สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

สมพร ยันราคาจำนำข้าว1.3หมื่นบ.ยังขาดทุน

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

สมพร"เผยรัฐใช้เงินจำนำข้าวไปแล้ว4.6แสนล้าน รับจำนำด้านเดียว แต่ขายข้าวไม่ออก ลดราคาเหลือ1.3หมื่นบ./ตันก็ยังขาดทุนอยู่

นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการสถาบันคลังสมองของชาติ ให้สัมภาษณ์"กรุงเทพธุรกิจทีวี" เรื่อง นักวิชาการห่วงโครงการจำนำข้าวที่รัฐบาลจะปรับลดราคาจำนำข้าวจาก 1.5 หมื่นล้านบาท ลดลงเหลือ1.3 หมื่นล้านบาท

นายสมพร กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันของโครงการจำนำข้าวควรจะต้องทบทวน เพราะว่าที่ผ่านมาเห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าใช้เงินไปแล้วประมาณ 4.6 แสนล้านบาท ในการรับจำนำทั้งฤดูนาปี นาปรังปีที่ผ่านมา แล้วก็ฤดูนาปีปีนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นจากโครงการรับจำนำ รัฐบาลทำงานด้านเดียวคือรับจำนำ แต่ไม่ได้ทำงานอีกด้านก็คือการระบายข้าวออก ซึ่งตรงนั้นเป็นด้านที่คิดว่าไม่มีประสิทธิภาพทำงานที่เกิดขึ้น

นายสมพร กล่าวว่า ถ้าเกิดว่ารัฐบาลออกมาระบุว่าปรับลดลงจาก 1.5 หมื่นบาท ถึง 1.3 หมื่นบาท คิดว่าเกษตรกรโดยทั่วๆไปคงอาจจะมีข้อคัดค้านเกิดขึ้น แล้วการปรับลดลงมาเหลือ 1.3 หมื่นบาทจะไม่แก้ปัญหา เพราะว่าถ้ายังจำนำทุกเม็ด คิดว่าทางที่ดีที่สุด คือการจำนำโดยจำกัดปริมาณ เพื่อก่อให้เกิดความยุติธรรมในระบบต้องการจะช่วยชาวนาขนาดเล็กที่ยากจนก็ควรจำกัดปริมาณอยู่ประมาณสัก 20 ตัน/ครัวเรือน จะเป็นผลดี

นายสมพร กล่าวว่า ถ้าเกิดว่ามองในกรณีอย่างนี้ การที่รัฐออกมาพูดถึงถึงการลดราคาเหลือ 1.3 หมื่นบาท สะท้อนว่าที่บอกคุยว่ารับจำนำ 1.5 หมื่นบาท แล้วเอาไปขาย 800 ดอลลาร์/ตัน คือว่าเป็นโลกของความฝันเป็นไปไม่ได้ เพราะราคาที่ซื้อขายกันอยู่ในปัจจุบันนี้ ประเทศไทยขายได้อยู่ประมาณ 570-580 ดอลลาร์/ตัน เพราะฉะนั้นการที่จะทำให้ข้าวระบายออกได้บ้างจะต้องลดระดับราคาลงมา ซึ่งราคา 1.3 หมื่นบาท ถ้าทอนเป็นดอลลาร์จะอยู่ประมาณใกล้ๆ 700 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งก็ยังขาดทุนอยู่ดี

"ถ้าลดราคาลงมา ต้องดู 2 ประเด็น 1.ต้องดูว่าชาวบ้านเดือดร้อนมากน้อยขนาดไหน หรือถ้าต้องการจะช่วยชาวบ้านแค่รายเล็กๆ ที่เดือดร้อน จะเอา 1.5 หมื่นบาทก็ได้ แต่ว่าจำกัดปริมาณลงมา เพราะฉะนั้นถ้าส่วนหนึ่งมยังไหลไปสู่ตลาดเอกชนได้ ชาวนาที่ร่ำรวยหรือมีที่นาขนาด ใหญ่ก็สามารถใช้โควตาได้ภายในสิทธิของตัวเอง ที่เหลือก็ไปใช้ตลาดเอกชน เพราะฉะนั้นตลาดเอกชน ก็ยังสามารถทำงานได้ แต่ว่าตอนนี้ตลาดเอกชนทำงานไม่ได้"นายสมพร กล่าว

นายสมพร กล่าวอีกว่าราคาข้าวที่จะสูงกว่าที่ 570-580 ดอลลาร์/ตัน เกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะเวียดนามตอนนี้ขายข้าว 5% เหมือนกัน อยู่ที่ ประมาณ 400-410 ดอลลาร์/ตัน อินเดียอยู่ประมาณ 420 ดอลลาร์/ตัน เมื่อเร็วๆนี้ก็ขึ้นมาสูงอีกเล็กน้อย เพราะฉะนั้นข้าวไทยสูงกว่าข้าวคู่แข่งขันทั้งอินเดีย เวียดนามอยู่ประมาณประมาณ 150 ดอลลาร์/ตัน ซึ่งยากมากที่จะขายได้

นายสมพร กล่าวว่า ถ้าเกิดรัฐบาลยังคงดื้อด้านที่จะเดินหน้าโครงการต่อไปรับจำนำข้าวที่ราคา 1.5 หมื่นบาทต่อตัน ปัญหาทางการคลังจะต้องเกิดขึ้นตามมา ปัจจุบันนี้ก็เห็นภาพแล้วว่ากระทรวงพาณิชย์ทำงานด้านเดียว หรือรัฐบาลทำงานด้านเดียว ก็คือด้านรับจำนำ แต่ไม่ได้ทำในเรื่องของการระบายออก จึงไม่มีเงินเข้ามา ดังนั้นเงินที่จะใช้ในแง่ของโครงการรับจำนำข้าวต่อไปนี้คิดว่าจะมีจำกัดแล้ว ไม่สามารถที่จะขยายไปได้เรื่อยๆได้อย่างที่รีฐบาลคุยไว้ เพราะตอนนี้จะขายได้อีกแสนล้านบาทเป็นข้อมูลที่ไม่จริง เพราะดูข้อมูลข้าวส่งออกแล้วที่ผ่านมาส่งออกได้ประมาณ 6.9 ล้านตัน เป็นข้าวเอกชนเป็นส่วนใหญ่ รัฐส่งออกได้ในประมาณสัก 2 ล้านตันที่ผ่านมา แล้วก็เดือนที่ผ่านมาก็อาจจะส่งออกได้บ้าง แต่ว่าเอ็มโอเอกับเอ็มโอยู ที่รัฐบาลคุยไว้ไม่ได้ส่งออกเช็คข้อมูลดูแล้ว เราส่งออกไปบังกลาเทศประมาณ 97 ตันเท่านั้นเอง จากที่เคยส่งออกได้ 7 แสนตัน

"ถ้าเป็นอย่างนี้รัฐบาควรจะต้องส่งออกโดยราคาตลาดยอมขาดทุน ซึ่งเป็นไปได้ หากจะลดความสูญเสียเกิดขึ้น แต่ว่าต้องทำให้โปร่งใส เพราะปัจจุบันนี้ความโปร่งใสในกระบวนการระบายข้าวไม่เกิดขึ้น รัฐบาลบอกว่าจะระบายในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า แต่ว่าไม่มีข้าวสักเม็ดหนึ่งที่ไปในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าตอนนี้ข้าวของรัฐบาลยังอยู่เต็มคลังสินค้าเหมือนเดิม" นายสมพร กล่าว


ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต

Tags :

view