จาก โพสต์ทูเดย์
หมอกควันปกคลุมทั่วเมืองแม่ฮ่องสอนหนักสุดในประวัติศาสตร์สูงถึง 356 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เมื่อวันที่ 25 มี.ค.สถานการณ์หมอกควันไฟป่ายังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบนหลายจังหวัดอยู่ในขั้น รุนแรงและวิกฤต โดยเฉพาะจ.แม่ฮ่องสอน อย่างหนาแน่น ซึ่งวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) สูงถึง 356 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร นับว่าสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
นพ.ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ได้รับข้อมูลประชาชนที่ป่วยเนื่องจากผลกระทบจากหมอกควันและเข้ารับบริการใน โรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุข เมื่อวันที่ 25 มี.ค.พบว่า มีประชาชนป่วยเป็นโรคตาอักเสบ จำนวน 690 คน โรคระบบทางเดินหายใจ จำนวน 8,325 คน โรคหัวใจ ระบบไหลเวียนโลหิต 7,601 คน และโรคผิวหนัง จำนวน 957 คน รวมทั้งสิ้น 17,573 คน โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้กระจายหน้ากากอนามัยให้สถานบริการสาธารณสุขทุกอำเภอเพื่อแจกจ่ายให้กับ ประชาชน จำนวน 31,800 ชิ้น
ขณะที่กรมควบคุมมลพิษได้ รายงานค่าเฉลี่ยฝุ่นละอองในหมอกควันไฟของ จ.ลำปาง ซึ่งค่าสูงสุด วัดได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสี อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง 351 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ค่าดังกล่าวถือว่าเป็นค่าสูงสุดในปีนี้ของ จ.ลำปาง ที่ทะลุ 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยถือว่าเกินค่ามาตรฐานมากว่า 1 เท่าตัว ซึ่งค่าเฉลี่ยต้องไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ส่วนตัวเมืองลำปาง สถานีตั้งอยู่ที่สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง วัดได้ 251 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตั้งอยู่สำนักงานการประปาแม่เมาะ อ.แม่เมาะ วัดได้ 246 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีที่ตั้งอยู่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลสบป้าด อ.แม่เมาะ วัดได้ 244 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยถือว่าทุกสถานีเกินค่ามาตรฐาน สภาพอากาศมีผลต่อสุขภาพร่างกายของประชาชน
จากการประเมินสถานการณ์ในช่วงนี้ ถือว่ามวลอากาศใน จ.ลำปาง และในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ยังคงมีความเสถียร ที่จะเกิดหมอกควันไฟปกคลุมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากการสะสมตัวของหมอกฝุ่น และอาจจะมีความเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ไปจนถึงสัปดาห์หน้า โดยที่ทุกจังหวัด เป็นพื้นที่ ที่น่าเป็นห่วง และต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และการเกิดฝนตกลงมาเท่านั้น ที่จะเป็นการทำให้สถานการณ์หมอกควันไฟ กลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ในช่วงนี้ ทุกจังหวัด จะต้องคุมเข้มการเผาให้ดี และดับจุดที่เกิดไฟไหม้อย่างคลอบคลุม เพื่อไม่ให้สถานการณ์เกิดภาวะวิกฤตด้านสภาพอากาศไปมากกว่านี้
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต