โวยรัฐพลิกจำนำข้าว

จาก โพสต์ทูเดย์

ชาวนาฉุนรัฐไม่รับจำนำข้าวอายุสั้น เตรียมยกพลร้องพาณิชย์-เกษตร ทักษิณปูดถูกรุมต้าน

สมาคมชาวนาไทยเตรียมยื่นหนังสือถึง รมว.พาณิชย์ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในสัปดาห์หน้า เพื่อขอให้ยกเลิกการห้ามนำข้าวที่มีอายุน้อยกว่า 110 วัน จำนวน 18 สายพันธุ์ หรือข้าวอายุสั้น เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง 2556 หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวนาใน จ.พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ฯลฯ ว่าได้ลงทุนปลูกข้าวอายุสั้นไปแล้ว หลังจากรัฐบาลสัญญาว่าจะรับจำนำข้าวทุกเมล็ด

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังฤดูนี้ ได้ห้ามไม่ให้รับจำนำข้าวเปลือกอายุสั้นจำนวน 18 สายพันธุ์ เพราะมีคุณภาพต่ำไม่เป็นที่นิยมของตลาด

ทั้งนี้ นโยบายรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ทำให้มีการปลูกข้าวอายุสั้นเพิ่มขึ้น 10% และนำมาจำนำแล้ว 6-7 หมื่นตัน และการรับจำนำจะทำให้รัฐขาดทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท

แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สไกป์พูดคุยถึงนโยบายรับจำนำข้าว ตอนหนึ่งว่า ได้ชวนบุคคลหนึ่งมาเป็นรองนายกฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ แต่ได้เปลี่ยนใจเพราะขอให้เลิกจำนำข้าวมาเป็นประกันราคาข้าว ซึ่งทำไม่ได้ และยังไปชวนนายธนาคารมาประชุมขอให้ธนาคารไม่ซื้อพันธบัตรรัฐบาล เพื่อที่รัฐจะได้ไม่มีเงินจำนำข้าว

ข้าว18สายพันธ์เข้าโครงการรับจำนำไม่ได้

จาก โพสต์ทูเดย์

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยที่ประชุม กขช.มีมติไม่ให้รับข้าวที่มีอายุการปลูกไม่เกิน 110 วันเข้าโครงการรับจำนำรวมแล้วกว่า 18สายพันธุ์

นางพรรณพิมล   ชัญญานุวัตร อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ที่ประชุมอนุกรรมการฝ่ายผลิตของ กขช.มีมติไม่ให้รับข้าวที่มีอายุการปลูกไม่เกิน 110 วันเข้าโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยกัน  18 สายพันธุ์ประกอบด้วย 1. พัน  75 หรือ BP 75   2.พวงทอง  3.พวงเงิน 4.พวงเงินพวงทอง  5.ราชินี    6. C 75     7. พวงแก้ว  8.ขาวปทุม   9.สามพราน  10. เบอร์039  (หรือ เจ้าพระยา หรือPSLC 02001240 )  11.โพธิ์ทอง 12. ขาวทองหลวง  13.มาเลเซีย 14.เตี้ยมาเลย์  15.ขาวมาเลย์ 16.มาเลย์แดง 17.เบตง  18.อีแล็ป หรืออีเล็ป

ส่วนผลการขึ้นทะเบียนโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลในฤดูนาปรังปี 2555/2556 ซึ่งเริ่มขึ้นทะเบียนตั้งแต่ 1พ.ย. 2555-15 ก.ย.2556 นั้น ยอดการขึ้นทะเบียนล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2556 ที่ผ่านมาพบว่ามี เกษตรกรขึ้นทะเบียนแล้ว3.9 แสนครัวเรือน พื้นที่ 6,739,344 ไร่ ปริมาณผลผลิต 3,897,469 ตันข้าวเปลือกผ่านการรับรองประชาคมแล้ว1.9 แสนครัวเรือน ทั้งนี้คาดว่าเมื่อสิ้นระยะเวลาการขึ้นทะเบียน 15ก.ย. จะมีปริมาณผลผลิตประมาณ7-9 ล้านตันข้าวเปลือก

“ขณะนี้เหลือเวลาขึ้นทะเบียนนาปรังจนถึง 15ก.ย.2556 ซึ่งจากตัวเลขขึ้นทะเบียนตั้งแต่ 1พ.ย.จนถึง17 มี.ค. ขึ้นทะเบียนประมาณ 3 ล้านไร่ เก็บเกี่ยวแล้วประมาณ2 ล้านไร่เศษ ได้ผลผลิตจริงตัวเลขเมื่อ3 มี.ค. ประมาณ 1.185 ล้านตัน เพราะฉะนั้นจากระยะเวลาที่เหลือกรมฯคาดว่าผลผลิตน่าจะประมาณ7-8 ล้านตันข้าวเปลือก แต่ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)  คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตไม่เกิน9.167 ล้านตัน ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.)ให้กลับมาประเมินใหม่ และให้รายงานต่อที่ประชุมกขช.วันที่26 มี.ค.นี้เพราะกรมการค้าภายในคาดว่าผลผลิตไม่น่าจะเกิน 7 ล้านตันข้าวเปลือก และเกรงจะเกินวงเงินที่ได้ขออนุมัติงบประมาณที่ขอรัฐบาล 1.05 แสนล้านบาท” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าว

ทั้งนี้ การขึ้นทะเบียนเกษตรกรนาปรัง 2ปีที่ผ่านมาในจะมีตัวเลขเกษตรกรประมาณ 6 แสนครัวเรือนผลผลิตประมาณ  9-11 ล้านตัน ซึ่งในฤดูนาปรังปีนี้ เดิมสศก.คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตประมาณ 11 ล้านตันข้าวเปลือกแต่จากสถานการณ์ภัยแล้งจึงปรับลดตัวเลขเหลือประมาณ  9 ล้านตันข้าวเปลือกเสนอที่ประชุมกขช.เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต