สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ผลวิจัยชี้ อุณหภูมิผิวน้ำ ตอนเหนือของ แอตแลนติก พุ่งสูงสุดในรอบ 150 ปี

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

      เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ผลการวิจัยล่าสุดพบว่าอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลบริเวณไหล่ ทวีปนอกชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ และแคนาดา พุ่งสูงขึ้นจนทำสถิติสูงที่สุดในรอบ 150 ปี
       
        ทีมนักวิทยาศาสตร์จากสำนักงานบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติของ สหรัฐฯ (NOAA) พบข้อมูลว่า อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลในบริเวณดังกล่าวในปี 2012 ที่ผ่านมาพุ่งสูงถึง 57.2 องศาฟาห์เรนไฮต์ หรือ 14 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดในรอบ 150 ปี ที่วัดได้จากน่านน้ำแถบตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก
       
        ด้านไมเคิล โฟการ์ตี ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมวิจัยของ NOAA ระบุว่า การที่อุณหภูมิของพื้นผิวน้ำทะเลบริเวณไหล่ทวีปนอกชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียง เหนือของสหรัฐฯ และแคนาดา พุ่งสูงขึ้นเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ระบบนิเวศในน่านน้ำบริเวณนี้กำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการติดตามการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่าง ใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตในพื้นที่อย่างไร
       
        อย่างไรก็ดี ผลการวิจัยของ NOAA ยังไม่สรุปว่า ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับอุณหภูมิของน้ำทะเลบริเวณไหล่ทวีปนอกชายฝั่งด้าน ตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ และแคนาดานั้น มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ ภาวะโลกร้อนมากน้อยเพียงใด
       
        ด้านคีธ แอชฟีลด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการประมงและมหาสมุทรแห่งแคนาดาวัย 61 ปีออกมาแสดงความเป็นห่วงว่า การที่อุณหภูมิพื้นผิวของน้ำทะเลแถบตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก พุ่งสูงขึ้นดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของสายพันธุ์สัตว์น้ำหลายชนิดที่มีอยู่ชุก ชุมบริเวณ “แกรนด์ แบงก์ส” นอกชายฝั่งเกาะนิวฟันด์แลนด์ของแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งทำการประมงที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยคาดว่าสายพันธุ์ที่อาจได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ปลาค็อดแอตแลนติก และกุ้งมังกร


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view