สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สุภรณ์ เชียร์อัดแก๊สน้ำตาม็อบยาง อ้างไม่ใช่เกษตรกร-ส.ส.เมืองคอน จี้ ปู สั่งหยุดเผชิญหน้า

สุภรณ์” เชียร์อัดแก๊สน้ำตาม็อบยาง อ้างไม่ใช่เกษตรกร-ส.ส.เมืองคอน จี้ “ปู” สั่งหยุดเผชิญหน้า

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

วราเทพ” วอนม็อบยางหยุดชุมนุม ยันรัฐช่วยได้แค่โลละ 90 ชี้โลละ 120 เป็นไปไม่ได้ ด้าน “สุภรณ์” เชียร์ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา ป้ายสีผู้ชุมนุมไม่ใช่เกษตรกรจริง มีนายทุน-กลุ่มการเมืองหนุนหลัง อีกด้านรับข้อเสนอแกนนำม็อบปากมูล ตั้งตัวแทนนักวิชาการในกรรมการแก้ปัญหา ด้าน ส.ส.เมืองคอน ออกแถลงการณ์ 4 ข้อ ยุติเผชิญหน้า-เลิกป้ายสีม็อบ
       
       วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของเกษตรกรชาวสวนยาง บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า ล่าสุดทราบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นมาใหม่ และ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกฯ ได้มอบหมายให้แก่ผู้ปฎิบัติในพื้นที่อย่าง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจจังหวัด ดูแลสถานการณ์ให้เรียบร้อย ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังผู้ที่มีความคิดและแนวทางที่จะก่อให้เกิดผลกระทบแก่ ประชาชน อาทิ การปิดถนน หรือรุนแรงถึงขั้นก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือผลกระทบที่จะมีการปะทะกับเจ้าหน้าที่ให้ยุติ และเลิกล้มการกระทำ และควรใช้เวทีในการพูดคุยมากกว่า
       
       “ที่ผ่านมารัฐบาลก็ได้ตอบสนองในข้อเรียกร้องเกษตรกรชาวสวนยางในระดับ ที่เชื่อว่า เป็นที่พอใจของส่วนใหญ่แล้ว ส่วนที่เหลือน่าจะรับได้ ทั้งนี้อยากเรียกร้องว่าให้ยุติการกระทำที่จะสร้างความเสียหาย ส่วนข้อเรียกร้องในราคา 120 บาทต่อกิโลกรัมนั้น เรายืนยันแล้วราคาที่ช่วยเหลือแล้วเหมาะสมอยู่ที่ 90 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งข้อเรียกร้อง 120 บาทต่อกิโลกรัมคงเป็นไปไม่ได้” นายวราเทพ กล่าว
       
       ด้าน นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองเลขานุการคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา สลายกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ว่า สาเหตุที่ตำรวจต้องใช้แก๊สน้ำตา เนื่องจากผู้ที่มาชุมนุมก่อเหตุปิดถนน ล้อมและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจากการตรวจสอบกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ใช้เกษตรกร แต่เป็นกลุ่มคนที่มีนักการเมืองและนายทุนอยู่เบื้องหลัง นายทุนพวกนี้ต้องการให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง หรือประกันราคายางพารา เพราะจะได้ประโยชน์ แต่เมื่อรัฐบาลไม่ทำตามก็ออกมาเคลื่อนไหวเพราะเสียประโยชน์ ทั้งนี้คนที่ออกมาชุมนุมบางคนเป็นคนที่มีหมายจับอยู่ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งการบังคับใช้กฎหมายนั้นทาง ผบ.ตร.จะเป็นผู้ประเมินสถาน และรายงานให้ พล.ต.อ.ประชา ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา รับทราบตลอดเวลา และยืนยันว่าการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ยอมรับได้แล้ว
       
