จาก โพสต์ทูเดย์
เอ้กบอร์ดชี้ต้นทุนผู้เลี้ยงไก่ไข่ยังสูง ให้ตรึงราคาหน้าฟาร์มที่ 3.50 บาท/ฟอง สั่งพาณิชย์ขายไข่ธงฟ้าในราคาหน้าฟาร์ม
นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ว่า ที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอของกรมการค้าภายใน ที่ขอให้ทบทวนส่วนต่างกำไรกับระดับต้นทุนการผลิตลงมาอยู่ที่ 10–15% จากเดิมที่ 15–20% ในช่วงสถานการณ์ผลผลิตไข่ไก่ขาดแคลน เพื่อให้ราคาไข่ไก่ลดลงและลดค่าครองชีพ แต่ที่ประชุมเห็นว่า ต้นทุนที่แท้จริงของเกษตรกรยังสูง อาจส่งผลกระทบและเพิ่มความเสี่ยงให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ จึงยังให้ตรึง
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากต้นทุนการผลิตไก่ไข่และไข่ไก่ในเดือนกันยายน พบว่า ต้นทุนไข่ไก่อยู่ที่ฟองละ 2.94 เมื่อคำนวณผลกำไรตามสัดส่วนแล้ว ราคาไข่คละหน้าฟาร์มจะอยู่ที่ 3.58 บาท ซึ่งต้นทุนที่ไม่สามารถปรับลดได้นั้น เนื่องจากเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ประสบปัญหาแม่ไก่ให้ผลผลิตที่ลดลงกว่า 20% จากผลกระทบสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมปศุสัตว์ประชุมสัตวแพทย์ประจำฟาร์มไก่ไข่ทั่ว ประเทศ เพื่อตรวจสอบสาเหตุของโรคที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตโดยด่วน
สำหรับสถานการณ์ผลผลิตไข่ไก่ ปัจจุบันได้ปรับตัวลดลงเหลือ 36.90 ล้านฟอง/วัน คิดเป็นผลผลิตไข่ไก่หายออกจากระบบ 440,000 ฟอง/วัน เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ราคาไข่ไก่เดือนกันยายนปรับตัวสูงขึ้นเป็นเฉลี่ยฟองละ 3.50 บาท อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความต้องการบริโภคไข่ไก่จะเริ่มลดลงในช่วงระยะเวลา 1-2 สัปดาห์นี้ เนื่องจากโรงเรียนปิดเทอมและเทศกาลกินเจ ดังนั้น ทิศทางราคาไข่ไก่จะมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงอย่างแน่นอนและในระยะสั้นๆ ราคาจะไม่เพิ่มไปมากกว่า 3.50 บาท/ฟอง
"ทางสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ก็ยืนยันที่จะตรึงราคานี้เช่นกัน เนื่องจากเมื่อพิจารณาในส่วนของต้นทุนการผลิตของเกษตรกรเฉลี่ยฟองละ 2.94 บาท เกษตรกรจะมีกำไรเฉลี่ยฟองละ0.56 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้และไม่กระทบต่อการเลี้ยงไก่ไข่" นายยุคล กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเตรียมเสนอกระทรวงพาณิชย์ ในการกำหนดราคาไข่ไก่ธงฟ้าให้มีความสอดคล้องกับราคาไข่คละหน้าฟาร์มของ เกษตรกร ที่ฟองละ 3.50 บาท เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาขายของเกษตรกร
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
