จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
กระทรวงเกษตรสหรัฐคาดรายได้ภาคเกษตรของสหรัฐจะทะยานขึ้นในปีนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี หลังเริ่มฟื้นตัวจากภัยแล้งครั้งใหญ่
ในรายงานที่เผยแพร่ออกมาล่าสุดนั้น กระทรวงเกษตร สหรัฐ คาดการณ์ว่า ในปีนี้ รายได้ของเกษตรกรในประเทศจะพุ่งสูงถึง 128,200 ล้านดอลลาร์ สูงสุดนับแต่ปี 2516 เป็นต้นมา เมื่อปรับตามเพดานเงินเฟ้อ และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถ้าไม่มีการปรับตามเพดานเงินเฟ้อ
แนวโน้มที่แข็งแกร่งดังกล่าว ได้แรงหนุนจากการประเมินว่า เกษตรกรจะปลูกข้าวโพด และถั่วเหลืองมากขึ้น หลังต้องเจอกับภัยแล้งอย่างรุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเหล่านักวิเคราะห์ชี้ว่า ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากนี้ จะช่วยชดเชยกับราคาที่ร่วงลงได้ โดยคาดว่า ปริมาณข้าวโพดสำรองจะทะยานขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงกว่า 56 ล้านตัน
ตัวเลขคาดการณ์ข้างต้น ยังสะท้อนให้เห็นถึงภาวะเฟื่องฟูอย่างต่อเนื่อง ในพื้นที่เกษตรกรรมของสหรัฐ ที่ได้แรงหนุนจากความต้องการธัญพืชโลกที่เพิ่มสูงขึ้น และความต้องการข้าวโพดเพื่อนำไปผลิตเชื้อเพลิงเอทานอล ที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ ภาวะภัยแล้งในพื้นที่การเกษตรส่วนใหญ่ของสหรัฐ ที่นักสังเกตการณ์บางรายประเมินว่ามีความรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 50 ปีนั้น ทำให้ได้ผลผลิตที่ย่ำแย่ และดันให้ราคาข้าวโพด และถั่วเหลืองพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งรายงานของกระทรวงเกษตรสหรัฐฉบับนี้ ประเมินว่า รายได้ภาคเกษตรเมื่อปีที่แล้ว อยู่ราว 112,800 ล้านดอลลาร์ ลดลงมาประมาณ 1% จากการประเมินเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และต่ำกว่าระดับเมื่อปี 2554 แต่ยังคงอยู่เหนือระดับเฉลี่ยเป็นประวัติการณ์
จนถึงขณะนี้พื้นที่บางส่วนของมิดเวสต์ อาทิเช่น อินเดียนา และอิลลินอยส์ เริ่มกลับมามีสภาพอากาศที่ชุ่มชื้น แต่พื้นที่ส่วนใหญ่ของที่ราบใหญ่ รวมถึง เนบราสกา และแคนซัส ยังคงอยู่ในภาวะแห้งแล้ง ซึ่งนายสตีฟ เนลสัน ประธานสำนักงานเกษตรเนบราสกา เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด และถั่วเหลืองในพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐ ระบุว่า ถ้าหากในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ยังไม่มีฝนตกลงมามากเป็นพิเศษ เกษตรกรในพื้นที่ก็ต้องเข้าสู่ฤดูเพาะปลูกที่มีความแห้งแล้งอย่างมาก
ภัยแล้งดังกล่าว ยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้เลี้ยงปศุสัตว์ และสุกร เพราะต้นทุนค่าอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งรายงานของกระทรวงเกษตร สหรัฐชี้ว่า ในปีนี้ ผู้ผลิตเหล่านี้น่าจะได้รับประโยชน์จากราคาเนื้อสัตว์ที่สูงขึ้น เพราะการจัดหาตึงตัว โดยคาดว่า ราคาปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์นม และเนื้อหมูจะขยับขึ้นมา 3.5% จากเมื่อปีที่แล้ว
ไร่รักษ์ไม้,มูลไส้เดือน,เกษตรแปรรูป,อุปกรณ์แค้มปิง,อุปกรณ์ป้องกันอุบัติภัย,เอาตัวรอดในภาวะวิกฤต
