จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...วราภรณ์
แนวปะการังของไทยได้ถูกทำลายโดยฝีมือมนุษย์ไปมากแล้ว หากปล่อยปละละเลยสมดุลทางธรรมชาติชายฝั่งจะสูญหายไป ด้วยเหตุนี้ภาคเอกชนนำโดย บริษัท วีนิไทย จึงจัดทำการโครงการ “วีนิไทยร่วมใจปลูกปะการัง 8 หมื่นกิ่ง เริ่มต้นเพื่อล้นเกล้า”
สมพจน์ ชีรนรวนิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายประสานงานธุรกิจและการสื่อสาร บริษัท วีนิไทย ผู้คลุกคลีกับกับ “วีนิไทยร่วมใจปลูกปะการัง 8 หมื่นกิ่งฯ” มาตั้งแต่ต้น เล่าว่า โครงการนี้ได้รับการยอมรับและรับรางวัลต่างๆ มากมาย อาทิ Business Award ในสาขากิจกรรมส่งเสริมสังคมดีเด่น ในงาน NTCC/Beluthai Business Awards 2012 ที่จัดโดยหอการค้าเนเธอร์แลนด์ไทย และหอการค้าเบลเยียมลักเซมเบิร์ก/ไทย
โครงการนี้เริ่มเมื่อ 5 ปีก่อน โดยวีนิไทย ร่วมกับ มูลนิธิกิจกรรมวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์ เป็นโครงการปลูกและขยายพันธุ์ปะการังเขากวางด้วยท่อพีวีซี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายพันธุ์ปะการังเขากวางจำนวน 8 หมื่นกิ่ง ระหว่างปี พ.ศ. 2551 - 2555 เพราะเล็งเห็นว่าปัจจุบันแนวปะการังน้ำตื้นบริเวณทะเลอ่าวไทยถูกทำลายและลด ปริมาณลงไปเป็นจำนวนมาจนถึงขั้นวิกฤต มาจากจากฝีมือมนุษย์ที่ทำประมงโดยขาดความรับผิดชอบ และการลักลอบตัดปะการังไปขาย ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมเอง ทำให้เกิดผลเสียหายต่อระบบนิเวศทางทะเลและการดำเนินชีวิตของผู้คนบริเวณชาย ฝั่งเป็นอย่างมาก การรณรงค์ให้เกิดการอนุรักษ์ตามโครงการจึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
สำหรับการปลูกปะการังครั้งล่าสุดพิเศษกว่าทุกปี เมื่อเจ้าหญิงมาทิลด์ พระชายาในเจ้าชายฟิลลิป มกุฎราชกุมารแห่งเบลเยียม ทรงมีความสนพระทัยในโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติ และโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลต่างๆ จึงได้ทรงเข้าร่วมกิจกรรมนี้เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ ช่องแสมสาร ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับปะการังกิ่งแรกที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปลูกเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2551
พื้นที่ปลูกปะการังของโครงการจะอยู่บริเวณชายฝั่งด้านอ่าวไทย ซึ่งถือเป็นทำเลที่เหมาะสมในการขยายพันธุ์ปะการังเขากวาง โดยครอบคลุม 5 พื้นที่หลัก ได้แก่ เกาะเสม็ด จ.ระยอง 1 หมื่นกิ่ง เกาะหวาย จ.ตราด จำนวน 1 หมื่นกิ่ง เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 1 หมื่นกิ่ง เกาะขาม จ.ชลบุรี 1 หมื่นกิ่ง และพื้นที่ชายฝั่งหาดแสมสาร จ.ชลบุรี 4 หมื่นกิ่ง
“เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับแนวปะการังน้ำตื้น เพราะมีความสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยและที่อนุบาลของสัตว์น้ำ และปลาทะเลต่างๆ ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นป้องกันการกัดเซาะพังทลายของชายฝั่งได้ และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล เนื่องจากแนวปะการังมีความสวยงามและเป็นแหล่งที่สัตว์ทะเลต่างๆ มาอาศัย โครงการนี้ยังมีส่วนช่วยให้ประชาชนคนไทยและหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมโครงการได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ธรรมชาติ ทั้งยังสร้างความสามัคคีให้กับประชาชนท้องถิ่นในบริเวณที่เราได้จัดกิจกรรม อีกด้วย”
หลังผ่านไปเกือบ 5 ปี สมพจน์ เล่าว่า ปัจจุบันแนวปะการังมีความสมบูรณ์ขึ้นมาก สำหรับบรรยากาศในการร่วมกิจกรรมปลูกปะการังในแต่ละครั้ง สมพจน์ เล่าว่า เต็มไปด้วยความสนุกสนาน และได้ความรู้ไปพร้อมๆ กัน ได้การรับฟังบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ และการอนุรักษ์แนวปะการังและท้องทะเลไทย มีการอบรมให้ผู้เข้าร่วมโครงการทุกท่านได้รู้จักวิธีการปลูกปะการังเขากวาง ด้วยท่อพีวีซีอย่างถูกต้อง และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้มีโอกาสร่วมกันลงมือปลูกปะการังด้วยตนเอง โดยปะการังแต่ละต้นที่ปลูกไปจะมีหมายเลขประจำต้นติดไว้เพื่อการรายงานความ เจริญเติบโตของปะการังอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการทำกิจกรรมทางน้ำต่างๆ อาทิ การดำน้ำดูปะการัง การพายเรือคายัก เป็นต้น
“ผมไปร่วมทำกิจกรรมด้วยทุกครั้งที่มีโอกาส และมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นคนไทย ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงเยาวชนไทยจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ได้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์แนวปะการัง และทรัพย์กรทางทะเลของประเทศไทย ตลอด 5 ปีเรายังได้รับผลตอบรับจากหน่วยงาน และผู้ที่เคยร่วมกิจกรรมไปแล้วอย่างต่อเนื่องว่าผู้ที่ผ่านการเข้าร่วม กิจกรรมปลูกปะการังกับเรานั้นได้กลับไปเผยแพร่ข้อมูลและความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์ปะการังและทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลให้กับญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานได้รับทราบ เพื่อเป็นการขยายแนวความคิดในการร่วมอนุรักษ์ออกไปอย่างกว้างขวาง และช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มีการทำลายแนวปะการังอีกด้วย”
หากใครสนใจจะไปร่วมปลูกปะการังกับโครงการ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคเอกชน มหาวิทยาลัย โรงเรียน ฯลฯ สามารถยื่นความจำนงหรือโทรมาปรึกษาได้ที่ มูลนิธิกิจกรรมวิทยาศาสตร์ทางทะเลและการอนุรักษ์โดยการอุปถัมภ์ของบริษัท วีนิไทย ที่ 038-925-000 หรือติดต่อกับประธานโครงการโดยตรง อาจารย์ประสาน แสงไพบูลย์ 081-663-1956 เพื่อแจ้งความจำนงว่าอยากไปปลูกในช่วงเวลา วันใด และต้องการไปปลูกที่ไหนใน 5 พื้นที่ของโครงการ เช่น เกาะเสม็ด จ.ระยอง เกาะหวาย จ.ตราด เกาะทะลุ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เกาะขาม จ.ชลบุรี และพื้นที่ชายฝั่งหาดแสมสาร จ.ชลบุรี จากนั้นวีนิไทยจะเตรียมบุคลากร รวมทั้งนักประดาน้ำไว้ให้ความรู้ และนำไปปลูกใต้ท้องทะเลให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,ปุ๋ยมูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
