จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...รศ.ดร.โกวิทย์ พวงงาม คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ขณะที่เกษตรกรชาวสวนยางพาราทุกภาคทั่วประเทศเดือดร้อนเรื่องปัญหาราคา ยางพาราได้เรียกร้องให้รัฐบาลเอาใจใส่และเข้ามาดูแลช่วยพยุงราคาหรือประกัน ราคายางพาราจนกระทั่งมีชาวสวนยางพาราในบางจังหวัด โดยเฉพาะ จ.นครศรีธรรมราช ถึงขั้นปิดถนนและฝ่ายรัฐบาลเข้าสลายการชุมนุมจนได้รับบาดเจ็บหลายร้อยคน และนอกจากนี้ยังมีเกษตรกรนอกเหนือจากอาชีพยางพารากำลังรอท่าทีของรัฐบาลว่า จะช่วยเหลือเยียวยาหรือไม่ อย่างไร เช่น เกษตรกรปลูกข้าว อ้อย ลำไย มันสำปะหลัง เป็นต้น
จึงกล่าวได้ว่าการประท้วงรัฐบาลที่เป็นอยู่เนืองๆ ส่วนใหญ่ก็เกี่ยวข้องกับเรื่องของการทำมาหากินของเกษตรกรและผู้ที่ได้รับผล กระทบที่เกิดจากการขึ้นราคาน้ำมัน แก๊ส รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพในชีวิตประจำวันของ ประชาชนทั้งสิ้น ซึ่งผู้ที่เข้ามาบริหารประเทศในนามรัฐบาลถือเป็นหน้าที่ที่ต้องเยียวยาแก้ไข ปัญหาให้ลุล่วงไป
แต่ดูเหมือนประชาชนรู้สึกว่ารัฐบาลยังไม่ได้ใส่ใจในเรื่องดังกล่าวข้าง ต้นอย่างเต็มกำลัง แต่กลับไปสนใจประเด็นปัญหาทางการเมืองที่มากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการเร่งรัดแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เพื่อเปลี่ยนแปลงให้ สว.มาจากการเลือกตั้งที่เปิดช่องให้นักการเมือง เครือข่ายญาติของนักการเมืองลงสมัคร สว.ได้ ซึ่งไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการให้มี สว.ที่มีความเป็นอิสระ และการเสนอกฎหมาย พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อย่างเร่งรีบก็เช่นเดียวกันที่ถูกมองว่าเป็นประเด็นทางการเมืองที่เอื้อ ประโยชน์ต่ออดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และผู้ที่กระทำความผิดทางการเมือง เพื่อให้พ้นผิด ซึ่งทำไปทำมาประเด็นทางการเมืองทั้งสองประการดังกล่าวแทนที่จะเป็นการช่วย ให้สังคมไทยลดความขัดแย้งหรือก่อให้เกิดความปรองดอง กลับกลายเป็นการเพิ่มความขัดแย้งระหว่างกลุ่มต่างๆ มากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น ผมเข้าใจว่าการที่รัฐบาลได้เสนอให้มีการจัดตั้งสภาปฏิรูปการเมืองเพื่อหา ทางออกประเทศไทยให้หลุดพ้นจากความขัดแย้ง ก็กลายว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงเป้าหมายและถูกมองว่าเป็นการซื้อเวลา มากกว่า เพราะสภาปฏิรูปที่พูดๆ กันก็ยังคลุมเครือในเป้าหมายและวัตถุประสงค์ รวมทั้งกลไกต่างๆ ที่จะมารองรับ โดยเฉพาะบุคคลที่ถูกเชิญเข้าร่วมในสภาปฏิรูป บางคนถูกมองว่าเคยสร้างปัญหาให้กับสังคมไทยมาก่อน และที่สำคัญ|เมื่อรัฐบาลยังมีประเด็นทางการเมืองทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญและ กฎหมายนิรโทษกรรม หลายฝ่ายจึงมองว่าสภาปฏิรูปทางการเมืองอาจจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทางออก ประเทศไทยก็เป็นได้
ผมจึงไม่แปลกใจว่าการที่ภาคประชาชนหลายกลุ่มในสังคมไทย รวมทั้งเครือข่ายพลเมืองกลุ่มต่างๆ ออกมานำเสนอการปฏิรูปประเทศไทยโดยภาคพลเมืองจึงเป็นประเด็นที่ดูจะมีน้ำหนัก มากกว่า เพราะเป็นการจัดเวทีเพื่อถกแถลงและสร้างเครือข่ายในการหาทางออกให้กับอนาคต ประเทศและจับประเด็นสำคัญๆ ซึ่งเป็นรากฐานของประเทศ เพื่อให้ร่วมกันเยียวยาแก้ไข ซึ่งก็สอดคล้องกับสังคมไทยในขณะนี้ที่มีปัญหารุมเร้ามากมาย|ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาเรื่องของการทำมาหากินของเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ปัญหาการดำรงชีพในเรื่องปากท้องที่มีค่าครองชีพสูงขึ้น ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำในการจัดสรรทรัพยากร
ที่สำคัญที่สุด การบริหารจัดการทรัพยากรในเรื่องต่างๆ ที่สังคมไทยเผชิญอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการน้ำ การจัดการที่ดิน การจัดการป่า ตลอดจนปัญหาที่ค้างคาอยู่แต่เดิม เช่น ปัญหาความขัดแย้งในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาคุณภาพการศึกษา ปัญหายาเสพติด และปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เป็นต้น
นอกจากนี้ ข้อเสนอของกลุ่มในสังคมไทยต่อรัฐบาลให้ทบทวนนโยบายอันจะนำมาสู่การก่อให้ เกิดปัญหาต่างๆ ตามมา ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลควรจะเข้ามาเยียวยาแก้ไขนั่นก็คือ ปัญหาในโครงการจำนำข้าวและปัญหาโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ซึ่งทั้งสองโครงการดังกล่าวมีข้อท้วงติงจากนักกฎหมายว่ารัฐบาลอาจจะเข้าข่าย ทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ผมจึงเห็นว่าสังคมไทยในขณะนี้มีทางสองแพร่งที่จะต้องเลือกเดิน นั่นก็คือ รัฐบาลใส่ใจและให้ความสำคัญในเชิงนโยบายที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของพี่น้อง ประชาชน ได้แก่ค่าครองชีพ พืชผลทางการเกษตร ราคาสินค้าและการเพิ่มศักยภาพของคนไทยในการแข่งขันกับต่างประเทศ รวมทั้งการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาที่ส่งเสริมคนไทยให้มีความเป็นพลเมืองหรือ รัฐบาลจะเลือกเดินหน้าในการมุ่งปัญหาเชิงการเมืองที่หลายฝ่ายในสังคมไทยเห็น ว่ารัฐบาลมีธงคำตอบที่จะดำเนินการที่เอื้อประโยชน์ต่อบุคคลบางกลุ่มหรือผู้ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การนิรโทษกรรม หรือแม้กระทั่งโครงการที่ถูกมองว่าเอื้อประโยชน์ เช่น โครงการจำนำข้าว โครงการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงโครงการอื่นๆ ที่อาจมีการล็อกสเปกไว้แล้ว ซึ่งเป็นที่มาของการเคลือบแคลงสงสัยของคนในสังคมไทย
จึงทำให้เห็นว่าสังคมไทยในขณะนี้มีหลายสิ่งหลายอย่างเป็นภาพลวง ตาว่าอะไรคือปัญหาที่แท้จริงของสังคม และถือเป็นประเด็นหลักที่ต้องให้สังคมเดินหน้าและพัฒนาไปได้ ข้อเสนอก็คือ นักการเมืองและฝ่ายรัฐบาลจะต้องเสียสละผลประโยชน์บางสิ่งบางอย่างออกไป ที่ สำคัญต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจในเรื่องของความมีธรรมาภิบาล หรือแสดงความโปร่งใสให้สังคมไม่เคลือบแคลงและรัฐบาลมุ่งเดินหน้าที่จะเลือก นโยบายที่เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ไปเสริมสร้างความเป็นอยู่ของ ประชาชนให้ดีขึ้น มั่นคงขึ้น รวมทั้งการกระจายทรัพยากรที่เป็นธรรมให้กับคนในสังคมที่มากขึ้น ผมเชื่อว่าจะมีการตอบรับรัฐบาลมากขึ้น และนี่คือส่วนหนึ่งของการปฏิรูปประเทศไทย
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
