จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
กทม.ทุ่ม 2.4 พันล้านสร้างอุโมงค์ยักษ์บางซื่อ ช่วยแก้น้ำท่วม 6 เขตใหญ่ คาดเปิดใช้งานก.ย.ปี59
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. นายสัญญา ชีนิมิตร รองปลัดกทม. นายอดิศักดิ์ ขันตรี ผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำ (สนน.) ลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ร่วมกับบริษัท เนาวรัตน์พัฒนาการ จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยเอนยิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด และบริษัทคอนซัลติ้ง เอนยิเนีย จำกัด
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า อุโมงค์ระบายน้ำบางซื่อเป็นอุโมงค์ระบายน้ำขนาดใหญ่ของกทม. ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำที่ท่วมขัง เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและระบบระบายน้ำมีขีดความสามารถจำกัดไม่สามารถระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยาได้ สำหรับอุโมงค์ระบายน้ำนี้ เริ่มต้นจากบริเวณถนนรัชดาภิเษก คลองลาดพร้าว และจะระบายน้ำมาตามคลองบางซื่อ ออกแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณวัดแก้วฟ้า มีพื้นที่ 56 ตารางกิโลเมรต ยาว 6.4 กิโลเมตร ลึก 20 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 6 เขต ประกอบด้วย เขตห้วงขวาง ดินแดง จตุจักร พญาไท ดุสิต และจะช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเนื่องจากฝนตกหนักบริเวณถนนสายสำคัญทางเศรษฐกิจ 6 สาย ซึ่งเป็นจุดอ่อนน้ำท่วม ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ช่วงจากสี่แยกสะพานควาย - ห้าแยกลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ช่วงจาก สี่แยกสุทธิสาร - ห้าแยกลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก ช่วงจากสี่แยกรัชโยธิน - คลองบางซื่อ ถนนสามเสน ช่วงจากคลองบางกระบือ - สี่แยกเกียกกาย ถนนลาดพร้าว ช่วงจากสี่แยกรัชดาลาดพร้าว - คลองบางซื่อ และถนนกำแพงเพชร ช่วงจาก ใต้ทางด่วนศรีรัช - ตลาดนัดสวนจตุจักร
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวจะใช้งบประมานทั้งหมด 2,442,400,000 บาท เป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาล 50 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 3 ปี คาดว่าจะเสร็จประมาณเดือนกันยายน 2559 และยังได้ว่าจ้าง บริษัท ไทยเอนยิเนียริ่ง คอนซัลแตนทส์ จำกัด และบริษัท คอนซัลติ้ง เอนยิเนีย จำกัด เป็นที่ปรึกษาบริหารและควบคุมงาน ในวงเงินค่าจ้างที่ปรึกษา 41,148,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งโครงการ 2,483,548,000 บาท ระยะเวลาดำเนินการ 1,080 วัน นอกจากนี้ กทม.ยังมีโครงการที่จะสร้างอุโมค์ระบายน้ำขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีก 2 พื้นที่ ประกอบด้วย บริเวณบึงหนองบอนความยาว 9.4 กิโลเมตร ฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ และคลองเปรมประชากร 13.5 กิโลเมตร ฝั่งตะวันตก โดยขณะนี้โครงการก่อสร้างที่บึงหนองบอนนั้นได้ร่างโครงสร้างและแผนการเรียนร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่เสนอโครงการต่อรัฐบาลและรออนุมัติงบประมาณในการก่อสร้าง
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
