จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สำนักงานอาหารฟิลิปปินส์ ระบุ รัฐบาลได้เลือกเวียดนาม ให้เป็นผู้จัดหาข้าว 187,000 ตัน เพื่อเพิ่มปริมาณข้าวสำรอง
ความต้องการข้าวสารของฟิลิปปินส์ในปีนี้ คิดเป็นเพียงสัดส่วนเล็กน้อยของข้าวสารในปริมาณ 8 ล้านตันที่เวียดนามตั้งเป้าว่าจะส่งออกในปีนี้ ทั้งที่เมื่อปี 2553 ฟิลิปปินส์คือผู้ซื้อข้าวรายใหญ่ที่สุดในโลก
นายออร์ลาน คาลายัก ผู้อำนวยการสำนักงานอาหาร กล่าวว่าฟิลิปปินส์ตัดสินใจที่จะซื้อข้าวสารเมล็ดหัก 25% ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอไว้สำรองในสต็อกสำหรับช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน และยังเสริมด้วยว่าขณะนี้ไม่มีความจำเป็นที่ฟิลิปปินส์จะต้องนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากคาดว่ายอดเก็บเกี่ยวข้าวในปีนี้จะสูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง
ฟิลิปปินส์ตั้งเป้าผลผลิตข้าวสารที่ยังไม่ได้ผ่านการสี ว่าจะเพิ่มขึ้น 11% มาอยู่ที่ 20 ล้านตันในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วซึ่งมากเป็นประวัติการณ์ที่ 18 ล้านตัน
ทางด้านรัฐวิสาหกิจ เวียดนาม เซาท์เธิร์น ฟู้ด หรือ วีนาฟู้ดทู ได้เสนอขายข้าวในราคาตันละ 459.75 ดอลลาร์ โดยรวมต้นทุน ค่าประกันสินค้า และค่าส่งสินค้าเรียบร้อยแล้ว ราคาดังกล่าวต่ำกว่าราคาที่ประเทศไทยได้เสนอไปที่ตันละ 568 ดอลลาร์
ราคาข้าวสารของเวียดนามได้ดิ่งลงไปอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบกว่าสองปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และคาดว่าจะลดลงไปอีก หลังจากความต้องการยังคงอ่อนแอท่ามกลางอุปทานที่เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ทางด้านประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งตั้งเป้าว่าต้องการเก็บเกี่ยวข้าวให้เพียงพอกับความต้องการภายในประเทศให้ได้ภายในปีนี้ ได้นำเข้าข้าวสารในปริมาณ 500,000 ตันเมื่อปีที่แล้ว และมากเป็นประวัติการณ์ 860,000 ตันในปี 2554 ส่วนเมื่อปี 2553 ได้นำเข้าข้าว 2.45 ล้านตัน
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