       ในวันเดียวกัน นายวราเทพ และ นายสุภรณ์ ร่วมรับฟังปัญหาของแกนนำประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนปากมูล 18 คน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาตั้งคณะกรรมการอำนวยการ แก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล จ.อุบลราชธานี โดยใช้เวลาพูดคุยประมาณ 30 นาที โดยนายสุภรณ์ กล่าวภายหลังการหารือ ว่า ตัวแทนเกษตรกรซึ่งแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ต้องการให้ปิดเขื่อน และเปิดตลอดทั้งปี โดยขอให้แต่ละฝ่ายส่งตัวแทนฝ่ายละ 2 คน รวม 4 คน โดยให้มาจากภาควิชาการ แทนที่จะมาจากภาคประชาชน เพราะเกรงว่าหากมีตัวแทนจากภาคประชาชนเมื่อพูดคุยกันในคณะกรรมการแล้วจะมี ปัญหาไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้ทางสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายเลขาฯ จะรับเรื่องไปพิจารณาอีกครั้ง
       
       ด้าน นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์แถลงการณ์ ส.ส. จ.นครศรีธรรมราช ปชป.ผ่านเฟซบุ๊ก “อภิชาต ศักดิเศรษฐ์” ต่อเหตุการณ์ที่มีกำลังตำรวจปราบจลาจลกว่า 1,000 นาย บุกเข้าเคลียร์พื้นที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเช้าวันที่ 17 ก.ย.เพื่อเปิดทางถนนสายเอเชีย 41 ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะลุกลามบานปลายจนเกิดความสูญเสียมากขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้จะไม่นำไปสู่ความรุนแรงหากผู้มีหน้าที่รับผิดชอบของรัฐมี ความละเอียดรอบคอบและแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี ไม่ใช้อำนาจหักหาญ หรือมุ่งแต่จะยุติการชุมนุมแสดงออกของพี่น้องประชาชนเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กำหนดอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบด้านอยู่แล้ว กลับมุ่งเน้นแก้ปัญหาในมิติเดียว คือ การพยายามเอาผิดกับผู้แสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวทางการแก้ปัญหาของตนเอง และป้ายสีการเคลื่อนไหวของพี่น้องเกษตรกรว่ามีนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับ รัฐบาลอยู่เบื้องหลัง
       
       พวกเรา ส.ส. จ.นครศรีธรรมราช ในฐานะผู้แทนปวงชนชาวไทย รู้สึกเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่ดำรงอยู่ ขอเรียกร้องในเบื้องต้นดังนี้ 1.ให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ ปฏิบัติการในพื้นที่ยุติการเผชิญหน้าทุกรูปแบบกับประชาชนและพี่น้องเกษตรกร เพื่อลดความตึงเครียดและความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับทุกฝ่าย 2.ให้รัฐบาลใช้ความพยายามทุกวิถีทางในทางสันติ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจกับผู้เกี่ยวข้องให้สถานการณ์บริเวณที่เกิดเหตุเข้า สู่ภาวะปกติโดยเร็ว 3.ให้รัฐบาลทบทวนท่าทีและกรอบแนวทางของตนเองต่อการแก้ไขปัญหาราคายางพารา เพราะที่ผ่านมารัฐบาลยืนยันในวิธีการที่เกษตรกรชาวสวนยางจำนวนมากไม่ยอมรับ อีกทั้งยังปิดกั้นหนทางการพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรเหล่านั้น ดังนั้นรัฐบาลต้องมีกลไกการเจรจาพุดคุยไว้ต่อไป เพราะมีแต่การพูดคุยทำความเข้าใจกันเท่านั้นที่จะพบทางออกและคลี่คลายปัญหา ข้อขัดแย้งร่วมกันได้
       
       4.ให้รัฐบาลยุติการใช้กลไกของตนเองในการใส่ร้ายป้ายสีการเคลื่อนไหว ของพี่น้องเกษตรกรผู้เดือดร้อนโดยเฉพาะการกล่าวหาว่า มีนักการเมืองโดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เพราะเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ฉวยโอกาสใส่ร้ายเพื่อหวังประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ทั้งนี้รัฐบาลควรทุ่มเทเวลาไปในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้อง ประชาชนอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะนับวันปัญหานี้จะขยายขอบเขตออกไปมากขึ้น จากราคายางพารา ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพด ไปสู่ผลผลิตอื่นๆที่ภาวะราคาผลผลิตตกต่ำรอคอยการแก้ไขเยียวยาอีกเป็นจำนวน มาก ขณะที่ประชาชนทั่วประเทศต้องรับภาระค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆจากความ ผิดพลาดในการบริหารและกำหนดมาตรการของรัฐบาลเอง พวกเราหวังว่า รัฐบาลจะเปิดใจกว้างรับฟังข้อเสนอแนะข้างต้น และทบทวนตนเองเพื่อดูแลแก้ไขปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไป


