จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเอฟพี-- คณะนัก วิจัยเผยรายงานการศึกษาเมื่อวันจันทร์ (6 พ.ค.) ว่า การใช้สารฆ่าเชื้อโรคในตลาดค้าสัตว์ปีกซึ่งเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค ตลอดจนการฆ่าเชื้อในรถบรรทุก อุปกรณ์ต่างๆ สามารถยับยั้งการแพร่กระจายของไข้หวัดนกหรือเชื้อไวรัส H5N1
คณะนักวิจัยนานาชาติจากฝรั่งเศส อังกฤษ และเวียดนาม จับมือกันทำการศึกษามาตรการหยุดยั้งการระบาดของเชื้อไข้หวัดนก โดยได้ทำการสัมภาษณ์เก็บข้อมูลจากผู้ขายสัตว์ปีกที่อยู่ทางเวียดนามตอนเหนือ และติดตามการระบาดของโรคที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแม้ในพื้นที่ห่างไกลก็ตาม
กลุ่มนักวิจัยเผยแพร่รายงานผลการศึกษาในวารสารเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ ของสหรัฐอเมริกา Proceedings of the National Academy of Sciences ในรายงานฯชี้ว่ามาตรการสกัดการแพร่ระบาดเชื้อโรคฯ โดยการสังหารหมู่สัตว์ปีก และปิดตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตนั้น ไม่บังเกิดประสิทธิผลเท่าไหร่นัก
ในรายงานการศึกษายังแนะนำมาตรการที่ใช้ได้ผลดีกว่าคือ มาตรการป้องกันโดยการฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อในแหล่งค้าสัตว์ปีก และพาหนะที่บรรทุกสัตว์ปีกเหล่านั้นทุกวัน การฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อทุกๆวัน จะช่วยลดขนาดสื่อกลางของแพร่กระจาย (median epidepic size) ของเชื้อไวรัสได้ในระดับร้อยละ 80-89 และการฉีดพ่นสารฆ่าเชื้อโรคทุกๆ สองวันนั้น ก็จะให้ประสิทธิผลที่ต่ำกว่า โดยช่วยลดขนาดของสื่อกลางการแพร่กระจายอยู่ที่ประมาณร้อยละ 30 เท่านั้น
นอกจากนี้ ระบบการฉีดสารฆ่าเชื้อโรคฯนี้ คือ ค่าใช้จ่ายที่ถูกและง่ายต่อการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของผู้ค้าสัตว์ปีก รายงานการวิจัย ที่นำโดย Guillaume Fournie ของมหาวิทยาลัยลอนดอน ระบุ
จากรายงานขององค์การอนามัยโลก หรือฮู (WHO) เชื้อไวรัส H5N1 ได้คร่าชีวิตมนุษย์ไปกว่า 370 รายทั่วโลก อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากต่างเกรงว่ามันจะกลายพันธุ์เป็นเชื้อไวรัสที่ สามารถติดต่อระหว่างมนุษย์สู่มนุษย์อีกด้วย
ขณะนี้ จีนนั้นกำลังเร่งควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ H7N9 ซึ่งได้คร่าชีวิตชาวจีนไป 27 รายแล้วในปีนี้
ฮูได้กล่าวอีกว่ายังไม่มีหลักฐานที่ยืนยันถึงการระบาดของเชื้อไวรัส ไข้หวัดนกที่ระบาดจากคนสู่คน แต่ทั้งนี้ก็ได้เตือนว่าเชื้อไวรัส H7N9 เป็นหนึ่งในเชื้อไวรัสที่อันตรายที่สุดชนิดหนึ่งเท่าที่เคยพบมา และได้กระตุ้นเตือนนักเดินทางให้ระมัดระวังการสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ยังมี ชีวิต.
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
