สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

จำนำข้าวไทย-โกงสะบัด! ทั้งสต๊อกลม-เปาเกา-เวียนเทียน

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

      รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่มี ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ยังคงจะเดินหน้าใช้งบประมาณอีก 2.7 แสนล้าน เปิดรับจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท รอบใหม่ 56/57 หลังจากที่ใช้รับจำนำข้าวไปแล้ว 4 รอบ 6.42 แสนล้านนั้น
       
       จนถึงวันนี้ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ว่า รัฐบาลรับจำนำข้าวมาแล้วเท่าใด สามารถขายไปได้มากน้อยแค่ไหน มีข้าวในสต๊อกกี่ตันกันแน่!?
       
       ขณะเดียวกันกลับมีเรื่องราวที่ส่อให้เห็นเงื่อนงำโผล่ขึ้นมาให้เห็น อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเหตุไฟไหม้โกดังข้าวหลายครั้งในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
       
       ล่าสุดกรณีกองข้าวเน่า บริเวณถนนเลียบคลองชลประทานหมู่ 7 ต.วัดโบสถ์ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก จำนวน 1,300 ตัน ที่พบหลักฐานเป็นข้าว อ.ต.ก.โครงการรับจำนำปี 51 ซึ่งนอกจากปรากฏร่องรอยถูกไฟไหม้แล้ว ยังมีการผ่ากระสอบ ที่คนในวงการรู้กันดีว่า เป็นลักษณะของการ “เปาเกา-เวียนเทียนข้าว” ซึ่งเป็นการนำข้าวเก่าที่ประมูลซื้อจากโกดังรัฐในราคาถูกๆ มาผ่ากระสอบ ส่งข้าวเข้าโกดังรับจำนำรอบใหม่ แทนข้าวใหม่ที่รับจำนำมา ซึ่งเป็น “ข้าวดี” ที่ส่งขายไปก่อนหน้านี้ และ/หรือใช้เติมเต็ม “สต๊อกลม” ที่มีอยู่ได้
       
       สต๊อกลม เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นทางของโครงการรับจำนำข้าว เมื่อเกษตรกรขึ้นทะเบียน-แจ้งพื้นที่นา-ผลผลิต ต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เต็ม 100% ถึงฤดูเก็บเกี่ยวอาจเจอภัยแล้ง น้ำท่วม เพลี้ยกระโดด ฯลฯ ผลผลิตที่ได้จะหายไปส่วนหนึ่ง แต่ยอดที่ระบุใน “ใบประทวน” ที่นำไปขึ้นเงินกับ ธ.ก.ส.จะเต็ม 100% เช่นเดิม
       
       แน่นอน เงินส่วนเกินที่ได้จากสต๊อกลมจำนำข้าว ก็จะถูกจัดสรรทั้งชาวนา-โรงสี-เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ
       
       และสต๊อกลมที่เกิดขึ้นนี้ก็จะมีทั้งข้าวเก่าเสื่อมคุณภาพ ที่ประมูลซื้อมาจากโกดังรัฐ-ข้าวราคาถูกจากเพื่อนบ้าน ทั้งเขมร-พม่า-สปป.ลาว ที่สามารถสกัดจับได้อยู่เนืองๆ ส่งเข้ามาสวมสิทธิ์ต่อไป
       
       ไม่นับกลเกมกดราคาผ่าน “ค่าความชื้น” ที่ปรากฏให้เห็นกันอย่างดาษดื่นตลอดเส้นทางการรับจำนำข้าว
       
       นอกจากนี้ ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “เสี่ยหนุ่ม-มุนินทร์ จัทรา” เจ้าของโรงสีแอล-โกลด์ แมนูแฟคเจอร์ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงชาวนาพิจิตร-ยักยอกข้าว อ.ต.ก. รวม 12,000 ตัน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมตัวได้อพาร์ตเมนต์หรู เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ คืนวันที่ 16 ก.ย. 56 ยิ่งตอกย้ำให้เห็นถึงพิรุธในโครงการจำนำข้าวที่เกิดขึ้น
       
       เนื่องจาก “เสี่ยหนุ่ม” เคยต้องคดี ฉ้อโกงข้าวชาวนาจังหวัดพิจิตร ในนามโรงสีก้องเกียรติ เมื่อปี พ.ศ. 2549 และไม่ยอมมารับฟังคำพิพากษาของศาลจังหวัดพิจิตร และยังหลบหนีศาล จนกระทั่งมาเปลี่ยนชื่อจากโรงสีก้องเกียรติ เป็นโรงสีแอลโกลด์เมนูแฟคเจอร์ เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวปี 55/56 จนเกิดกรณีฉ้อโกง-ยักยอกทรัพย์ ซ้ำอีก
       