แฉกว่า 30 ชายฉกรรจ์แทรกมวลชนเผา และทุบรถตำรวจ เติมเชื้อไฟม็อบที่นครฯ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

      นครศรีธรรมราช - สมรภูมิ “ควนหนองหงษ์” เดือด! เมื่อ จนท.สลายม็อบใช้ทั้งแก๊สน้ำตา และการยิงปืนข่มขู่ จนเกิดปะทะกับฝ่ายชุมนุมต่อเนื่องมีผู้บาดเจ็บหลายราย เผยมีผู้เห็นชายฉกรรจ์กว่า 30 คน แต่งตัวเลียนชาวสวนแทรกซึมมวลชนลงมือปฏิบัติการเผา และทุบรถตำรวจ ส่งผลให้สถานการณ์มีแนวโน้มยิ่งบานปลาย
        
       เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (16 ก.ย.) ที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมชาวสวนยางซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มวัยรุ่น ในพื้นที่ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจล โดยเหตุการณ์ได้เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งเป็นวัยรุ่นจำนวน มากได้ยิงหนังสติ๊กใส่เจ้าหน้าที่ และเหตุการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ มีการยิงแก๊สน้ำตาเป็นระลอกๆ สลับกับกลุ่มวัยรุ่นก็ได้ฮือปาก้อนหินใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระลอกๆ เช่นกัน ก่อนที่กลุ่มชาวบ้านจะพากันวิ่งหลบแก๊สน้ำตา ซึ่งเหตุการณ์ได้ชุลมุนวุ่นวายกันอยู่พักใหญ่ และมีชาวบ้านทราบชื่อคือ นายจรูญ ยศชู อายุ 40 กว่าปี มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นชายสติไม่ดีได้ถูกตีที่ศีรษะจนบาดเจ็บ เนื่องจากเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว
        
       และการปะทะกันยังเกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นระลอกๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยร่นเข้าไปในสวนยางพาราของชาวบ้าน และล่าสุด ได้มีการเผารถยนต์ 6 ล้อ รถคุมขังผู้ต้องขัง และรถยนต์ 191 อีกหลายคัน โดยชาวบ้านระบุว่า การเผารถเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เผาเอง และสร้างสถานการณ์ว่าเป็นฝีมือของชาวบ้าน โดยมีการได้รับบาดเจ็บกันทั้ง 2 ฝ่าย
        
       ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน อัดเจ้าหน้าที่เป็นคนยิง
        
       อย่างไรก็ตาม ในช่วงเหตุการณ์ชุลมุนนั้น ได้มีการใช้อาวุธปืน และเข้าทำลายทรัพย์สิน โดยเป็นร้านเสริมสวยซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับแยกควนหนองหงษ์ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทุบทำลายรถจักรยานยนต์ โดยมีกระบองปราบจลาจลหักทิ้งไว้เป็นหลักฐานในที่เกิดเหตุ นอกจากนั้น ยังมีการยิงปืนเข้าไปในร้านจนประตูร้าน และทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยสามารถเก็บหัวกระสุนไว้ได้ และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสมนาม ราชรงค์ ถูกกระสุนปืนบริเวณต้นขา โดยผู้ชุมนุมได้เก็บหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืนไว้ได้เช่นเดียวกัน
        
       นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนกว่า 30 คน ใช้ผ้าปิดหน้า และโพกศีรษะ แต่งกายเหมือนชาวสวนยาง ซึ่งกลุ่มลูกขวานลอยลมที่มาร่วมชุมนุม และทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ชุมนุมยืนยันว่าไม่รู้จัก โดยชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้เข้ามาก่อเหตุเผารถ จำนวน 3 คัน ที่จอดอยู่หน้าป้อมยาม ใกล้กับรถคันแรกที่ถูกเผา โดยได้เข็นรถคันดังกล่าวมาเผาบนถนน และหลังจากเผาเสร็จกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็แทรกซึมไปกับมวลชนในพื้นที่ และหายตัวไป


ภาพชี้ชัด! “ควนหนองหงษ์” ส่อมิคสัญญี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

      ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ตร.ชุดควบคุมฝูงชนถอยร่นตั้งหลักห่างม็อบยาง 20 กม. สรุปความเสียหายเบื้องต้น รถตำรวจถูกเผามากกว่า 10 คัน ชาวบ้านถูกกระสุนเจ็บ 1 บ้านเรือนเสียหาย 1 หลัง งัดหลักฐานแฉฝีมือเจ้าหน้าที่ก่อเหตุ
   

      วันนี้ (16 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจุดชุมนุมเรียกร้องราคายางพารา และปาล์มน้ำมัน บริเวณแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า หลังเกิดเหตุชุลมุนขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตายิงสลายการชุมนุมของพี่ น้องชาวสวนยางพาราเมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ และต่อมา เกิดการเผารถยนต์จำนวนหลายคัน ความเสียหายเบื้องต้นพบว่า มีรถยนต์ถูกเผามากกว่า 10 คัน โดยทั้งหมดเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งรถบรรทุกผู้ต้องหา รถ 191 และรถผู้บังคับบัญชา ไม่ปรากฏว่ามีรถของชาวบ้านแต่อย่างใด
       
       นอกจากนี้ ยังมีร่องรอยการใช้กระสุนปืนที่ร้านเสริมสวย ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงกับจุดชุมนุม โดยมีผู้ยืนยันชัดเจนว่า ลูกกระสุนปืนถูกยิงมาจากฝั่งของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งมีการทุบรถจักรยานยนต์ ทุบสัญญาณไฟหน้าร้านเสริมสวย ก็เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ทั้งสิ้น โดยมีเศษกระบองที่เจ้าหน้าที่ใช้ควบคุมฝูงชนตกหล่นอยู่ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน จำนวน 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสมนาม ราชรงค์ อายุ 52 ปี ถูกกระสุนปืนบริเวณต้นขา โดยผู้ชุมนุมได้เก็บปลอกกระสุนปืนไว้เป็นหลักฐานแล้ว
       
       ทั้งนี้ สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้พบเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวนกว่า 30 คน ใช้ผ้าปิดหน้า และโพกศีรษะ แต่งกายเหมือนชาวสวนยาง ร่วมกันเข็นรถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ป้อมยามออกไปกลางถนน และจุดไฟเผา โดยกลุ่มชาวบ้านที่มาร่วมชุมนุมได้ออกปากห้ามแล้ว แต่กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวก็ไม่ฟัง และกลุ่มลูกขวานลอยลมที่มาร่วมชุมนุม และทำหน้าที่ควบคุมสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ชุมนุมยืนยันว่าไม่รู้จักด้วย
       
       ขณะเดียวกัน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอยร่นไปรวมกำลังอยู่ที่ สภ.นาบอน ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ชุมนุมประมาณ 20 กม. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายนาย และทางฝั่งผู้ชุมนุมก็บาดเจ็บหลายรายเช่นเดียวกัน
       
กระป๋องบรรจุแก๊สน้ำตาที่เจ้าหน้าที่ใช้สลายการชุมนุม
       
       
       
       
       
ตะบองปราบจลาจลของเจ้าหน้าที่ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุ
       
       
       
       

"รองเลขาฯนายกฯ" อ้างใช้แก๊สน้ำตาเหตุม็อบยางทำร้ายตร.ก่อน ขู่ฟันอาญาพวกก่อเหตุ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

