จาก โพสต์ทูเดย์
"อภิสิทธิ์"แถลงเปิด แผน อนาคตไทยเข้มแข็ง ใช้เงิน 2 ล้านล้าน พัฒนาโครงสร้างคมนาคม ศึกษา สธ. ชลประทาน ย้ำคุ้มค่าโปร่งใส
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายกรณ์ จาติกวณิช นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายชินวุฒิ บรรณวัฒน์ นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ ร่วมกันแถลงนำเสนอแผน " อนาคตที่เลือกได้ -อนาคตไทยเข้มแข็ง 2020" โดยนายอภิสิทธ์ิ ระบุว่า ความพยายามผลักดันเดินหน้ากู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ของรัฐบาลพบปัญหาทั้งเรื่องขาดวินัย ขาดการตรวจสอบและขาดวามโปร่งใสเนื่องจากเป็นการกู้เงินนอกระบบ
นอกจากนี้ ยังเน้นเฉพาะไปที่เรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ทั้งที่ยังมีความจำเป็นเร่งด่วนทั้งเรื่องการศึกษา สาธารณสุข ในขณะที่รายละเอียดในการลงทุนด้านคมนาคมก็ยังขาดรายละเอียดในโครงการ และเกิดความเสี่ยงในเรื่องวินัยการคลังทั้งเรื่องที่รัฐบาลจะต้องทำงบประมาณ สมดุลในปี 2560 หรือ ระวังหนี้สาธารณะไม่ให้เกิน 50 % ของจีดีพี
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จึงนำเสนอทางเลือกแผนการที่มีโครงสร้างพื้นฐานโดยไม่จำเป็น ต้องกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โดยการดำเนินการใช้งบประมาณปกติ ร่วมกับการลงทุนร่วมกับภาคเอกชน ซึ่งมีความรับผิดชอบต่อวินัยการคลัง และโปร่งใสสามารถตรวสอบได้ 100 % เพราะอยู่ในงบประมาณปกติ ในช่วง 7 ปีที่จะสามารถดำเนินการโครงการได้มากกว่าที่รัฐบาลจะดำเนินการมากกว่าการกู้ เงินมาดำเนินการ
ทั้งนี้ แบ่งเป็นด้านคมนาคม 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งนอกจากจะทำรถไฟความเร็วสูง แล้วยังสามารถลงทุนในด้านอื่นๆ ทั้งรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ ถนน สถานีขนส่ง ท่าเรือ ส่วนอีก 8 แสนล้านบาท จะแบ่งเป็น การลงทุนด้านการศึกษา 4 แสนล้านบาท ทั้งการเพ่ิมงบวิจัย พัฒนาอาชีวะศึกษา พัฒนาคุณภาพครูและอุปกรณ์การศึกษา รวมทั้งเพ่ิมลงทุนสาธารณสุข 2 แสนล้านบาท ที่จะพัฒนาโรงพยาบาล 1.2 หมื่นแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งพัฒนาบุคลากร และ ลงุทนชลประทาน 2 แสนล้านบาท เพ่ิมพื้นที่ชลประทานมากกว่าเดิมครึ่งหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วิธีการดำเนินการของพรรคประชาธิปัตย์ถือเปนทางเลือกจะแตกต่างจากที่รัฐบาลจะ ดำเนินการด้วยการออกพ.ร.บ.กู้เงิน ตรงที่สามารถรักษาเสถียรภาพการคลัง โปร่งใส และยังสามารถบังคับให้รัฐบาล ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอย่างโครงการประชานิยม ที่สำคัญยังตอบโจทย์การพัฒนาประเทศได้ดีกว่าและเป็นการใช้เงินแผ่นดินที่มี ความยุติธรรมต่อประชาชน
ทั้งนี้ ยืนยันยันว่ารายละเอียดสามารถดำเนินการปฏิบัติได้ทันที ซึ่งหการัฐบาลพร้อจะทบทวน พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านทางพรรคก็จะนำเสนอรายละเอียดให้นำสู่การพปฏิบัติ หากรัฐบาลปฏิเสธข้อเสนอ พรรคก็พร้อพร้อมนำแผนนี้สู่การปฏิบัติเมื่อใดหากประชาชนพร้อมให้โอกาสเรา กลับมาเป็นรัฐบาล และสมัยที่เป็นรัฐบาลก็ได้เดินหน้าโครงการมาบ้างแล้ว อย่างโครงการถไฟฟ้ารางคู่
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ สามารถดำเนินการได้มากกว่าที่รัฐบาลจะทำ และยังประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าเนื่องจากจะใช้วิธีการให้ภาคเอกชนมาร่วม ศึกษาและร่วมลงทุน นอกจากนี้ จะเห็นว่าต้นทุนที่รัฐบาลนี้ดำเนินการในหลายโครงการสูงขึ้นกว่าที่เคย ประเมินใน3 ปีที่ผ่านมาอยู่มาก
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในส่วนของเส้นทางรถไฟความเร็วสูง ที่ประชาธิปัตย์จะดำเนินการนั้นจะพิจารณาถึงความพร้อมและความคุ้มค่าการลง ทุน และเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะเส้นทางกรุงเทพฯ- หนองคาย และ กทม. - ปาดังเบซา โดยในงบประมาณรถไฟฟ้าเร็วสูงนั้น จะจัดไว้ 36,722 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณไปศึกษาเตรียมการดำนินการและการเวนคืนที่ดินหากเส้นทางไหน มีความพร้อมก็จะกลับมาขอสภาฯ ดำเนินการ รวมทั้งจะใช้วิธีให้เปิดเอกชนมาร่วมลงทุน
รายงานข่าวระบุว่า รายละเอียดของโครงการจำแนกเป็น 1. โครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคม 1.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น รถไฟความเร็วสูง 36,722 ล้านบาท รถไฟทางคู่ 397,377 ล้านบาท รถไฟทางคู่สายใหม่ 110,555 ล้านบาท รถไฟฟ้า 410,996 ล้านบาท ปรับปรุงระบบรถไฟ 20,912 ล้านบาท ถนนทั้งระบบ และสถานีขนส่ง 198,422 ล้านบาท ท่าเรือ 26,622 ล้านบาท
2. การศึกษา 4 แสนล้านบาท แบ่งเป็น โรงเรียนวิทยาศาสตร์, มหาวิทยาลัยวิจัย 150,000 ล้านบาท อาชีวะสร้างชาติ 50,000 ล้านบาท ครูพันธ์ุใหม่ พัฒนาคุณภาพครู และ Excellent Centre 110,000 ล้านบาท ปรับปรุงอุปกรณ์ และสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน 90,000 ล้านบาท
3. สาธารณสุข 2 แสนล้านบาท พัฒนาโรงพยาบาล 12,000 แห่งทั่วประเทศ 100,000 ล้านบาท พัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ และสถานศึกษาด้านสาธารณสุข 100,000 ล้านบาท
4. พัฒนาระบบนํ้าเพื่อการเกษตร 2 แสนล้านบาท ลงทุนพัฒนาการชลประทานสำหรับพื้นที่เกษตร 75 ล้านไร่ทั่วประเทศ 200,000 ล้านบาท
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