       ก่อนที่ “เสี่ยหนุ่ม” จะถูกจับกุมตัวได้นั้น เคยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในจังหวัดพิจิตร และเดินทางไปให้สัมภาษณ์รายการข่าวของสถานีโทรทัศน์ส่วนกลาง ทำนองเดียวกันว่าตอนที่ตนเริ่มเข้าโครงการับจำนำข้าวของรัฐที่จังหวัดพิจิตร ก็มีคนกลางมาเจรจาว่า ถ้าเข้าโครงการรับจำนำข้าวได้มีคำสั่งในการแปรรูปข้าวเพื่อส่งเข้าคลัง สินค้าแล้วจะได้ใบประทวน ก็จะมีรายรับ คุณมุนินทร์จะจ่ายเท่าไหร่ ซึ่งเป็นค่าเคลียร์ ตนก็ตอบไปว่าไม่มีปัญหา เพราะเป็นการคอร์รัปชันกันจนเป็นประเพณีปฏิบัติที่ชาวโรงสีจะเป็นที่รู้กัน
       
       และจริงๆ แล้วสังคมก็น่าจะรู้ รัฐบาลก็น่าจะรู้ ตนก็ยินยอมอยู่แล้วในการที่จะจ่ายเงินให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ อ.ต.ก.จ้างมาที่เรียกว่า “เซอร์เวเยอร์”
       
       โดยการจ่ายแบบนี้เรียกว่า “ค่าเหยียบแผ่นดิน” ถ้าเป็นข้าวสารคุณภาพดี ถึงแม้จะผ่านเกณฑ์ ก็ต้องจ่ายกระสอบละ 10 บาท ซึ่งตนเองก็จ่ายด้วยดี
       
       “เสี่ยหนุ่ม” ยังท้าด้วยว่า ให้ไปผ่ากองข้าวสารตามโกดังต่างๆ ทั้งในพิจิตร และที่อื่นๆ รับรองได้ว่า ข้าวอยู่หน้าประตูจะเป็นข้าวดี ส่วนที่อยู่กลางกองจะเป็นข้าวด้อยคุณภาพ เพราะว่าเป็นข้าวจากเขมร และพม่า รวมถึงข้าวคุณภาพเก่าที่ประมูลมาจากคลังสินค้าแล้วมาเวียนเข้าเป็นสต็อกส่ง มอบเข้าคลังสินค้า
       
       กระบวนการนี้จะต้องจ่ายเงินให้เซอร์เวเยอร์กระสอบละ 50 บาท ทำเรื่องผิดให้เป็นเรื่องถูก เพื่อแลกกับใบประทวน ส่วนที่เป็นข้าวใหม่-ข้าวดี โรงสี ก็เอาไปขายส่งออกและบรรจุข้าวถุงขายในประเทศได้กำไร 2-3 ชั้น
       
       นอกจากนี้ “เสี่ยหนุ่ม” ยังปรามาสเจ้าหน้าที่รัฐที่มีอำนาจตรวจสอบ อย่าง DSI ในทำนองว่า แม้จะมีอำนาจตามกฎหมาย แต่ดูข้าวไม่เป็น จะดูเป็นก็เพียงแค่เห็น “ข้าวสารเป็นข้าวสาร” แต่จะไม่รู้ว่าข้าวหอมมะลิ ที่มีราคาตันละ 3 หมื่นบาทนั้น แท้จริงแล้วคือ เป็นแค่ข้าวพันธุ์พิษณุโลก ราคาถูกตันละไม่ถึง 1 หมื่นบาทเท่านั้น
       
       “หรือถ้าจะดูเป็นก็แค่มองว่าเป็นข้าวผัดพริก ข้าวผัดกะเพราเท่านั้น”
       
       “เสี่ยหนุ่ม” ยังบอกไว้ด้วยว่า โครงการรับจำนำข้าวปีที่แล้ว ทั่วประเทศประมาณ 150 ล้านกระสอบ คิดดูเอาเองว่าเป็นเงินเท่าไหร่ จะมีข้าวที่เข้ามาปลอมปน และสวมรอยว่าเป็นข้าวตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลมากน้อยเพียงใด!?


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view