พล.ต.ต.ธวัช จ้อช่อง 11 ซัดม็อบยางทำร้ายตำรวจเจ็บอื้อ จึงจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา ขู่มีหลักฐานชัดเจน เตรียมเอาผิดพวกก่อเหตุ ยันมติครม.ชดเชยไร่ละ 2,520 บาท เกษตรกรได้ประโยชน์จริงและกว่า 95% พอใจ แต่พวกที่ประท้วงเป็นกลุ่มนายทุน - การเมืองท้องถิ่น ที่ตุนยางไว้หวังกอบโกยผลประโยชน์
       
       วันนี้ (16 ก.ย.) เมื่อเวลา 21.00 น. พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกฯ และเลขานุการคณะกรรมการแก้ไขปัญหายางพารา กล่าวในรายการ "ถอดสลักข่าว" ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 ว่า เกษตรกรที่ประท้วงพร้อมด้วยวัยรุ่น 2-3 ร้อยคน ได้ปิดถนนยึดพื้นที่ควนหนองหงส์ และเกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ในเวลา 13.00 - 14.00 น. โดยกลุ่มวัยรุ่นใช้หนังสติ๊ก ระเบิดน้ำมัน ขว้างใส่เจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตา และเมื่อกลัวจะเกิดความรุนแรงเจ้าหน้าที่จึงถอยออก พอถอยออกก็เป็นโอกาสให้วัยรุ่นเข้ายึดรถตำรวจและเผาไป 4 คัน รถชาวบ้านเสียหายอีก 8 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ 70 คน ถึงขั้นต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล 4 คน นอกนั้นก็เป็นการโดนน้ำส้มฆ่ายาง ส่วนประชาชนได้รับผลกระทบบ้างเพียง 3 - 4 ราย
       
       ขณะนี้จราจรทั้งขาขึ้นขาล่องปิดโดยสนิท แต่สามารถเลี่ยงจุดประท้วงได้ โดยเข้าสู่อำเภอเมือง นครศรีธรรมราช และถนนเลียบริมทะเล ไปสู่อำเภอหัวไทรและเข้าสู่สงขลาได้ ส่วนขาขึ้นสามารถแยกไปสู่อำเภอทุ่งสงได้ทางตําบลน้ำตกและตําบลกะปาง
       
       พล.ต.ต.ธวัช กล่าวต่อว่า มติครม.ที่เห็นชอบตามคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ให้ช่วยชดเชยไร่ละ 2,520 บาท ในระยะเวลา 7 เดือน โดยจำกัดปริมาณให้การช่วยเหลือไม่เกิน 25 ไร่ ตนว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ที่ทำยางพาราไม่ว่าจะรายย่อยมีพื้นที่ไม่มากหรือมี พื้นที่มาก น่าจะประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปพอใจ แต่มีเจ้าหน้าที่หรือเกษตรกรบางคนไม่พอใจ ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น อาจจะอยู่ในกลุ่มนายทุนที่ทำธุรกิจค้ายางพารา เป็นแกนนำหรือฐานการเมืองในท้องถิ่น การเรียกร้องนั้นดูได้จากการเจรจา 2-3 ครั้ง สุดท้ายเมื่อ 6 ก.ย. นายประชา พรหมนอก พร้อมคณะ ได้ชี้แจงมติครม.ว่าต้องดำเนินการอย่างไร เป็นเหตุให้บางคนไม่พอใจ ก็มีการเจาจรากันต่อ ครั้งสุดท้าย 14 ก.ย. ตนเดินทางลงไปเพื่อทำข้อตกลงบางสิ่งบางอย่างที่ค้างไว้ แต่พอถึงจุดหนึ่งก็มีเกษตรกรบางกลุ่มเข้ามาเพิ่มเติม อ้างว่าเป้นตัวแทนจากจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ เรียกร้องเพิ่มเงื่อนไขเข้ามาอีก ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ไม่สามารถดำเนินการตามได้ การพูดคุยจึงไม่สามารถหาข้อยุติได้ ทำให้เกษตรกรที่ถูกยุยงไปถ่ายทอดต่อให้เกษตรกรคนอื่นในพิ้นที่แบบบิดเบือน ข้อมูล จากนั้นเกษตรกรแนวร่วมก็เคลื่อนไหว ขยายความโดยใช้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงทั้งหมด และสุดท้ายยืนยันจะให้รัฐประกันราคาที่ 120 บาท / กก. เมื่อครบ 7 เดือนแล้ว นี่คือสิ่งที่ไม่สามารถดำเนินการได้
       
