อยากจะพูด วันนี้จะมาพูดก็จะอธิบายให้ท่านฟัง"นายปลอดประสพกล่าว
อย่างไรก็ตามคุณหญิงกัลยา กล่าวต่อว่า ขณะนี้มีนักวิชาการและประชาชน ระบุว่าเขื่อนแม่วงก์กักเก็บได้เพียง 262 ล้านลบ.ม. ถือเป็น 1% ของน้ำที่ท่วมเมื่อปี 2554 และไม่ได้แก้ปัญหาน้ำท่วมจึงไม่ควรตั้งเป็นเป้าหมายการสร้างเขื่อน
นายปลอดประสพ ชี้แจงว่า ตนจะอุปมาว่ามีซุงท่อนใหญ่หนัก 500 กก.มีคน 6-7คนยืนอยู่ หากร่วมกันยก ซุงถูกยกได้ แต่เด็กในจำนวนนั้นไม่ยอมยกเพราะไม่มีแรง ฉันใดฉันนั้นการป้องกันน้ำท่วมของรัฐบาลแบบเบ็ดเสร็จเพื่อสู้กับน้ำ 2.5หมื่นล้าน ลบ.ม.ตามเกณฑ์ 2554 ถือเป็นภาระที่หนักหน่วง จึงต้องมี 9 เครื่องมือและการสร้างเขื่อน 21 เขื่อน โดยเขื่อนแม่วงก์รับน้ำได้ 10% ในเขื่อน 21 แห่ง ทั้งนี้ตนไม่เถียงว่าปริมาณน้ำของเขื่อนแม่วงก์ที่รับได้ 250-300ล้านลบ.ม. นิดเดียว แต่ต้องร่วมกัน
"และแม้เขื่อนแม่วงก์จะมีขนาดเล็กน่าจะภูมิใจที่มีโอกาสเซฟความปลอดภัย ของประเทศ ผมก็รักป่า รักสัตว์ป่าไม่ต่างกับท่าน เพราะเป็นวิชาชีพ แต่ด้วยหน้าที่ต้องเซฟส่วนใหญ่ ท่านหรือใครก็ตามล้วนผ่านชีวิตมาหลายครั้งที่ต้องเสียสละสิทธิส่วนตัวที่รัก ที่หวงเพื่อส่วนตัว ผมมีทางเลือกหรือครับ นี่คือสิ่งที่ดีทีสุดสำหรับประเทศชาติ ขอความกรุณา ผมเคารพและซาบซึ้ง ผมไม่ได้แสดงความเป็นปฏิปักษ์ แต่ผมปฏิบัติอย่างนั้นไม่ได้เท่านั้นเอง"นายปลอดประสพกล่าว
"ปราโมทย์"โต้เสนอสร้างแค่ทำตามหน้าที่ขรก.
นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีต อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรณีที่นายปลอดประสพ ออกมาระบุว่า จะนำจดหมายที่อธิบดีกรมชลประทานที่ชื่อ ปราโมทย์ ไม้กลัด ทำถึงอธิบดีกรมป่าไม้ สมัยที่ยังดำรงอธิบดีกรมป่าไม้ เรื่องเขื่อนแม่วงก์มาให้ดู นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ประเด็นที่จะออกไปโต้เถียง เพราะนายปลอดประสพ น่าจะทราบดี ว่าบทบาทหน้าที่ในตอนนั้นเป็นเรื่องที่ทำไปตามหน้าที่ ที่ต้องยื่นโครงการให้แต่ละหน่วยงานพิจารณาตามระเบียบขั้นตอนของราชการ
นายปราโมทย์กล่าวว่า หลังจากได้ยื่นเสนอโครงการในสมัยนั้น สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ไม่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างเรื่องที่ยื่นไป กรมชลประทานในยุคนั้นก็ต้องยอมรับความเห็นดังกล่าว
"เรื่องเขื่อนแม่วงก์วันนี้ ต้องถามว่าโครงการนี้ผ่านการศึกษาผลกระทบหรือยัง ไม่ใช่มาเล่นแง่ถึงผม อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ผมค้านหรือไม่ค้าน ไม่ใช่ประเด็น แต่การขับเคลื่อนโครงการ ต้องทำให้เป็นระบบ ไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ หลอกประชาชนว่าแก้ปัญหาได้ ทำไมถึงไม่ไปตอบคำถามฝ่ายอนุรักษ์ ว่าเอกสารเป็นอย่างไร แจกแจงไป ไม่ใช่มาโจมตีผม ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา "นายปราโมทย์กว่า
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
