จาก โพสต์ทูเดย์
เยอรมันลงร่วมมือไทยเปิดโครงการส่วเสริมการจัดการน้ำในภาวะวิกฤต เน้นการปรับระบบนิเวศลดความเสียหายจากภัยพิบัติ
เมื่อวันที่ 13 มี.ค . องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) และ กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ของประเทศไทย จัดพิธีลงนามความร่วมมือเปิดตัว"โครงการส่งเสริมการจัดการน้ำในภาวะวิกฤตโดย การรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำ" เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการป้องกันภัยพิบัติทางน้ำของประเทศไทย
ทั้งนี้ฝ่ายเยอรมันมี นายรอล์ฟ ชูลเลอร์ เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย และ นายพิรุณ ลายสมิต ผู้อำนวยการสำนักงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (สพร.)กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนร่วมลงนามหนังสือแลกเปลี่ยนโครงการฯ และ นายเดวิด โอเบอร์ฮูเบอร์ ผู้อำนวยการGIZ และ นายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง GIZ และกรมทรัพยากรน้ำ
ซึ่งโครงการฯได้รับทุนสนับสนุนจาก กระทรวงสิ่งแวดล้อมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความปลอดภัยด้าน นิวเคลียร์ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMU) จำนวน 2.8 ล้านยูโร
นายรอล์ฟ ชูลเซอร์ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-เยอรมนี ดำเนินมากว่า 150 ปีแล้ว ซึ่งในช่วง2-3 ปีที่ผ่านมา ได้เกิดภัยพิบัติทางน้ำอย่างรุนแรงในไทยและทั่วโลก จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือกันป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากภัย พิบัติในระยะยาว โดยการปรับระบบนิเวศให้มีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน
นายพิรุณ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างไทย-เยอรมนี เรื่องการจัดการน้ำมาตลอด จึงได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่างประเทศครั้งนี้ขึ้นเพื่อความช่วยเหลือ อย่างเป็นทางการ ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของไทยในการแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยี ด้านการจัดการภัยพิบัติน้ำ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
