จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"วิฑูรย์" จวก รมว.พลังงงานเวอร์ ชี้พลังงานไม่วิกฤติ ย้ำยังโทษเอ็นจีโอประท้วงก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและแก๊ส
นายวิฑูรย์ เพิ่มพงศาเจริญ นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า การที่นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานระบุว่า ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ประเทศไทยจะเผชิญวิกฤติพลังงานไฟฟ้านั้น เป็นตัวสะท้อนว่าเวอร์เกินไป เพราะรัฐบาลรู้แผนหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซ ซึ่งเป็นเรื่องปกติประจำปีรู้กันอยู่แล้ว และคนที่มีอำนาจในการเป็นเจ้าของท่อไทยคือไทย 100% ส่วน ฝั่งพม่าเป็นของปตท. สผ. จึงไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอ้างการปัญหาเจรจาไม่สำเร็จและยังโทษเอ็นจีโอว่าประท้วงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินและแก๊ส จนทำให้ขาดแหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรอง ซึ่งถ้าดูจากตัวเลขไฟฟ้าจำนวน26,500 เมกกะวัตต์จากตัวเลขพลังงานสำรอง32,600 เมกกะวัตต์นั้นคำนวณแล้วยังเหลือไฟฟ้าสำรองอีกกว่า 7,000 เมกกะวัตต์ แต่หากตัดการส่งไฟจากการหยุดส่งทางฝั่งตะวันตก3,000 เมกกะวัตต์ ก็ยังเหลือไฟสำรองอีก4,000 เมกกะวัต์ จึงไม่เข้าใจว่าตัวเลข2% มาจากไหน
" เรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ผมสงสัยว่าคงเป็นประเด็นเอากระแสว่าไฟฟ้าไม่มั่นคง ที่จะโต้กระแสไฟฟ้าในภาคใต้ และประมูลไฟฟ้าไอพีพี6 โรง และโรงไฟฟ้าถ่านหินและแก๊สที่เขามีแผนก่อสร้างตั้งแต่ทับสะแก จ.ประจวบ คีรี ขันธ์ กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช และตรัง ที่ชาวบ้านคัดค้านอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเป็นการโยนบาปให้กับเอ็นจีโอ และคำถามคือใครจะรับผิดชอบ ถ้าเกิดความเสียหาย ถ้าปตท. ไม่สามารถส่งไฟฟ้าได้ ทางปตท.ต้องรับผิดชอบ หรือหากต้องใช้น้ำมันเตามาผลิตและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตต้องเพิ่มค่าเอฟที การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯจะ ต้องรับผิดชอบ เพราะคนเดือดร้อนคือประชาชนที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่ม ขณะที่เรายังไฟฟ้าสำรองอยู่ในระบบ"นายวิฑูรย์ กล่าว
เขา กล่าวอีกว่า การที่รัฐมนตรีมาพูดแบบนี้เหมือนประเทศไทยไฟจะดับทั้งประเทศ เท่ากับส่งสัญญาณให้กับนักลงทุนไม่กล้ามาลงทุนหรือไม่ เพราะเท่ากับลดเกรดความมั่นคงทางพลังงานของชาติ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนเม.ษ.มีวันหยุดต่อเนื่อง2 ช่วงคืิอวัน 6-8 เม.ย. และวันหยุดสงกรานต์ 12-15 เม.ย.นั้นก็น่าจะเจรจาการซ่อมไป ส่วนวันที่ 4 เม.ย.ที่ประเมินว่าจะเป็นช่วงใช้ไฟฟ้าสูงสุดในเวลาบ่ายนั้น เขาสามารถบริหารและลดการใช้ไฟฟ้ากับธุรกิจรายใหญ่ได้ โดยสามารถขอความร่วมมือให้เขาใช้ไฟฟ้าสำรอง หรือเลื่อนกะเวลาทำงานเพื่อเบี่ยงเวลาการใช้ไฟฟ้าให้เหลืิ่อมกัน ตรงนี้เป็นการบริหารงานที่รัฐน่าจะทำมากกว่ามาประกาศว่าไฟฟ้าจะไม่เพียงพอ
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
