จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
กขช.ปรับเกณฑ์รับจำนำเพื่อขจัดข้าวคุณภาพต่ำเข้าโครงการ เริ่มนับหนึ่งสำหรับการรับจำนำข้าวนาปรังรอบใหม่ คาดราคาในตลาดโลกเพิ่ม 500-1 พันบาท/ตัน
นายบุญไทย แก้วขันตี รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า นอกจากการกำหนดระยะเวลาการผลิตข้าวที่จะเข้าสู่โครงการรับจำนำครั้งต่อไป ที่จะต้องมีระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 110 วันแล้ว ทางคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ยังกำหนดพันธุ์ข้าวที่จะเข้าสู่โครงการรับจำนำด้วย เพื่อให้ข้าวที่เข้าสู่โครงการมีคุณภาพที่ดีขึ้น
"ทางกขช.มีการปรับปรุงเกณฑ์การรับจำนำข้าว โดยจะเริ่มตั้งแต่การรับจำนำข้าวนาปรังปีการผลิต 55/56 นี้ เพื่อป้องกันปัญหาการผลิตข้าวคุณภาพต่ำเข้าสู่โครงการ โดยจะกำหนดทั้งระยะเวลาการผลิตที่ต้องไม่ต่ำกว่า 110 วัน และ จะมีการกำหนดพันธุ์สำหรับข้าวที่เข้าโครงการด้วย โดยกระทรวงเกษตรฯจะเป็นผู้ออกใบรับรองให้แก่เกษตรกรสำหรับการผลิตข้าวก่อนที่จะเข้าสู่โครงการรับจำนำ"
เขากล่าวด้วยว่า ทางกขช.ประเมินด้วยว่า ในปีนี้ ราคาข้าวในตลาดโลกจะปรับเพิ่มเฉลี่ยตันละ 500-1,000 บาท ส่วนปีหน้าจะปรับเพิ่มเฉลี่ย 1,150 บาทต่อตัน ซึ่งเป็นผลจากปัญหาภัยธรรมชาติจากประเทศผู้ผลิต ทั้งในส่วนของไทยเองที่มีปัญหาด้านภัยแล้ง ส่วนจีนและเวียดนาม ก็ประสบปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่การผลิต ขณะเดียวกัน ในปีนี้ อินเดียก็ได้ปล่อย สต๊อกข้าวออกมามาก ทำให้ปริมาณข้าวในตลาดโลกลดลง
ทั้งนี้ สำหรับการรับจำนำข้าวนาปรังในฤดูการผลิตปี 55/56 นี้ ทางธ.ก.ส.ได้เตรียมพร้อมที่จะดำเนินการแล้ว ทั้งในแง่สภาพคล่องและขั้นตอนการปฏิบัติ โดยในส่วนของสภาพคล่องนั้น ในช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม คาดว่า จะมีเงินจากการระบายข้าวเข้ามาจำนวนประมาณ 1 แสนล้านบาท ขณะที่ ทางกขช.ประเมินว่า จะมีข้าวเข้าสู่โครงการประมาณ 7 ล้านตัน หรือใช้เงินประมาณ 1.05 แสนล้านบาท ฉะนั้น การรับจำนำข้าวนาปรับรอบนี้ จะใช้เม็ดเงินจากการระบายข้าวทั้งหมด
"ในปีการผลิต 55/56 นี้ คาดว่า จะมีข้าวเข้าสู่โครงการประมาณ 17-18 ล้านตัน ใช้เงินไม่เกิน 3 แสนล้านบาท สูงกว่าปีก่อนที่มีข้าวเข้าสู่โครงการ 21 ล้านตัน เป็นเงินประมาณ 3.4 แสนล้านบาท"
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
