จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สหประชาชาติ ระบุ 1 ใน 3 ของอาหารที่มนุษย์บริโภคทั้งหมด 1,300 ล้านตัน ถูกทิ้งเป็นของเสียทั้งยังทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงาน
ในรายงานที่มีชื่อว่า "พิมพ์เขียวอาหารเหลือทิ้ง" นั้น องค์การอาหาร และเกษตร แห่งสหประชาชาติ หรือเอฟเอโอ ประเมินว่า ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากอาหารเหลือทิ้ง อาจมีปริมาณเทียบได้เท่ากับ 3,300 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ในแต่ละปี ซึ่งหากเปรียบเป็นประเทศแล้ว ปริมาณดังกล่าว อาจเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและสหรัฐรายงานยังระบุว่า การบริโภคอาหารให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจมีส่วนช่วยอย่างมากต่อความพยายามของโลก ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อจำกัดภาวะโลกร้อน
เอฟเอโอชี้ว่า ในประเทศอุตสาหกรรมนั้น ของเสียส่วนใหญ่เกิดจากการที่ผู้บริโภคซื้ออาหารมาเป็นจำนวนมาก และทิ้งอาหารที่ไม่ได้บริโภค ขณะที่ในประเทศกำลังพัฒนา ขยะอาหารส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการทำการเกษตรที่ไร้ประสิทธิภาพ และขาดสถานที่จัดเก็บอย่างเหมาะสม
การลดปริมาณขยะอาหารไม่เพียงแต่จะช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อการขาดแคลนทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังจะช่วยลดความจำเป็นในการผลิตอาหารเพิ่มขึ้นได้ถึง 60% เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการอาหารของประชากรในปี 2593
รายงานยังแนะให้ประเทศต่างๆ ดำเนินการปรับปรงการสื่อสารระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค เพื่อการบริหารจัดการซัพพลายเชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึง การลงทุนมากขึ้นในด้านการเก็บเกี่ยว แช่เย็น และบรรจุหีบห่อ
เอฟเอโอ ประเมินด้วยว่า ต้นทุนสำหรับอาหารเสีย ไม่รวมปลา และอาหารทะเลีย ตกที่ปีละ 750,000 ล้านเดอลลาร์
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
