จาก โพสต์ทูเดย์
ซ้ำรอยนักปั่นอังกฤษ! รถยนต์เหยียบคนขี่จักรยานเสียชีวิตคาถนนสาย304 พบถูกชนจนร่างแหลกไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้
ร.ต.ท.ปัญณธร ชัยชนะสมบัติ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเหตุมีนักปั่นจักรยานถูกรถหลากหลายชนิด เหยียบทับจนร่างแหลกเละแบนติดอยู่บนพื้นถนนสาย 304 ช่วงเส้นทางระหว่าง พนมสาคาม-ฉะเชิงเทรา ด้านฝั่งขาเข้า ก่อนถึงหลัก กม.ที่ 23 (69) พื้นที่ หมู่ 5 ต.เมืองใหม่ อ.ราชสาส์น ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกันกับ 2 นักปั่นสัญชาติอังกฤษที่ปั่นจักรยานรอบโลกถูกเหยียบตายบนนถนนดังกล่าวจึงรีบ เดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุพร้อมทำการประสานงานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลราช สาส์น ให้เดินทางไปร่วมกันชันสูตรพลิกศพ
ทั้งนี้ที่เกิดเหตุพบอาสาสมัครมูลนิธิหน่วยกู้ภัยพนมฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฉะเชิงเทรา กำลังยืนอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมวางกรวยกั้นเส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุให้รถยนต์ที่ขับผ่านเคลื่อนไปใน เลนด้านซ้ายอย่างช้าๆ โดยในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานสีฟ้ามีตะแกรงหน้าสีดำ จอดนอนล้มตะแคงข้างติดริมไหล่ทางด้านในของคูร่องน้ำกลางถนน ห่างออกมาประมาณ 30 เมตรพบเศษกระจก พร้อมโครงกระจกมองข้างรถเก๋งสีดำตกอยู่ 1 อัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นอกจากนี้ตามรายทางระยะทางประมาณเกือบ 200 เมตร พบเศษชิ้นเนื้อมนุษย์ ตกกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นถนน พร้อมด้วยเศษกางเกงในสีเทาดำอีกหนึ่งตัวที่ยังคงสวมติดอยู่กับชิ้นส่วนท่อน ล่างบริเวณส่วนของสะโพก และไม่พบหลักฐานบ่งชี้ได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นใครมาจากไหน
พ.ญ.ธีรพร ประกอบ แพทย์ผู้ร่วมชันสูตรโรงพยาบาลรายสาส์น กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะระบุได้ว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นหญิงหรือชาย อายุประมาณเท่าใด หรือเสียชีวิตมาแล้วกี่ชั่วโมง และถูกรถอะไรทับ เพราะร่างกายและชิ้นส่วนอวัยวะต่างๆ นั้นถูกรถทับจนแหลกเหลวละเอียดหมด แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นเพศชายมากกว่าหากดูจากทรงผมที่ยังเหลือให้เห็นพอที่จะ สังเกตได้ จึงเห็นควรให้ส่งต่อไปชันสูตรยังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อที่จะได้ทำการ ตรวจหาหลักฐานโดยละเอียดอีกครั้ง
ด้าน ร.ต.ท.ปัญณธร กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าผู้ตายนั้นเป็นใคร มาจากไหน เพราะไม่พบหลักฐานอะไรติดตัว และยังไม่มีญาติหรือคนรู้จักมาแสดงตนบ่งชี้หรือเป็นพยาน แต่น่าเชื่อว่าอาจจะเป็นคนสติไม่ดี ที่ชอบปั่นจักรยาน และมาจอดรถ แล้วลงเดินข้ามถนนไปมาจนถูกรถเหยียบทับดังกล่าว ซึ่งคาดว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว โดยหลังจากนี้จะได้ให้หน่วยกู้ภัยฯ ทำการเก็บรวบรวมชิ้นส่วนต่างๆ ที่พอจะเก็บไปได้ นำส่งไปพิสูจน์ยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ อีกครั้ง
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
