จาก โพสต์ทูเดย์
พ่อเมืองตรังสั่งสกัดกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าจัดสรรขายที่ดินสร้างรีสอร์ท-บังกะโล
นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผวจ.ตรัง กล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าระดับ จ.ตรัง ได้ร่วมประชุมหารือเพื่อติดตามผลความคืบหน้าการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าโดยเฉพาะกลุ่มนายทุน เข้าไปจัดสรรขายที่ดินสร้างรีสอร์ทและบังกะโล ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์พื้นที่ป่าไม้ด้วยภาพถ่ายดาวเทียม เมื่อปี 2553 ของกรมป่าไม้ พบว่า จ.ตรัง มีพื้นที่ป่าธรรมชาติเหลืออยู่ประมาณ 668,150 ไร่ หรือร้อยละ 21.74 ของพื้นที่จังหวัด จึงนับเป็นสถานการณ์ที่อยู่ในภาวะวิกฤติ เพราะตามหลักวิชาการแล้ว จะต้องมีพื้นที่ป่าธรรมชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด หรือประมาณ 1,235,250 ไร่
นายธีระยุทธ กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ป่าไม้ของ จ.ตรัง ที่ยังคงมีสถานการณ์อ่อนไหวหรือล่อแหลม และยังอยู่ในภาวะความสี่ยงต่อการถูกบุกรุกทำลาย และมีสถิติคดีป่าไม้ค่อนข้างสูงหรือต่อเนื่อง มีจำนวน 5 พื้นที่ คือ 1.ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ท้องที่ อ.สิเกา และ อ.กันตัง รวม 6 ตำบล 2.ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า ท้องที่ อ.นาโยง อ.เมืองตรัง อ.ห้วยยอด และ อ.รัษฎา รวม 9 ตำบล 3.ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ท้องที่ อ.ปะเหลียน อ.ย่านตาขาว และ อ.นาโยง รวม 5 ตำบล 4.ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาประ-บางคราม ท้องที่ อ.วังวิเศษ และ อ.สิเกา รวม 2 ตำบล และ 5.ในเขตป่าสงวนแห่งชาติในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ท้องที่ อ.สิเกา อ.วังวิเศษ อ.ห้วยยอด อ.ปะเหลียน และ อ.กันตัง รวม 8 ตำบล
ทั้ง นี้โดยขณะนี้ จ.ตรัง ได้มีมาตรการและแนวทางดำเนินงาน เพื่อปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่าไม้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการใน 5 แนวทาง คือ การตรวจลาดตระเวนเฝ้าระวังป่าอย่างต่อเนื่อง ตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีอย่างเคร่งครัด ทุกระดับชั้นการสอบสวน และมอบหมายกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ อบต.ท้องที่ ติดตามสถานการณ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบอย่างต่อเนื่อง การใช้กฏหมายในการรื้อถอนพืชผลอาสินสิ่งปลูกสร้าง เพื่อป้องปรามผู้บุกรุกป่าและยึดพื้นที่คืน
นอก จากนี้ที่ประชุมยังได้หารือเพื่อติตดามการดำเนินคดีป่าไม้รายใหญ่ที่มีผู้มี อิทธิพล และที่สาธารณชนให้ความสนใจ โดยเฉพาะคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าหน้าโรงเรียนบ้านปากเมง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา ที่มีนายทุนประกาศจัดสรรขายที่ดิน จำนวน 20 ไร่ มูลค่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินของ อบจ.ตรัง และมีข้อพิพาทพิสูจน์สิทธิครอบครองกับอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม รวมทั้งคดีบุกรุกพื้นที่ป่าริมชายหาดปากเมง หมู่ 4 ต.ไม้ฝาด เพื่อสร้างรีสอร์ท มูลค่า 20 ล้านบาท คดีบุกรุกพื้นที่ป่าบนเกาะมุกด์ ม.2 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จำนวน 34 ไร่ เพื่อสร้างบังกะโล และคดีบุกรุกพื้นที่ป่าอื่นๆ อีก 3 คดี ซึ่งอยู่ในเขตของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และป่าสงวนแห่งชาติ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต