จากประชาชาติธุรกิจ
หลายคนอาจมองว่ายังเป็นเรื่องไกลตัว แต่กระแสข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดนกทั้งในกัมพูชาและจีน เป็นเรื่องที่ไม่อาจไว้วางใจได้ ต้องเกาะติดความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดพร้อมวางแผนรับมือไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้ป้องกันแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ไข้หวัดนกปี 2547 ที่ผ่านมาที่น่าห่วงคือ พัฒนาการของโรคทำให้เชื้อไข้หวัดนกมีหลายสายพันธุ์มากขึ้น จาก H5 และ H5N1 ก็มีสายพันธุ์ใหม่ H7N9 ที่กำลังระบาดในจีนเพิ่มขึ้นมาอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ตรวจพบในมนุษย์
วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ทางการจีนประกาศว่าพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ดังกล่าวแล้ว 9 คน 5 คนอาการป่วยอยู่ในขั้นรุนแรง ในจำนวนนี้ 3 รายเสียชีวิต
ขณะที่ไข้ หวัดนกชนิด H5N1 ที่กำลังระบาดในกัมพูชา คร่าชีวิตคนไป 9 ราย และยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้มีอีกหลายประเทศ อาทิ บังกลาเทศ อินเดีย เนปาล ภูฏาน อียิปต์ เม็กซิโก ก็กำลังเผชิญปัญหา
สำนัก ระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกว่า ตั้งแต่ปี 2556 ถึง 15 ก.พ. 2556 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกทั้งสิ้น 620 ราย เสียชีวิต 367 ราย ใน 15 ประเทศ รวมทั้งไทย
ในส่วนของไทยนั้นมีผู้ป่วยรวมทั้งสิ้น 25 ราย เสียชีวิต 17 ราย ช่วงที่ไข้หวัดนกแพร่ระบาดรุนแรงในปี 2546-2552 แต่หลังปี 2552 จนถึงปัจจุบัน ไม่มีรายงานการพบเชื้อ H5 และ H5N1 แต่อย่างใด ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข และกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด รองนายกฯและ รมว.เกษตรฯ นายยุคล ลิ้มแหลมทองได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์คุมเข้มเฝ้าระวังโรคตลอดแนวชายแดน ติดต่อประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกซึ่งเสี่ยงจะเป็นพาหะนำเชื้อไข้หวัดนกเข้ามา ในประเทศไทย ขณะเดียวกันก็ให้เร่งฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อในฟาร์มเลี้ยงสัตว์ปีกทั่วประเทศ 1.3 ล้านแห่ง เพื่อป้องกันล่วงหน้า พร้อมกับเฝ้าระวังการผ่านเข้าออกทางชายแดนของบุคคลตลอดจนยานพาหนะย้อนรอยปี 2546-2552 ช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดรุนแรง
ในประเทศไทย ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดในการประเมินสถานการณ์ และการบริหารจัดการของภาครัฐ ที่สำคัญมีการปกปิดให้ข้อมูลข่าวสารไม่ชัดเจน ทำให้สาธารณชนสับสนขาดความเชื่อมั่น ความหวาดผวาภัยเชื้อไข้หวัดนกขยายวงกว้าง ส่งผล
กระทบต่อการเลี้ยง สัตว์ปีกครบวงจร ตั้งแต่ระดับฟาร์ม การซื้อขาย การบริโภค จนถึงการส่งออก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง อย่างธุรกิจท่องเที่ยว
ถือเป็นเรื่องดีที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการรับมือไข้หวัดนกที่อาจจะกลับมาระบาดรอบใหม่ ด้วยการจัดทำมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาแต่เนิ่น ๆ โดยนำบทเรียนที่เคยได้รับมาปรับใช้
เพราะถ้าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ขณะเดียวกันก็ชี้แจงทำความเข้าใจ เพื่อให้คนทั้งประเทศระมัดระวังการแพร่เข้ามาของโรคร้ายโดยไม่มีการปิดบัง ก็น่าจะช่วยป้องกันและลดทอนความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไม่ยาก
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