       มติครม.ที่ออกมานั้นพิจารณาด้วยความรอบคอบเกษตรกรรายย่อยได้รับความ ช่วยเหลือจริง เพราะถ้าประกันราคาเหมือนที่เรียกร้องกัน ประโยชน์ จะไม่ตกสู่เกษตรกร แต่คนที่ได้คือนักการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรที่เป็นนายทุนทำธุรกิจยาง หรือนักธุรกิจที่ตุนยางไว้แล้ว ส่วนเรื่องอื่นๆอย่างการลงทะเบียน เอกสารสิทธิ์ ก็มีเงื่อนไข มีกติกาเรียบร้อยแล้ว เอกสารสิทธิ์ 46 ประเภทก็ระบุชัดเจนว่าต้องได้รับการชดเชยดูแลจากรัฐบาล ยกเว้นเป็นพื้นที่ผิดกฎหมาย ให้ไปขึ้นทะเบียนกับเกษตรกรตำบล หรือ อำเภอ ภายในวันที่ 30 ก.ย. ส่วนรายใดไม่มีหลักฐาน สามารถพิจารณาผ่อนผันเป็นรายๆไป
       
       พล.ต.ต.ธวัช กล่าวด้วยว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เจ้าหน้าที่รัฐได้เก็บรวบรวมหลักฐาน ทำการบันทึกไว้ชัดเจน และจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สิ่งใดที่ใช้สิทธิเรียกร้องตามรัฐธรรมนูญก็ว่าไป แต่หากทำผิดทางอาญาก็ต้องดำเนินการ กรณีกักขังหน่วงเหนี่ยว เผาทรัพย์ ทำลายทรัพย์สินราชการ ก็ต้องว่าเป็นรายๆไป
       
       เจ้าหน้าที่นั้นพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด นายกฯก็เน้นย้ำให้ใช้ความอดทนอดกลั้น อย่าใช้กำลัง แต่การใช้กำลังของตำรวจที่ผ่านมา เกิดจากการยั่วยุ สื่อตรงข้ามรัฐบาลก็บิดเบือนหาว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับประชาชนก่อน จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่ถูกกระทำก่อนทั้งนั้น ตั้งแต่ประจวบคีรีขันธ์ยันนครศรีธรรมราช สื่อที่ลงพื้นที่ก็เห็นเป็นประจักษ์อยู่


ผู้ว่าฯ นครศรีฯ ประกาศห้ามเข้าพื้นที่ชุมนุม - รัฐบาลจ่อออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สกัดม็อบยาง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์



นครศรีธรรมราช – ผู้ว่าฯ นครศรีฯ ประกาศใช้ พ.ร.บ.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ห้ามประชาชนเดินทางเข้าพื้นที่ชุมนุมจนถึงเวลา 12.00 น. ของวันพรุ่งนี้ ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวว่ารัฐบาลกำลังหารือเพื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ ต.ควนหนองหงษ์ ด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันนี้ (16 ก.ย.) นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ประกาศให้การชุมนุมแยกควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่สาธารณภัยในการชุมนุมประท้วง และบริเวณใกล้เคียงเป็นพื้นที่ทำให้เกิดสาธารณภัย และคาดว่าจะเกิดสาธารณภัย จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 22, 27 และ 29 แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ประกาศห้ามไม่ให้บุคคลใดที่ไม่อาศัยอยู่ในชุมชนบริเวณนั้นเข้าไปอยู่อาศัย หรือทำการใดๆ ในพื้นที่อย่างเด็ดขาด ในระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย. 2556 ตั้งแต่เวลา 12.00 น. ของวันที่ 16 ก.ย. 2556 ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 17 ก.ย. 2556 จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ลงนามโดยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช
       
       ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลกำลังหารือเพื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในพื้นที่ ต.ควนหนองหงษ์ โดยจะมีการมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีอำนาจในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view